หมอยง เผย กำลังศึกษาฉีดวัคซีนเข็ม 3 ป้องกันสายพันธุ์เดลตา ชี้ ผลได้ระดับน้อง ๆ ไฟเซอร์ งานนี้คนงง แล้วทำไมไม่สั่งไฟเซอร์แต่แรก จะได้มีคุณภาพเท่ากับไฟเซอร์ไปเลย ซ้ำร้ายยังสั่งซิโนแวคมาอีก 28 ล้านโดส
ภาพจาก Brickinfo Media / Shutterstock.com
วันที่ 23 มิถุนายน 2564 นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการโพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เกี่ยวกับวัคซีนโควิด 19 กับสายพันธุ์เดลตา (สายพันธุ์อินเดีย) มีรายละเอียดดังนี้
ตามวิวัฒนาการของไวรัส ไวรัสจะกลายพันธุ์เพื่อหลบหลีกภูมิคุ้มกันร่างกาย ดังนั้น โควิด 19 จึงมีหลากหลายสายพันธุ์ดังที่ข่าวเสนอ แต่ว่าวัคซีนโควิด 19 ส่วนใหญ่ ทั้งหมดล้วนพัฒนามาจากสายพันธุ์ดั้งเดิมคืออู่ฮั่น
ส่วนสายพันธุ์อื่น ๆ กับวัคซีน มีประสิทธิผลเป็นดังนี้
- สายพันธุ์อังกฤษ (อัลฟา) ยังไม่หลบหลีกประสิทธิภาพวัคซีนมากนัก
- สายพันธุ์แอฟริกาใต้ (เบตา) หลบหลีกได้มาก แต่กระจายโรคได้น้อยกว่า
- สายพันธุ์อินเดีย (เดลตา) หลบหลีกได้น้อยว่าแอฟริกาใต้ แต่กระจายโรคได้มากกว่า ในอนาคตจะมีการแทนที่สายพันธุ์อังกฤษที่กำลังระบาดทั่วโลกแทน
เช่นเดียวกับประเทศไทย ตอนแรกเดิมเป็นสายพันธุ์ G และก็มีสายพันธุ์อัลฟาระบาดเข้ามา ทำให้ผู้ป่วยเกือบทั้งหมดคือสายพันธุ์นี้ และในอนาคตอาจจะเป็นสายพันธุ์อินเดีย เพราะเริ่มมีการระบาดในประเทศไทยแล้ว
ทั้งนี้ สายพันธุ์เดลตา ต้องใช้ภูมิต้านทานของวัคซีนที่สูงในการป้องกัน ซึ่งไทยก็มีการปรับแผนฉีดวัคซีนเข็ม 2 ของแอสตร้าเซนเนก้า ให้เร็วขึ้น เพื่อช่วยลดความรุนแรงของโรค
ส่วนวัคซีนยี่ห้ออื่นที่มีการกระตุ้นภูมิต้านทานได้น้อยกว่า อาจจะต้องใช้การกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มระดับภูมิต้านทานต่อไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan
หมอยง บอก ถ้าฉีดเข็มที่ 3 คุณภาพได้น้อง ๆ ไฟเซอร์
ไทยโพสต์ รายงานว่า นพ.ยง มีการแถลงข่าวอัปเดตเรื่องสายพันธุ์เดลตาว่า หากฉีดวัคซีนไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า ฉีดเข็มเดียวภูมิคุ้มกันไม่สูงพอ ฉะนั้นต้องใช้ภูมิคุ้มกันที่สูงพอถึงป้องกันโรคได้
เมื่อศึกษาการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ของแอสตร้าเซนเนก้ากับซิโนฟาร์ม พบว่า ภูมิคุ้มกันยังต่ำ จำเป็นต้องฉีดเข็มที่ 3 ถึงจะได้ภูมิคุ้มกันระดับน้อง ๆ ไฟเซอร์ และเข็มที่ 3 หากฉีดในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะกระตุ้นภูมิได้ถึง 10 เท่า
ตอนนี้เรากำลังศึกษาให้เร็วที่สุด เรื่องการสลับวัคซีนเชื้อตายกับ mRNA ประเทศในยุโรปทำกันเยอะ ส่วนของไทยที่ผ่านมาให้ซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า พบว่า ภูมิสูงขึ้นพอสมควร และคาดว่าการศึกษาข้อมูลเรื่องเข็มที่ 3 น่าจะมาทันกับการแพร่ระบาดสายพันธุ์นี้ ส่วนเข็มที่ 3 จะฉีดตอนไหนต้องรอผลการศึกษาอีกครั้ง เช่น ควรจะให้ 3 เดือนหรือ 6 เดือนหลังจากเข็มที่ 2 หรือจะมีการใช้วัคซีนตัวเดิมหรือข้ามวัคซีนก็เป็นได้
ภาพจาก Seda Yalova / Shutterstock.com
คนสงสัย ถ้าต้องฉีดเข็ม 3 ทำไมไม่สั่งของดี ๆ มาแต่แรก จะได้จบที่ 2 เข็ม
ด้านความคิดเห็นของประชาชนที่รับรู้ถึงแนวคิดดังกล่าว มองว่า ถ้าหากต้องมาศึกษาเรื่องการฉีดเข็ม 3 เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานสายพันธุ์อินเดีย แล้วทำไมไม่สั่งวัคซีนที่มีภูมิคุ้มกันสูงอย่างไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา มาตั้งแต่แรก จะมาฉีดเข็ม 3 ให้ได้คุณภาพระดับน้อง ๆ เพื่ออะไร
นอกจากนี้ ยังมีข่าวที่ว่า รัฐบาลเตรียมสั่งวัคซีนเพิ่ม เพื่อให้ครอบคลุมปี 2565 อีก 50 ล้านโดส แบ่งเป็น sinovac 28 ล้านโดส และวัคซีนยี่ห้ออื่น ๆ อีก 22 ล้านโดส เรื่องนี้คนมองว่า ในเมื่อคุณภาพไม่ได้สูงมาก ทำไมถึงยังสั่งมาเพิ่มอีก แถมปริมาณซิโนแวคยี่ห้อเดียว ก็มากกว่ายี่ห้ออื่น ๆ รวมกัน แบบนี้คนไทยจะมีภูมิต้านทานโควิด-19 ไหม
ในขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2564 หมอยง ได้เผยผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ถึงกรณีวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นาที่ไม่เข้าไทยว่า ขณะนี้เป็นที่กล่าวถึงและวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ถึงวัคซีนที่ใช้ในประเทศไทย ทุกคนอยากได้วัคซีนที่ไม่มีใช้ในประเทศไทย เราเองก็อยากได้วัคซีนทุกชนิดเพื่อมาให้กับประชาชนไทยให้มากที่สุดในการควบคุมการระบาดของโรค เมื่อมีวัคซีนหลากหลายใครอยากได้วัคซีนอะไรก็จะได้เลือกแบบการใช้วัคซีนในเด็ก
ในปัจจุบันวัคซีนไม่พอตามความต้องการของโลก เราอยากได้วัคซีนอเมริกาก็หาไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเราไม่อยากได้ แต่ไม่มีวัคซีนส่งให้ เขาจะส่งให้เราก็ปลายปี ทางวัคซีนของ Moderna, Pfizer ก็คงจะเป็นหลังเดือนตุลาคมไปแล้ว (Q4) เดือนอะไรก็ยังไม่รู้
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์