เปิดตัวเลขคนติดโควิด 19 หลังล็อกดาวน์ 2 สัปดาห์ พบยอดเพิ่มสูงขึ้น หมอชี้เพราะสาเหตุนี้ คนป่วยไม่รู้ตัว ถูกล็อกตัวให้อยู่กับคนอื่นจนแพร่เชื้อเพิ่ม คาดอาจจะมีมาตรการล็อกดาวน์แบบเต็มรูปแบบทั้งประเทศ
ภาพจาก รายการเอาให้ชัด ทางช่องวัน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตอนนี้ ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลง จากตัวเลขของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นทุกวัน แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการคุมเข้มพื้นที่สีแดง 13 จังหวัด กับมาตรการล็อกดาวน์ และเคอร์ฟิว ก็ตาม
วันที่ 26 กรกฎาคม 2564 รายการเอาให้ชัด ทางช่องวัน รายงานว่า ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ หลังมาตรการล็อกดาวน์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตกลับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด (26 กรกฎาคม) ยอดผู้ป่วยอาการหนักอยู่ที่ 4,289 ราย และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 967 ราย และเมื่อย้อนกลับไป 10 วัน พบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จากวันที่ 17 กรกฎาคม อยู่ที่ 10,082 ราย จนวันนี้ (26 กรกฎาคม) อยู่ที่ 15,376 ราย
วันที่ 26 กรกฎาคม 2564 รายการเอาให้ชัด ทางช่องวัน รายงานว่า ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ หลังมาตรการล็อกดาวน์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตกลับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด (26 กรกฎาคม) ยอดผู้ป่วยอาการหนักอยู่ที่ 4,289 ราย และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 967 ราย และเมื่อย้อนกลับไป 10 วัน พบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จากวันที่ 17 กรกฎาคม อยู่ที่ 10,082 ราย จนวันนี้ (26 กรกฎาคม) อยู่ที่ 15,376 ราย
หมอธีระวัฒน์ ชี้ล็อกดาวน์ไม่ต่างจากหม้ออบเชื้อ
ภาพจาก รายการเอาให้ชัด ทางช่องวัน
ศ. นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า การจะล็อกดาวน์นั้น จะต้องรู้ว่ามีใครติดเชื้อแล้วบ้าง เพราะหากล็อกไปแล้วไม่รู้ว่าใครติดบ้าง ก็เหมือนกับเป็นหม้ออบเชื้อ คือการเอาคนที่ติดเชื้อเข้าไปอยู่กับคนที่ไม่ติด เช่น ถ้าอยู่ด้วยกัน 10 คน มี 1 คนติด อีก 9 คน ที่อยู่ด้วยกันก็ต้องติดไปด้วย
ภาพจาก รายการเอาให้ชัด ทางช่องวัน
หมอธีระ ชี้มาตรการโควิด 19 ไม่พอ ล็อกดาวน์ 14 วัน แต่ยอดติดเชื้อสูงขึ้น
ขณะที่ รศ. นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊ก (26 กรกฎาคม) ถึงเรื่องนี้เช่นกันว่า มองย้อนกลับไป 4 สัปดาห์ก่อนจนถึงเมื่อวานนี้ ไทยเรามีจำนวนการติดเชื้อใหม่ในแต่ละสัปดาห์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหากคิดเฉพาะจำนวนที่ติดเชื้อภายในประเทศ จะพบว่าเพิ่มจาก 38,550 เป็น 53,099 เป็น 66,892 เป็น 93,818 คน หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มถึง 37.74 เปอร์เซ็นต์, 25.97 เปอร์เซ็นต์ และ 40.25 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ไม่มีติดลบ มีแต่บวกเพิ่มทั้งสิ้น
ภาพจาก รายการเอาให้ชัด ทางช่องวัน
หรือหวังจะพึ่งผลจากวัคซีนโควิด แบบที่พยายามประโคมข่าวนั้น บอกตรง ๆ ว่าหวังได้ยาก เพราะจำเป็นต้องใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง ฉีดครอบคลุมคนจำนวนมากในทุกพื้นที่ และกว่าจะเห็นผลก็ใช้เวลานานหลายเดือน ความสูญเสียจากการติดเชื้อเจ็บป่วย และเสียชีวิตนั้นจะมากเกินกว่าที่จะยอมรับได้ จำเป็นต้องตัดวงจรการระบาดให้ได้
คาดทางออกอาจต้องล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ 1 เดือน
ภาพจาก รายการเอาให้ชัด ทางช่องวัน
ถ้าปล่อยให้ศึกยืดยาวแบบนี้ต่อไป โดยตัดวงจรการระบาดไม่ได้ ไตรมาสสุดท้ายของปีจะเป็นภาวะที่ยากลำบากมากสำหรับประชาชนและประเทศ เอาใจช่วยทุกคนให้อยู่รอดปลอดภัยไปด้วยกัน ใส่หน้ากากนะครับ 2 ชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก…
ภาพจาก รายการเอาให้ชัด ทางช่องวัน
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการเอาให้ชัด ทางช่องวัน, เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat