นพ.โอภาส ยอมรับ วิกฤตโควิด-19 ไทย ชี้ชะตาใน 1-2 เดือนนี้ หากยันไม่อยู่ อาจต้องปิดเมืองแบบอู่ฮั่น ห้ามออกจากบ้าน ถึงขั้นส่งข้าวส่งน้ำให้ แต่เชื่อว่าไตรมาส 4 สถานการณ์น่าจะดีขึ้น
ภาพจาก kan Sangtong / Shutterstock.com
วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ไทยโพสต์ รายงานว่า มีการนัดประชุมสื่อมวลชนเพื่อหารือแนวทางการสื่อสารภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผอ.ศปก.ศบค. ระบุว่า การแก้ไขปัญหาการควบคุมโรค ประกอบด้วยรัฐ เอกชน ประชาชน และสื่อมวลชน โดยรัฐกำหนดนโยบาย มีเอกชนและประชาชนช่วยเหลือและสนับสนุน ส่วนสื่อมวลชนทำหน้าที่ชี้แจงให้เข้าใจ จึงสามารถก้าวข้ามสถานการณ์นี้ได้
ส่วนมาตรการที่ออกมาล่าสุด จำเป็นที่ต้องปรับให้ทันสถานการณ์ เพราะการระบาดเพิ่มมากขึ้น และไม่จำเป็นต้องเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เพราะได้ออกข้อกำหนดเพิ่มมาตรการไว้แล้ว แต่สาเหตุที่ไม่มีการสั่งห้ามไปเลยในข้อกำหนดว่า การออกประกาศหรือคำสั่ง เมื่อประกาศแล้วต้องทำได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา หวังว่าประชาชนจะให้ความร่วมมืออย่างน้อย 14 วัน ไม่อยากให้มีการั้งด่าน ส่วนการทำงานที่บ้านก็อยากให้ทำ 100%
ส่วนมาตรการที่ออกมาล่าสุด จำเป็นที่ต้องปรับให้ทันสถานการณ์ เพราะการระบาดเพิ่มมากขึ้น และไม่จำเป็นต้องเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เพราะได้ออกข้อกำหนดเพิ่มมาตรการไว้แล้ว แต่สาเหตุที่ไม่มีการสั่งห้ามไปเลยในข้อกำหนดว่า การออกประกาศหรือคำสั่ง เมื่อประกาศแล้วต้องทำได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา หวังว่าประชาชนจะให้ความร่วมมืออย่างน้อย 14 วัน ไม่อยากให้มีการั้งด่าน ส่วนการทำงานที่บ้านก็อยากให้ทำ 100%
ภาพจาก สำนักข่าว INN
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยอมรับว่า ขณะนี้เป็นการชะลอไม่ให้ตัวเลขติดเชื้อเพิ่มขึ้น หากไม่มีมาตรการที่เข้มขึ้น ยอดจะไม่ลดลง จึงขอความร่วมมือกันดูแลตัวเอง โดยคาดว่า 2 สัปดาห์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงไม่ลดลงในเร็ววัน และถ้าหากยังติดเชื้อสูงใน 2 เดือน ก็อาจจะใช้มาตรการล็อกดาวน์คล้ายเมืองอู่ฮั่น คือ ล็อกดาวน์เมืองเพื่อคุมการระบาด ประชาชนต้องอยู่บ้าน งดการเดินทาง หรือถึงขั้นต้องส่งข้าวส่งน้ำตามบ้าน
ในช่วง 1-2 เดือนนี้ จึงเป็นช่วงที่วิกฤตที่สุด แต่คาดว่า ไตรมาส 4 สถานการณ์จะดีขึ้น
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์
