สรุปดราม่า เอกสารหลุด astrazeneca อนุทิน ชี้ไทยเซ็นสัญญาลงทุนตั้งโรงงานพร้อมพันธะสัญญาที่จะจัดส่งวัคซีนให้ภูมิภาคนี้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม แบ่งให้ไทยแล้ว 1 ใน 3 แต่อย่างไรก็ไม่พอ ด้านไทยคาดผิด บอกขอ 3 ล้านโดส แต่โรคระบาด เพิ่มให้เป็น 6 ล้านโดส ตอนนี้จะมาขอ 10 ล้านโดส จะเอาที่ไหนให้ !

ภาพจาก Mike Mareen / Shutterstock.com
วันที่ 17 กรกฎาคม 2564 สำนักข่าวอิศรา ได้เผยเอกสารหลุด ที่เป็นการโต้ตอบระหว่างบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า และนายอนุทิน ชาญวีระกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไทย กับ นาย นายสจอร์ด ฮับเบน รองประธานฝ่ายกิจการองค์กรทั่วโลก ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า หนังสือลับลงวันที่ 25 มิถุนายน 2564

ภาพจาก Mats Wiklund / Shutterstock.com
หนังสือระบุชัด จุดประสงค์ในสัญญา เพื่อกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง ไทยได้ของไป 1 ใน 3 แต่ไม่พอ
ในช่วงแรกของจดหมายฉบับดังกล่าว พูดถึงการเซ็นหนังสือแสดงเจตจำนง 3 ฝ่าย ระหว่างแอสตร้าเซนเนก้า สยามไบโอไซเอนซ์ และ SCG ที่ลงนามเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563 โดยที่จุดประสงค์คือ เพื่อให้นานาชาติ สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างกว้างขวาง ทั่วถึง เป็นธรรม ซึ่งทางแอสตร้าเซนเนก้า สามารถตั้งโรงงานเพื่อผลิตวัคซีนของสยามไบโอไซเอนซ์ได้สำเร็จ และได้รับการอนุมัติจาก อย. และตกลงทำสัญญาในการผลิตวัคซีนให้ใช้ในประเทศไทย โดยที่ไม่คิดหากำไร โดยจะส่งวัคซีนล็อตแรกให้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021
ทั้งนี้ สายการผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในไทย เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน และจากนั้นไม่นาน ทางแอสตร้าเซนเนก้าก็ได้ส่งมอบวัคซีนโควิด แอสตร้าเซนเนก้าล็อตแรกที่ผลิตในไทยให้ทันที จนทำให้ตอนนี้ ในไทยได้รับวัคซีนหลายล้านโดสแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางแอสตร้าเซนเนก้า ได้เตรียมการอย่างเร่งด่วนเพื่อที่จะส่งออกวัคซีนไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ เนื่องจากรัฐบาลของประเทศเหล่านี้ ที่ตกลงเซ็นหนังสือแสดงเจตจำนงกับแอสตร้าเซนเนก้าเช่นกัน ก็ได้อดทนรอให้มีสายการผลิต และค่อนข้างจะวิตกเกี่ยวกับการส่งมอบ
และสุดท้าย ทางแอสตร้าเซนเนก้ายืนยันว่า วัคซีนที่ผลิตได้นั้น ไทยก็จะได้ถึง 1 ใน 3 ของการผลิต เช่น ผลิตได้ 3 ล้านโดส ไทยจะได้ไป 1 ล้านโดส ส่วนที่เหลือ 2 ล้านโดส จะแบ่งสรรปันส่วนไปให้ประเทศอื่น ๆ

ไทยเพิ่งเซ็นสัญญาซื้อแอสตร้าฯ เพิ่ม หลังโรคระบาดหนัก-เคยแนะนำให้เข้าร่วม Covax แต่ไม่ยอม
อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตหนึ่งที่น่าสนใจคือ ไทยได้ตกลงเซ็นสัญญาซื้อวัคซีนกับแอสตร้าเซนเนก้าเมื่อเดือนมกราคม 2564 ที่ 26 ล้านโดส และเดือนพฤษภาคม 2564ที่ 35 ล้านโดส รวมทั้งหมดเป็น 61 ล้านโดส คิดเป็น 34.93% ของสายการผลิต ทว่ากลับไม่มีข้อเขียนใด ๆ ที่บอกถึงวันเวลาส่งมอบวัคซีน แต่รัฐบาลกลับบอกประชาชนว่า สามารถนำวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากว่า 61 ล้านโดสเข้าไทยได้ในปลายปีนี้ ก่อนที่จะมาเปลี่ยนบอกว่า จะเข้าได้จริง ๆ คือ พฤษภาคม 2565
สิ่งที่น่าสนใจในหน้าต่อมาคือ ทางแอสตร้าเซนเนก้ายอมรับว่า สายการผลิตของโรงงานที่ตั้งในไทยนั้น ค่อนข้างใหม่ และคาดว่าไทยจะได้รับวัคซีนประมาณ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน และหวังว่าไทยเองจะยินดีกับจำนวนที่ส่งมอบในครั้งนี้ เนื่องจากการประชุมเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563 ไทยเองคาดการณ์ไว้ว่า ต้องการวัคซีนเพียง 3 ล้านโดสต่อเดือน ซึ่งเมื่อส่งให้ 6 ล้านโดสก็นับเป็น 2 เท่าแล้ว และทางแอสตร้าเซนเนก้าเอง ยังเคยแนะนำให้รัฐบาลไทยเข้าร่วมกับโครงการ Covax ซึ่งไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อเปิดโอกาสให้ไทยได้รับวัคซีนที่เยอะขึ้น ควบคู่ไปกับการซื้อวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้าโดยตรง และเป็นส่วนหนึ่งของแผนการกระจายวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า (แต่รัฐบาลไทยไม่ได้เข้าร่วม)

ภาพจาก สำนักข่าว INN
อนุทิน ตอบกลับ ยอมรับตอนนี้โควิดไทยแพร่ระบาด ทวงยิก ๆ ขอ 10 ล้านโดสได้ไหม
จากนั้นได้มีหนังสือตอบกลับจากนายอนุทินถึงแอสตร้าเซนเนก้า โดยในตอนต้นได้กล่าวขอบคุณถึงการตั้งโรงงานและโอนถ่ายเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนในไทย ซึ่งผลออกมาทำให้ต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ทางรัฐบาลไทยได้ทำแผนการฉีดวัคซีนใหม่ และทางนายกรัฐมนตรีได้ให้สัญญาว่าจะจัดหาวัคซีน 10 ล้านโดสมาให้คนไทย ซึ่งหากเป็นแบบนี้ ทางรัฐบาลต้องการวัคซีนที่มากกว่า 1 ใน 3 ที่แอสตร้าเซนเนก้าจัดหาให้ และต้องการพูดคุยเรื่องนี้กันโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ นายอนุทินยังได้แต่งตั้ง นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่อร่วมพูดคุยในครั้งนี้ด้วย
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวอิศรา