ศูนย์จีโนมฯ รพ.รามาธิบดี เผยจีนเตือนทั่วโลก ให้เตรียมพร้อมรับมือกับไวรัสโคโรนา 20 สายพันธุ์ใหม่ จากค้างคาวที่อาจแพร่ระบาดมาสู่คน
วันที่ 25 กันยายน 2566 ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุว่า จีนออกมาเตือนทั่วโลกให้เตรียมพร้อมรับมือกับไวรัสโคโรนา 20 สายพันธุ์ใหม่จากค้างคาวที่อาจมีความเสี่ยงสูง แพร่ระบาดมาสู่คน โดยตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารทางการแพทย์ Emerging Microbes & Infections เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 โดยสื่อจีนให้ความสนใจรายงานข่าวในเดือนกันยายน 2566
ในปี 2560 ทีมวิจัยค้นพบว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ SARS น่าจะมีต้นกําเนิดมาจากค้างคาวเกือกม้า (Horseshoe Bat) ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ดร.ฉี เจิ่งลี่ ถูกตรวจสอบอย่างใกล้ชิดในช่วงการระบาดของ โควิด-19 เนื่องจากห้องปฏิบัติการของเธอที่สถาบันไวรัสวิทยาเมืองอู่ฮั่น ทําการวิจัยเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา แต่เธอปฏิเสธว่าไวรัสโคโรนา 2019 มิได้หลุดมาจากห้องปฏิบัติการของเธอ ปัจจุบันรัฐบาลจีนยังคงสนับสนุนงานวิจัยของ ดร.ฉี เจิ่งลี่ ในการสืบค้นไวรัสในสัตว์ที่อาจแพร่ข้ามมาสู่มนุษย์
ในผลการวิจัยล่าสุด ดร.ฉี เจิ่งลี่ และทีมวิจัยได้เตือนว่ามีโอกาส "สูงมาก" ที่จะเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนาอีกในอนาคตไวรัสโคโรนา (CoV) มีสี่สกุล ได้แก่ อัลฟา (alpha), เบตา (beta), แกมมา (gamma ) และ เดลตา (delta) ทั้งหมดที่ทำให้เกิดการระบาดของมนุษย์นั้นมาจาก อัลฟา หรือ เบตา จากการจำแนกประเภทของ ICTV ล่าสุด พบว่ามี CoV สายพันธุ์ 40 ชนิดใน 2 สกุลดังกล่าว โดย 27 จาก 40 ของสายพันธุ์ CoV (67.5%) สามารถพบได้หรือพบเฉพาะในค้างคาว
หลักฐานของการระบาดของไวรัสโคโรนาในอนาคต
ทีมวิจัยได้ระบุว่าพบไวรัสโคโรนาจํานวนกว่า 20 สายพันธุ์ที่มี "ความเสี่ยงสูง" ที่จะแพร่ติดเชื้อในคนได้ โดยให้เหตุผลว่าไวรัสโคโรนาเคยก่อให้เกิดการระบาดจากสัตว์สู่คนมาก่อน (เช่น SARS และ COVID-19) ดังนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะก่อให้เกิดการระบาดอีกในอนาคต
ผู้เชี่ยวชาญบางคนเปรียบเทียบงานวิจัยของ ดร.ฉี เจิ่งลี่ เสมือนการทำ "พจนานุกรมของไวรัสโคโรนา" ที่จะช่วยในการพยากรณ์และป้องกันการระบาดในอนาคต
ผลกระทบงานวิจัยของ ดร.ฉี เจิ่งลี่
- เน้นถึงภัยคุกคามต่อเนื่องจากไวรัสโคโรนาที่มาจากค้างคาว
- ย้ำให้เห็นว่าภาครัฐควรลงทุนด้านการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อสืบค้นหาไวรัสที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อประโยชน์แห่งการพัฒนาวัคซีน/ยาสำหรับรักษาล่วงหน้าก่อนเกิดการระบาดในอนาคต
- เตือนผู้ดูแลระบบสาธารณสุขทั่วโลกให้เตรียมรับมือการแพร่ระบาดของโรคจากไวรัสโคโรนาใหม่ ๆ ในอนาคต
- การถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสโคโรนาทั้งจีโนมที่แยกเชื้อได้จากสัตว์โดย ดร.ฉี เจิ่งลี่ และ ทีมวิจัยสถาบันไวรัสวิทยาเมืองอู่ฮั่น จะมีคุณค่าอย่างยิ่งในการพยากรณ์และป้องกันโรคระบาดในอนาคต
เหตุใดงานวิจัยของ ดร.ฉี เจิ่งลี่ จึงมีความสำคัญ
- เน้นย้ำถึงภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องของไวรัสโคโรนาจากสัตว์สู่คน โดยเฉพาะจากค้างคาว
- เป็นพื้นฐานในการพยากรณ์และเตรียมพร้อมสำหรับการระบาดในอนาคต
- ระบุไวรัสโคโรนาสายพันธุ์จากค้างคาวที่คล้ายกับ SARS-CoV-1, MERS-CoV, และ SARS-CoV-2
- ทำให้สามารถพัฒนาวัคซีนและยารักษาก่อนที่จะเกิดการระบาด
- ติดตามเก็บตัวอย่างจากประชากรค้างคาวทำให้สามารถตรวจพบไวรัสใหม่ ๆ ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสทั้งจีโนมเพื่อติดตามบริเวณที่กลายพันธุ์ซึ่งจำเป็นสำหรับการติดเชื้อในมนุษย์
สรุปได้ว่างานบุกเบิกของ ดร.ฉี เจิ่งลี่ เกี่ยวกับไวรัสโคโรนาจากค้างคาวได้วางรากฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อคาดการณ์ ป้องกันและตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น การค้นพบของเธอเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเฝ้าระวังและการเตรียมพร้อมในระบบสาธารณสุขทั่วโลก "พจนานุกรมไวรัสโคโรนา" ของ ดร.ฉี เจิ่งลี่ น่าจะพิสูจน์ได้ว่ามีคุณค่าอย่างยิ่งในการรับมือกับภัยคุกคามที่เกิดจากไวรัสโคโรนาจากสัตว์สู่คนในศตวรรษที่ 21
วิธีที่ ดร.ฉี เจิ่งลี่ และทีมวิจัยใช้ตรวจจับและระบุสายพันธุ์ไวรัสโคโรนาที่มีความเสี่ยงสูง 20 สายพันธุ์จากค้างคาว
- เก็บตัวอย่างส่งตรวจจากประชากรค้างคาวทั่วประเทศจีนทั้งจากอุจจาระและการสวอปในช่องปากของค้างคาว
- ทำการทดสอบด้วยเทคนิค PCR เพื่อตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาในตัวอย่าง
- ตัวอย่างที่ PCR ให้ผลบวกต่อไวรัสโคโรนา จะถูกนำมาถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม
- นำข้อมูลรหัสพันธุกรรมโดยเฉพาะในส่วนยีนที่ควบคุมการสร้างส่วนหนามมาวิเคราะห์เปรียบความเหมือนความต่างกับส่วนหนามของโควิด 19 ที่ระบาดในคนอยู่ในขณะนี้
- ประเมินความสามารถของไวรัสในการเข้าจับกับตัวรับ "ACE2" บนผิวเซลล์ของมนุษย์ โปรตีนส่วนหนามหรือสไปค์ (spike protein) ของไวรัส SARS-CoV-2 สามารถจับกับโปรตีน ACE2 บนผิวของเซลล์ปอด ส่งผลให้ไวรัสสามารถเข้าสู่เซลล์และเริ่มการติดเชื้อ
สรุปว่า หากไม่เตรียมพร้อม หรือขาดการวางแผนเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างเป็นระบบและครบวงจรอาจทำให้การแพร่ระบาดยืดเยื้อ คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก และทำให้สังคมและเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19 อยู่แล้วสั่นคลอนยิ่งขึ้นไปอีก รัฐต้องลงทุนกับการเตรียมพร้อมรับมือการระบาดระลอกใหม่ของโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในทุกมิติ โดยการถอดบทเรียนของการระบาดของโควิด 19 ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics