สื่อนอกชี้ ไทยเป็นชาติแรก ฉีดสลับวัคซีน 2 ยี่ห้อ เจอ WHO เตือน มันคือเทรนด์อันตราย

         องค์การอนามัยโลกเตือน ฉีดวัคซีนโควิด 19 สลับยี่ห้อ เป็นกระแสนิยมค่อนข้างอันตราย ชี้ยังขาดข้อมูลวิจัย ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุน ย้ำไม่ควรให้ประชาชนตัดสินใจเอง ขณะที่สื่อนอกแห่ตีข่าว ไทยเป็นชาติแรก ประกาศใช้สูตรผสมวัคซีนซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า


ซิโนแวค, แอสตร้าเซนเนก้า
ภาพจาก Nikkei Asia

         ยังคงเป็นที่ติดตามอย่างใกล้ชิดสำหรับประชาชน สำหรับมาตรการรับมือโควิด 19 ในประเทศไทย ตลอดจนการวางแผนฉีดวัคซีนที่เป็นประเด็นร้อน ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยในวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ได้มีความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ให้ปรับแผนการฉีดวัคซีนซิโนแวค จากที่จะมีการฉีด 2 โดส ให้ใช้สูตรใหม่ ฉีดวัคซีนซิโนแวค เป็นเข็มที่ 1 และสลับมาฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรกนาน 3 - 4 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลตา

         อ่านข่าว : ปรับแผนแล้ว ! มติเลิกฉีด ซิโนแวค 2 เข็ม ให้ฉีดสลับกับแอสตร้าฯ รับมือสายพันธุ์เดลตา

ซิโนแวค, แอสตร้าเซนเนก้า

         ล่าสุด (13 กรกฎาคม) พบว่ามติดังกล่าวของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้สร้างกระแสฮือฮาและถูกนำเสนอในสำนักข่าวต่างชาติหลายเจ้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสำนักข่าวบีบีซี, รอยเตอร์ส, ฟอร์บส์, นิกเคอิ เอเชีย และเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ โดยรอยเตอร์ส ระบุว่า ไทยเตรียมผสมการฉีดวัคซีน 2 ชนิด คือ ซิโนแวคและแอสตราเซนเนก้า ซึ่งนี่เป็นการประกาศอย่างเป็นทางการครั้งแรกในการจับคู่สลับฉีดวัคซีน ที่พัฒนาจากจีนและชาติตะวันตก เพื่อยกระดับการป้องกันไวรัส หลังงานวิจัยเบื้องต้นในไทยทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพการป้องกันในระยะยาว ของสูตรฉีดซิโนแวค 2 โดส
 
         อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการศึกษาเฉพาะเกี่ยวกับการผสมสูตรวัคซีนที่ปล่อยออกมา แต่มีหลายประเทศมากขึ้นที่มองหาทางนำวัคซีนที่ต่างกัน 2 ชนิดมาผสมผสานกัน หรือฉีดบูสต์เข็มที่ 3 ท่ามกลางความกังวลว่าไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ ๆ อาจจะหลบหลีกวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติไปก่อนหน้านี้ได้

ซิโนแวค, แอสตร้าเซนเนก้า

         ขณะที่ India Today เผยรายงานว่า ดร.โสมยา สวามีนาธาน หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเผยคำเตือนระหว่างการแถลงข่าวของ WHO เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 กรกฎาคม) เรื่องการนำวัคซีนโควิด 19 จากผู้ผลิตที่แตกต่างกันมาผสมผสานกัน ตามที่หลายประเทศเริ่มมีแนวคิดดำเนินการ โดยชี้ว่าเป็นกระแสนิยมที่ค่อนข้างเป็นอันตราย เนื่องจากขณะนี้ยังมีข้อมูลการวิจัยในเรื่องนี้น้อยมาก

         ดร.โสมยา ย้ำว่า ขณะนี้เรายังไม่มีข้อมูลและหลักฐานใด ๆ ที่จะมาสนับสนุนเรื่องการจับคู่ผสมวัคซีน และอาจกลายเป็นสถานการณ์ปั่นป่วนในประเทศต่าง ๆ หากประชาชนเริ่มตัดสินใจกันเองว่าจะฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 3 และ 4 กับใครและฉีดเมื่อไหร่
 
         อนึ่ง ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อกำลังชั่งน้ำหนักว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ไปแล้ว 1 เข็ม ควรได้รับการฉีดบูสต์ด้วยวัคซีนชนิด mRNA อย่าง ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา หรือไม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับไวรัสสายพันธุ์เดลตา อย่างไรก็ตาม ดร.โสมยา มองว่าขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่บ่งชี้ว่าการฉีดวัคซีนบูสต์เข็ม 3 เป็นสิ่งจำเป็น โดยข้อมูลเรื่องวัคซีนนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และข้อมูลงานวิจัย    
 


         ทั้งนี้ ต่อมา ดร.โสมยา ยังเผยผ่านทวิตเตอร์เพิ่มเติม หลังสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานข่าว WHO เห็นค้านการจับคู่วัคซีน โดยชี้ว่า "ประชาชนไม่ควรเป็นผู้ตัดสินใจด้วยตัวเอง ผู้ที่สามารถตัดสินได้คือหน่วยงานด้านสาธารณสุข ตามข้อมูลที่มีอยู่ ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการสลับและจับคู่วัคซีนที่ต่างกันยังเป็นที่รอคอย จำต้องมีการประเมินทั้งในด้านความสามารถในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและความปลอดภัย"




ซิโนแวค, แอสตร้าเซนเนก้า
ภาพจาก Vladimka production / Shutterstock.com

ซิโนแวค, แอสตร้าเซนเนก้า





ซิโนแวค, แอสตร้าเซนเนก้า
ภาพจาก BBC


ซิโนแวค, แอสตร้าเซนเนก้า
ภาพจาก Wolfilser / Shutterstock.com

>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 <<  ได้ที่นี่  

ขอบคุณข้อมูลจาก BBC, Reuters, India Today



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สื่อนอกชี้ ไทยเป็นชาติแรก ฉีดสลับวัคซีน 2 ยี่ห้อ เจอ WHO เตือน มันคือเทรนด์อันตราย อัปเดตล่าสุด 13 กรกฎาคม 2564 เวลา 14:45:41 26,038 อ่าน
TOP