อาการโควิด 19 เป็นอย่างไร ไขคำตอบเราติด COVID-19 ยังนะ ?

          คู่มือและวิธีสังเกตอาการป่วยโควิด 19 หากใครมีข้อสงสัยจะป่วยหรือคนรอบข้างเสี่ยงเป็นหรือไม่ มาดูกัน
          เราติดหรือยังนะ ?...เป็นประโยคที่หลายคนถามตัวเองเสมอเมื่อมีอาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว ทำท่าจะเป็นไข้ ไอ-จามขึ้นมาทีมีสะดุ้งกลัวว่าจะถูกโควิด 19 เล่นงานซะแล้ว แต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะหากยังไม่แน่ใจว่าป่วย COVID-19 จริงหรือไม่ ลองเช็กอาการของโรคโควิด 19 ให้แน่ใจเสียก่อน จากข้อมูลทั้งหมดนี้ที่เรารวบรวมมาให้ทราบกัน 
อาการโควิด 19 มีอะไรบ้าง ?
          อาการหลัก ๆ ที่บอกว่าเรามีโอกาสติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้ว นั่นคือ...
อาการโควิด19

อาการที่พบได้บ่อย

1. มีไข้ มีอุณหภูมิร่างกาย 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป (อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีไข้เลย)
2. มีอาการทางเดินหายใจข้อใดข้อหนึ่ง ซึ่งบางคนอาจจะมีเพียงอาการเดียว หรือมากกว่านั้น คือ
  • เจ็บคอ
  • ไอ 
  • มีน้ำมูก
  • หายใจเร็ว หายใจลำบาก หอบเหนื่อย
  • จมูกไม่ได้กลิ่น หรือลิ้นไม่รับรส

อาการอื่น ๆ ที่พบได้บ้าง

          นอกจากมีไข้สูง ร่วมกับอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ในผู้ป่วยหลายรายยังมีรายงานพบอาการเหล่านี้ด้วย แต่เป็นเพียงอาการร่วม ไม่ใช่อาการแสดงหลักของโรค เช่น

  • ปวดหัว
  • อ่อนเพลีย
  • ท้องเสีย 
  • คลื่นไส้ อาเจียน 
  • ปวดเมื่อย ปวดกล้ามเนื้อ
  • ตาแดง 
  • มีผื่นขึ้น
  • หากรุนแรงอาจมีอาการปอดอักเสบ
     
อาการโควิด

          อย่างไรก็ตาม สำหรับการระบาดในปี 2564 พบโควิด 19 ระบาดในหลายสายพันธุ์มากขึ้น ซึ่งอาจมีอาการแตกต่างกันไปบ้าง ดังนี้

อาการโควิดสายพันธุ์อัลฟา (สายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7)

อาจพบอาการต่อไปนี้

  • ในช่วง 14 วันแรกจะมีอาการเป็นไข้  
  • หนาวสั่น 
  • ไอ หายใจถี่ หายใจลำบาก 
  • ปวดศีรษะ 
  • สูญเสียการได้กลิ่น 
  • เจ็บคอ 
  • มีน้ำมูก 
  • อ่อนเพลีย 
  • ปวดเมื่อยตามร่างกาย 
  • อาเจียน หรือท้องเสีย 
  • มีผื่นขึ้นที่เท้าหรือนิ้วเท้า ลักษณะคล้ายตาข่ายหรือเส้นใยเล็ก ๆ หรือมีจุดเลือดออก หรือมีผื่นบวมแดงคล้ายโรคลมพิษ หรือบางรายอาจมีลักษณะกลุ่มของตุ่มน้ำคล้ายโรคอีสุกอีใส 
  • บางรายอาจมีอาการตาแดง แต่พบได้น้อยเพียง 1-3% โดยมีอาการเยื่อบุตาอักเสบหรือบวม น้ำตาไหล ระคายเคืองตา คัน มีขี้ตา ตาสู้แสงไม่ได้

อาการโควิดสายพันธุ์เดลตา (สายพันธุ์อินเดีย B.1.617)

  • ปวดหัว
  • เจ็บคอ
  • มีน้ำมูก 
  • มักจะไม่ค่อยสูญเสียการรับรส 
  • มีอาการทั่วไปคล้ายหวัดธรรมดา 

    ดังนั้น หากรู้สึกไม่สบาย คล้ายเป็นหวัด ควรสังเกตตัวเอง หากมีอาการน่าสงสัยให้รีบไปพบแพทย์

อาการโควิดสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้)

  • ปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • เจ็บคอ
  • ท้องเสีย
  • ปวดศีรษะ
  • ตาแดง
  • การรับรสหรือการได้รับกลิ่นผิดปกติ
  • มีผื่นขึ้นบริเวณผิวหนัง หรือนิ้วมือ นิ้วเท้าเปลี่ยนสี

อาการโควิดสายพันธุ์โอมิครอน (B.1.1.529)

          จากข้อมูลผู้ป่วยโควิดที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน พบว่าส่วนใหญ่มีอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ และบางคนอาจไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย เช่น รู้สึกอ่อนเพลีย เมื่อยล้า ไม่พบการสูญเสียการรับรสหรือรับกลิ่น และส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นภายใน 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยจากอังกฤษยังพบว่า ผู้ป่วยสายพันธุ์โอมิครอนจะมีอยู่ 8 อาการที่สังเกตได้ คือ
  • เจ็บคอ (อาจมีไอแห้ง)
  • น้ำมูกไหล
  • จาม
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า
  • ปวดศีรษะ
  • ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ
  • เหงื่อออกมากในตอนกลางคืน และอาจทำให้เสื้อผ้าชุ่มด้วยเหงื่อจนต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แม้ว่าจะนอนในห้องแอร์ก็ตาม
  • ปวดหลังส่วนล่าง

ประวัติเสี่ยง มีอะไรบ้าง ?

          1. เดินทางมาจากเขตติดโรค หรือพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง
          2. ประกอบอาชีพที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางมาจากเขตติดโรค หรือพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง
          3. สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยสงสัย หรือผู้ป่วยยืนยัน
          4. เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน
          (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์)

ถ้ามีอาการทางเดินหายใจ ร่วมกับมีประวัติเสี่ยงข้อใดข้อหนึ่ง
ควรไปตรวจหา COVID-19 ทันที
โควิดลงปอด มีอาการอย่างไรบ้าง ?

          อาการโควิดที่พบส่วนใหญ่ คือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ คล้ายกับไข้หวัดทั่วไป ซึ่งหากภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรงพอจะสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัส และรักษาตัวให้หายได้เอง ทว่าความอันตรายของโรค COVID-19 อยู่ตรงที่เชื้อไวรัสนี้มีโอกาสลงปอดได้ง่าย โดยเฉพาะสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่แพร่ระบาดระลอกใหม่ นอกจากจะติดต่อง่ายกว่าเดิมแล้ว กลับพบคนหนุ่มสาวมีอาการปอดอักเสบมากขึ้นด้วยทั้งที่บางคนไม่มีอาการป่วยใด ๆ เลย แต่เมื่อเอกซเรย์ปอดกลับเจอฝ้าที่แสดงถึงภาวะปอดอักเสบ ทำให้รักษาได้ล่าช้าและอาจเป็นอันตรายได้

          โดยอาการที่สังเกตได้ว่าเชื้อโควิดลงปอดแล้วก็คือ 

  • ไอแห้ง ๆ มีอาการไอมากขึ้น
  • เหนื่อยง่ายขึ้น สังเกตได้จากเวลาทำกิจกรรมอะไรก็ตามที่เคยทำได้ปกติ แต่ตอนนี้เมื่อทำแล้วจะรู้สึกเหนื่อยเร็วกว่าเดิม  
  • หอบเหนื่อย แน่นหน้าอก
  • หายใจติดขัด หายใจลำบาก หายใจไม่อิ่ม เนื่องจากเชื้อที่ลงปอดจะทำให้เกิดการอุดกั้นบริเวณถุงลมปอด ส่งผลต่อการแลกเปลี่ยนและลำเลียงออกซิเจน 
  • พูดติดขัด ขาดห้วง
  • ระดับออกซิเจนในเลือดลดต่ำลง เพราะเชื้อที่อุดกั้นถุงลมปอด ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไม่ดี จึงส่งออกซิเจนไปยังกระแสเลือดน้อยกว่าปกติ

          นอกจากนี้ยังมีวิธีเช็กง่าย ๆ ด้วยตัวเองว่าโควิดลงปอดแล้วหรือยัง หรือหากลงปอดแล้วจะเป็นอันตรายแค่ไหน สามารถรักษาได้ไหม แล้วจะฟื้นฟูสมรรถภาพปอดกลับมาได้หรือไม่ ตามข้อมูลในกระทู้นี้เลย

อาการโควิดลงปอดเป็นยังไง พร้อมวิธีเช็กเบื้องต้น สัญญาณไหนต้องรีบรักษา

อาการโควิด แบบไหนสีเขียว สีเหลือง สีแดง
          สำหรับการประเมินอาการความรุนแรงของผู้ป่วยโควิด 19 จะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ

ผู้ป่วยสีเขียว อาการไม่รุนแรง สามารถทำ Home isolation ได้

  • ไม่มีอาการ
  • มีไข้ หรือวัดอุณหภูมิร่างกายได้ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป
  • ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ
  • ไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ตาแดง ผื่น
  • ถ่ายเหลว
  • ไม่มีอาการหายใจเร็ว
  • ไม่มีอาการหายใจเหนื่อย
  • ไม่มีอาการหายใจลำบาก
  • ไม่มีปอดอักเสบ
  • ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง / โรคร่วมสำคัญ

ผู้ป่วยสีเหลือง

  • มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงหรือโรคร่วมสำคัญ ข้อใดข้อหนึ่ง
  • แน่นหน้าอก
  • หายใจไม่สะดวกขณะทำกิจกรรม
  • หายใจเร็ว เหนื่อย หายใจลำบาก ไอแล้วเหนื่อย
  • อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ
  • ปอดอักเสบ
  • ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวันร่วมกับหน้ามืดวิงเวียน

ผู้ป่วยสีแดง

  • หอบเหนื่อย พูดไม่เป็นประโยค

  • แน่นหน้าอกตลอดเวลา หายใจแล้วเจ็บหน้าอก

  • ซึม เรียกไม่รู้ตัว ตอบสนองช้า

  • ปอดบวมที่มี hypoxic (risting O2 saturation <96%) หรือมีภาวะลดลงของออกซิเจน SpO2 มากกว่าหรือเท่ากับ 3% ของค่าที่วัดได้ครั้งแรกขณะออกแรง หรือภาพรังสีทรวงอกมี progression ของ pulmonary infiltrates

เปรียบเทียบอาการโควิด 19 กับโรคอื่น ๆ
         อาการป่วยที่กล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นไข้ ไอ จาม เจ็บคอ ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่น ๆ ที่คล้ายกับ COVID-19 ได้เช่นกัน ดังนั้น ลองมาเปรียบเทียบความแตกต่างของโรคโควิด 19, ไข้หวัดทั่วไป, ไข้หวัดใหญ่, ไข้เลือดออก และโรคภูมิแพ้ กันดูก่อน
covid-19

โควิด19

อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วย COVID-19 บางคนอาจไม่แสดงอาการอะไรเลย
แต่ตรวจพบเชื้อในร่างกายได้เช่นกัน ดังนั้น ให้พิจารณาประวัติเสี่ยงของตัวเองด้วย
แบบประเมินความเสี่ยง เราติดโควิดหรือยัง ?
          หากเช็กอาการเองแล้วก็ยังไม่ค่อยมั่นใจ หรือกลัวจะพลาด งั้นลองมาทำแบบประเมินความเสี่ยงที่หน่วยงานต่าง ๆ จัดทำขึ้น เพื่อให้รู้ชัวร์ ๆ ว่าเราเข้าข่ายติดโควิด-19 แล้วจริงไหม ?
bkk covid

แบบประเมินความเสี่ยงจากกรุงเทพมหานคร
หากทำแบบประเมินแล้วพบว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทาง กทม. จะไปตรวจหาโควิด 19 ให้ฟรีถึงบ้าน

รวมข่าวและบทความน่าสนใจ
          สำหรับคนที่มีคำถาม มีข้อสงสัย หรืออยากพูดคุยสอบถามเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์โรค COVID 19 เราได้รวบรวมสายด่วนปรึกษาปัญหามาให้แล้ว
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อาการโควิด 19 เป็นอย่างไร ไขคำตอบเราติด COVID-19 ยังนะ ? อัปเดตล่าสุด 24 ธันวาคม 2564 เวลา 13:45:26 3,358,585 อ่าน
TOP