ผู้ว่าฯ กทม. สั่งแล้ว ยืดล็อกดาวน์ถึง 31 พ.ค. 63 ปิด 34 สถานที่เสี่ยง ฝ่าฝืน เจอคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่น พร้อมเผยแนวทางการผ่อนปรน 8 กลุ่มกิจกรรม-กิจการ ที่จะเริ่มเปิดให้บริการวันที่ 3 พ.ค. 63
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการทำกิจกรรมด้านเศรษฐกิจ การดำเนินชีวิต การออกกำลังกาย โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เห็นชอบให้ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว และกำหนดมาตรการป้องกันโรคดังนี้
1. ปิดสถานที่
- โรงมหรสพ (โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ)
- สถานบริการ ผับ บาร์ สถานบันเทิง และสถานการประกอบการคล้ายสถานบริการ
- สวนน้ำ สวนสนุก
- สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด
- สวนสัตว์
- สถานที่เล่นสเกต หรือโรลเลอร์เบรด หรือการเล่นอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน
- โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียต
- สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง หรือตู้เกม
- ร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต
- สระว่ายน้ำสาธารณะ หรือกิจการอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน
- สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่
- สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส
- สถานที่จัดนิทรรศการ ศูนย์แสดงสินค้า และศูนย์ประชุม
- พิพิธภัณฑ์
- ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชน และบ้านหนังสือ
- สถานรับเลี้ยงเด็ก
- สถานดูแลผู้สูงอายุ
- สนามมวยและโรงเรียนสอนมวย
- โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม)
- สถานที่สัก หรือเจาะผิวหนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
- สถาบันลีลาศ หรือสอนลีลาศ
- สนามม้า
- สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมันไพร
- สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด
- ศูนย์พระเครื่อง
- สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก คลินิกเสริมความงาม สถาบันเสริมความงาม และคลินิเวชกรรมความงาม
- สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่เสริมความงาม) สถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า
- สนามแข่งขันทุกประเภท
- สถานที่แสดงมหรสพ สถานที่มีการแสดงการละเล่นสาธารณะ
- สถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน
- ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เกต ร้านขายยา สินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ธนาคาร และที่ทำการหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจเท่านั้น ส่วนแผนกร้านอาหารให้เปิดเฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่น
- ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม เปิดได้เฉพาะกิจกรรม สระ ตัด ซอย แต่งผม และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน
- สนามกีฬา เปิดได้เฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้งและตามกติกาสากล ผู้เล่นต้องมีระยะห่างทางสังคมและไม่คลุกคลีกันอยู่แล้ว เช่น เทนนิส ขี่ม้า ยิงปืน ยิงธนู และต้องไม่มีผู้ชมมาชุมนุมกันหรือเป็นการแข่งขัน สโมสร คลับเฮ้าส์ หรือร้านอาหารในบริเวณดังกล่าว
- สวนสาธารณะ ลาน พื้นที่กิจกรรมสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬา ลานกีฬา ให้เปิดได้เฉพาะพื้นที่ดล่งแจ้งเพื่อการเดิน วิ่ง ขี่ ปรือปั่นจักรยาน หรือการออกกลังกายด้วยวิธีอื่นเป็นส่วนบุคคล โดยไม่มีผู้มาชุมนุมหรือเป็นการแข่งขัน การละเล่น การแสดง
นอกจากนี้ กทม. ยังออกคู่มือแนวทางมาตรการผ่อนปรนให้กับ 8 กลุ่มกิจกรรม-กิจการ ที่จะเริ่มเปิดให้บริการวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 ไป อาทิ ร้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วไปนอกห้างสรรพสินค้า ร้านเสริมสวย ตลาดนัด ตลาดสด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านค้าชุมชน เป็นต้น
สถานที่อื่นนอกเหนือจากประกาศนี้ให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 - 31 พฤษภาคม 2563 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน

ภาพจาก Jack PhotoWarp / shutterstock.com
วันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ข่าวช่องวัน ได้โพสต์ภาพประกาศ กทม. ฉบับที่ 8 ที่มีเนื้อหาระบุสั่งปิดสถานที่ชั่วคราวกว่า 30 ประเภท จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง สำหรับรายละเอียดทั้งหมดมีดังนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการทำกิจกรรมด้านเศรษฐกิจ การดำเนินชีวิต การออกกำลังกาย โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เห็นชอบให้ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว และกำหนดมาตรการป้องกันโรคดังนี้
- โรงมหรสพ (โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ)
- สถานบริการ ผับ บาร์ สถานบันเทิง และสถานการประกอบการคล้ายสถานบริการ
- สวนน้ำ สวนสนุก
- สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด
- สวนสัตว์
- สถานที่เล่นสเกต หรือโรลเลอร์เบรด หรือการเล่นอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน
- โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียต
- สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง หรือตู้เกม
- ร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต
- สระว่ายน้ำสาธารณะ หรือกิจการอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน
- สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่
- สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส
- สถานที่จัดนิทรรศการ ศูนย์แสดงสินค้า และศูนย์ประชุม
- พิพิธภัณฑ์
- ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชน และบ้านหนังสือ
- สถานรับเลี้ยงเด็ก
- สถานดูแลผู้สูงอายุ
- สนามมวยและโรงเรียนสอนมวย
- โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม)
- สถานที่สัก หรือเจาะผิวหนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
- สถาบันลีลาศ หรือสอนลีลาศ
- สนามม้า
- สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมันไพร
- สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด
- ศูนย์พระเครื่อง
- สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก คลินิกเสริมความงาม สถาบันเสริมความงาม และคลินิเวชกรรมความงาม
- สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่เสริมความงาม) สถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า
- สนามแข่งขันทุกประเภท
- สถานที่แสดงมหรสพ สถานที่มีการแสดงการละเล่นสาธารณะ
- สถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน
- ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เกต ร้านขายยา สินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ธนาคาร และที่ทำการหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจเท่านั้น ส่วนแผนกร้านอาหารให้เปิดเฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่น
- ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม เปิดได้เฉพาะกิจกรรม สระ ตัด ซอย แต่งผม และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน
- สนามกีฬา เปิดได้เฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้งและตามกติกาสากล ผู้เล่นต้องมีระยะห่างทางสังคมและไม่คลุกคลีกันอยู่แล้ว เช่น เทนนิส ขี่ม้า ยิงปืน ยิงธนู และต้องไม่มีผู้ชมมาชุมนุมกันหรือเป็นการแข่งขัน สโมสร คลับเฮ้าส์ หรือร้านอาหารในบริเวณดังกล่าว
- สวนสาธารณะ ลาน พื้นที่กิจกรรมสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬา ลานกีฬา ให้เปิดได้เฉพาะพื้นที่ดล่งแจ้งเพื่อการเดิน วิ่ง ขี่ ปรือปั่นจักรยาน หรือการออกกลังกายด้วยวิธีอื่นเป็นส่วนบุคคล โดยไม่มีผู้มาชุมนุมหรือเป็นการแข่งขัน การละเล่น การแสดง
นอกจากนี้ กทม. ยังออกคู่มือแนวทางมาตรการผ่อนปรนให้กับ 8 กลุ่มกิจกรรม-กิจการ ที่จะเริ่มเปิดให้บริการวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 ไป อาทิ ร้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วไปนอกห้างสรรพสินค้า ร้านเสริมสวย ตลาดนัด ตลาดสด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านค้าชุมชน เป็นต้น
สถานที่อื่นนอกเหนือจากประกาศนี้ให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 - 31 พฤษภาคม 2563 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน