สธ. เผย อนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เห็นชอบให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิดรวม 3 เข็มเป็นพื้นฐาน หลังจากนี้ฉีดได้ทุก 4 เดือน เพื่อลดโอกาสติดเชื้อ เน้นกลุ่มไหน ฉีดทุกปีหรือไม่ พร้อมย้ำวัคซีนโควิดฉีดวันเดียวกันกับวัคซีนอื่นได้
วันที่ 15 มิถุนายน 2565 สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยถึงมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เห็นชอบคำแนะนำการให้วัคซีนโควิด 19 สำหรับประชาชนทุกคนควรฉีดวัคซีนรวมเข็มกระตุ้นอย่างน้อย 3 เข็มเป็นพื้นฐาน
ทำไมควรฉีด 3 เข็มเป็นพื้นฐาน ?
- เนื่องจากวัคซีนทุกสูตรประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อจะลดลงในช่วง 3-4 เดือน ประสิทธิภาพในการป้องกันอาการรุนแรงลดลงไม่มาก จึงแนะนำให้ฉีดเข็มกระตุ้นหลังเข็ม 3 ได้ทุก 4 เดือน
โดยเฉพาะ ?
- กลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์
- บุคลากรสาธารณสุข เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
ต้องฉีดทุกปีหรือไม่ ?
- ยังไม่สามารถกำหนดได้ แต่มีแนวโน้มว่าอาจจะต้องฉีดทุกปีเหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่
แล้ววัคซีนในเด็ก ?
- เด็กอายุ 12 - 17 ปี มีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว
- เด็กเล็กอายุ 5 - 11 ปี เพิ่งได้รับการฉีดเพียง 2 เข็ม จึงต้องรออีก 4 เดือน เพื่อพิจารณาข้อมูล
จากการการศึกษาของ ศ. พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ และ ศ. นพ.ยง ภู่วรวรรณ ได้ผลตรงกันว่า การฉีดวัคซีนสูตรไขว้ "ซิโนแวค-ไฟเซอร์" ในเด็กเล็กอายุ 5-11 ปี ภูมิคุ้มกันสูงกว่าการฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม
ข้อดีคือ มีระยะห่างระหว่างเข็ม 4 สัปดาห์ ทำให้ฉีดได้เร็วกว่าไฟเซอร์ที่ต้องห่างกัน 8 สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้ฉีดวัคซีนโมเดอร์นาในเด็กอายุ 6-11 ปี แบบครึ่งโดส 0.25 มิลลิลิตร (50 ไมโครกรัม) ห่างกัน 4-12 สัปดาห์ด้วย
เห็นชอบ ฉีดวัคซีนโควิดร่วมกับวัคซีนตัวอื่นในวันเดียวกันได้
นพ.โอภาส กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ฉีดวัคซีนโควิดร่วมกับวัคซีนตัวอื่นในวันเดียวกันได้หรือห่างกันเท่าใดก็ได้ ยกเว้นวัคซีนชนิดไวรัลเวกเตอร์และวัคซีนเชื้อเป็นตัวอื่น (เช่น วัคซีน MMR, LAJE, Varicella, Hepatitis A และ Herpes Zoster) หากไม่สามารถฉีดพร้อมกันในวันเดียวกันได้ ให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 28 วัน
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข