1. หน้ากากอนามัย
หน้ากากอนามัย ลักษณะเป็นกระดาษมีสารเคลือบกันชื้น จะแบ่งเป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) และหน้ากากอนามัยทั่วไป (Non-Medical) ส่วนใหญ่จะมีสีแตกต่างกันในแต่ละด้าน เช่น ด้านหนึ่งสีฟ้า ด้านหนึ่งสีขาว หรือปัจจุบันจะเห็นหน้ากากอนามัยทั่วไป (Non-Medical) ในหลาย ๆ สี เช่น สีดำล้วน สีชมพู สีม่วง เป็นต้น
* ประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัย
- กรองอนุภาคและแบคทีเรียขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอน ได้
- ลดการแพร่กระจายของละอองฝอยขนาดใหญ่และขนาดเล็กได้ 80%
- สามารถหายใจผ่านได้
* เหมาะกับใคร ?
โดยปกติหน้ากากอนามัยทั่วไป (Non-Medical) ก็มีความสามารถในการป้องกันโควิด 19 เพียงพอ ดังนั้นเราใส่หน้ากากอนามัยชนิด (Non-Medical) ก็ได้ ส่วนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ให้บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ต้องคัดกรองผู้ป่วยโควิด คนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น โรงพยาบาล หรือผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ใส่ป้องกันโควิด 19 ดีกว่า
- เช็ก 13 กลุ่มเสี่ยงอาการหนักหากติดโควิด 19 รักษาช้าอาจถึงตาย
* การใช้งาน
ไม่ควรใช้ซ้ำ และควรทิ้งให้ถูกวิธี
2. หน้ากากผ้า
หน้ากากที่ทำมาจากผ้าฝ้าย ผ้าใยสังเคราะห์ หรือผ้าสาลู สามารถทำเองได้ ช่วยประหยัดเงินและทรัพยากร
* เหมาะกับใคร ?
คนทั่วไป ผู้ที่ไม่มีอาการป่วย ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อ สามารถใช้หน้ากากผ้าเพื่อลดการปนเปื้อนของละอองฝอยจากการไอ จาม ได้
* ประสิทธิภาพของหน้ากากผ้า
- สามารถซักได้ ใช้ซ้ำได้
- ป้องกันการซึมไม่ได้ แต่พอจะช่วยลดละอองฝอยจากการไอ-จามเข้าสู่ร่างกายได้
- ความสามารถในการกรองขึ้นอยู่กับชนิดของผ้า แต่ก็มีประสิทธิภาพด้อยกว่าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ทว่าก็ยังช่วยป้องกันละอองฝอยจากคนที่จามหรือไอใส่หน้าเรา ได้ดีกว่าการไม่ใส่หน้ากากอะไรเลย
- กรมอนามัย ระบุว่า สามารถป้องกันเชื้อโรคได้ประมาณ 54-59%
* การใช้งาน
- หากระหว่างวันที่ใช้อยู่ หน้ากากมีความชื้น ควรเปลี่ยนชิ้นใหม่
- ควรซักทุกวัน และมีหน้ากากผ้ามากกว่า 1 ชิ้น เพื่อสลับกันใช้
- หากใช้ไประยะหนึ่งแล้ว หรือซักหลายครั้งแล้ว ควรเปลี่ยนหน้ากากผ้าชิ้นใหม่
- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แนะนำว่า สามารถนำสเปรย์แอลกอฮอล์ 70% ฉีดลงบนหน้ากากผ้าทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง หรือทุกครั้งที่มีการใช้ หยิบจับหน้ากาก แล้วรอ 2-3 นาทีก่อนสวมใส่ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน และฆ่าเชื้อไวรัสบริเวณหน้ากากผ้า อย่างไรก็ตาม การฉีดแอลกอฮอล์ 70% ลงบนหน้ากากผ้า อาจจะมีข้อจำกัดในการใช้งานบางประการ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอาการแพ้บนผิวหน้า ซึ่งเป็นบริเวณผิวที่บอบบาง
- วิธีทำหน้ากากอนามัยด้วยตัวเอง หาซื้อยากนัก มา DIY ผ้าปิดปากกันเลย !
3. หน้ากาก N95
เรารู้จักหน้ากาก N95 พร้อม ๆ กับที่รู้จักฝุ่น PM2.5 เพราะหน้ากากชนิดนี้สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กมาก ๆ ได้ แต่บทบาทในการป้องกันเชื้อโรค N95 ก็มีคุณสมบัติไม่ต่างจากหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) มากนัก เพราะกันน้ำได้ และสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้พอ ๆ กัน ทว่า N95 จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียได้ดีกว่าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์นะคะ
* เหมาะกับใคร ?
- บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ หรือผู้ต้องสงสัยจะติดเชื้อ
* ประสิทธิภาพของหน้ากาก N95
- สามารถกรองอนุภาคได้ถึง 0.3 ไมครอน
- ความสามารถในการกรองสูงถึง 95%
* การใช้งาน
- ใช้ได้ครั้งเดียว และไม่ควรใช้ร่วมกับผู้อื่น
หน้ากากอนามัยรองด้วยทิชชู ผ้าอนามัย ได้ไหม ?
เพราะอยากประหยัดหลายคนเลยนำทิชชูหรือผ้าอนามัยมารองหน้ากากอนามัย เสมือนเป็นแผ่นกรองอีกชั้น ทั้งที่จริงแล้ววิธีนี้ไม่ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้มากขึ้นอย่างที่หวัง แถมยังอันตราย เพราะในผ้าอนามัยจะเป็นพวกสำลี โพลีเมอร์ หรือเยื่อกระดาษตีฟู ไว้ซึมซับของเหลวอย่างประจำเดือน หรือทิชชูเองก็เป็นเยื่อกระดาษเช่นกัน วัสดุเหล่านี้ไม่ได้ผลิตมาเพื่อกรองฝุ่นควัน และการสูดดมเป็นเวลานาน ๆ อาจส่งผลต่อการทำงานของปอดได้ ดังนั้นอย่าหาทำจะดีกว่า
หน้ากากอนามัยแบบมีวาล์ว ป้องกันโควิดได้ไหม ?
ประเด็นนี้มีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญหลายท่านออกมาเตือนว่า หน้ากากอนามัยแบบมีวาล์ว ไม่ควรใส่ป้องกันการติดเชื้อไวรัส เนื่องจากวาล์วบนหน้ากากจะมีการรั่วไหล 1-5% จากการหายใจเข้า และรั่วไหล 20-50% จากการหายใจออก
นั่นหมายความว่า เมื่อไอหรือจาม ละอองสารคัดหลั่งเหล่านี้มีโอกาสแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นได้ และในทางกลับกันเราก็อาจได้รับเชื้อจากละอองสารคัดหลั่งของผู้อื่นผ่านวาล์วบนหน้ากากได้เช่นกัน ดังนั้นในการป้องกันโควิด 19 ใส่หน้ากากอนามัยที่ไม่มีวาล์วจะดีที่สุด
ใส่หน้ากากไม่ถูกวิธี มีโอกาสเสี่ยงรับเชื้อง่ายกว่าเดิม !
แม้หน้ากากอนามัยจะเป็นด่านหน้าที่ช่วยป้องกันเชื้อโรค แต่หากเราใส่และถอดหน้ากากไม่ถูกวิธี รวมทั้งใช้มือไปจับด้านหน้าของหน้ากากบ่อย ๆ หรือขยับหน้ากากบ่อย ๆ ก็มีโอกาสสูงมากที่มือจะไปสัมผัสถูกเชื้อโรคที่สะสมอยู่บนพื้นผิวหน้ากาก แล้วถ้าใช้มือขยี้ตา ก็จะทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้โดยตรง ดังนั้น เมื่อใส่หน้ากากแล้ว ต้องระมัดระวังการสัมผัสหน้ากาก รวมทั้งถอดหน้ากากให้ถูกวิธีด้วย
อ้อ ! และควรใส่หน้ากากให้กระชับใบหน้าที่สุด ไม่ใส่หน้ากากไว้ใต้คาง หรือใส่หน้ากากแบบไม่ครอบคลุมจมูกและปากด้วยนะคะ
การล้างมือก็สำคัญ !
เนื่องจากข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่า โคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2019 จะติดต่อผ่านการสัมผัสใกล้ชิดเป็นส่วนใหญ่ โดยเชื้อจะแพร่กระจายออกมาจากการไอ จาม พ่นเอาเชื้อมากับละอองฝอยขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน (AirBorne) ซึ่งสามารถแพร่ไปไกลได้ในระยะ 2 เมตร ดังนั้นถ้าไปสัมผัสเชื้อไม่ว่าจะทางไหน แล้วไม่ล้างมือให้ดี ก็อาจเสี่ยงกับการนำเชื้อที่ติดอยู่กับมือเราเข้าสู่ร่างกายได้ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้น หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ฟอกสบู่ให้นาน อย่างน้อย 20 วินาที หรือร้องเพลง Happy Birthday 2 รอบ เพื่อให้มือสะอาดปลอดเชื้อโรคด้วยนะคะ
น่าจะพอกระจ่างกันบ้างแล้วว่าเราควรใส่หน้ากากอนามัยตอนไหน และควรเลือกหน้ากากแบบไหนมาใส่ป้องกัน COVID 19 ดี
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 19 มกราคม 2564
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
องค์การอนามัยโลก, สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, Thai PBS, แพทยสภา, กรมอนามัย, สปริงนิวส์, เฟซบุ๊ก Science & Technology Thammasat University Official, เฟซบุ๊ก Drama-addict, กระทรวงสาธารณสุข, เฟซบุ๊ก RUEE RMUTL, ชัวร์ก่อนแชร์, เฟซบุ๊ก Drama-addict