กระทรวงสาธารณสุข แจงเหตุผลที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคในผู้สูงอายุ เพื่อขยายโอกาสให้ผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรงและอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด ส่วนใครที่ลงทะเบียนผ่าน หมอพร้อม จะได้ฉีด astrazeneca ซึ่งเป็นวัคซีนหลักของประเทศ
โดยนายแพทย์โสภณ ระบุว่า มติดังกล่าวเสนอให้ฉีดกับผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดี เนื่องจากข้อมูลการวิจัยของประเทศจีนพบว่า มีความปลอดภัยและกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี และเพื่อเป็นการขยายโอกาสให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด เพื่อลดอัตราการติดเชื้อ จำกัดวงการแพร่ระบาด ลดการป่วยที่รุนแรง และการเสียชีวิต ระหว่างรอวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้าสำหรับฉีดให้กับคนในประเทศ
นอกจากนี้รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่เกษียณอายุ แต่ยังคงปฏิบัติงานนับเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สามารถฉีดซิโนแวคได้เช่นกัน
ยกเว้นในช่วงเดือนพฤษภาคม ที่ไม่มีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีแต่วัคซีนซิโนแวค ทั้งนี้ การฉีดขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนวัคซีนอื่น ๆ ที่รัฐบาลพยายามจัดหามานั้น เพื่อให้เกิดความครอบคลุมทุกกลุ่มประชากรให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชน มั่นใจว่าวัคซีนทุกชนิดที่นำมาฉีดให้กับคนในประเทศนั้นมีความปลอดภัย เนื่องจากต้องมีการศึกษาข้อมูลทางวิชาการ มีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณาก่อนนำมาฉีดให้กับคนในประเทศ มีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด 19 และสิ่งที่คำนึงสูงสุดคือความปลอดภัยของประชาชนจากการฉีดวัคซีน
ภาพจาก Tobias Arhelger / Shutterstock.com
สำหรับประชาชนที่กำลังเตรียมจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยข้อควรรู้ที่ต้องเตรียมตัว มีดังนี้1. ตรวจสอบสภาพร่างกายตนเอง
- ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการดื่ม ชา กาแฟ ก่อนวันที่มารับวัคซีน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- ตรวจสอบสภาพร่างกายว่ามีความพร้อมรับการฉีดวัคซีนหรือไม่ เช่น ไม่มีไข้สูง ไม่มีอาการเจ็บป่วย หากมีไข้สูงในวันนัดหมายฉีดวัคซีน ควรแจ้งขอเลื่อนการฉีดออกไปก่อน
2. สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดวัคซีน
- มีโรคประจำตัว
- มีประวัติการแพ้ยา หรือ วัคซีน
- ตั้งครรภ์
3. ก่อนออกจากบ้าน อย่าลืมตรวจสอบ
- วัน / เวลา / สถานที่นัดฉีดวัคซีน (ควรไปถึงสถานที่ฉีดก่อนเวลาอย่างน้อย 30 นาที)
- เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน
ภาพจาก Marc Bruxelle / Shutterstock.com
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข