หญิงวัย 35 ปี สุดทรมาน รับจ้างฉีดวัคซีนยี่ห้อดัง รับเงิน 7,000 บาท เกิดแผลพุพองเต็มตัว น้ำเหลืองไหลต้องนอนใบตอง ใช้น้ำเกลือล้างแผลวันละ 10 ขวดต่อวัน วอนช่วยเหลือ ล่าสุด สสจ.กาญจนบุรี แถลงข่าวอีกด้าน
วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นางเพ็ญนภา สุขอินทร์ อายุ 35 ปี อาชีพแม่ค้าส้มตำ อาศัยในพื้นที่ ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ทุกข์ทรมานอย่างมาก หลังจากไปรับจ้างฉีดวัคซีนโควิด 19 ทำให้เกิดแผลพุพองตั้งแต่หัวจรดเท้า ต้องนอนบนใบตอง ขาดรายได้เพราะไม่สามารถขายส้มตำได้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ใจบุญช่วยหาทางรักษา
โดย นางเพ็ญนภา ให้สัมภาษณ์ขณะนอนอยู่บนเก้าอี้ที่ปูด้วยใบตอง ป้องกันไม่ให้น้ำเหลืองที่ไหลออกมาตลอดเวลาเปื้อนเก้าอี้ เจ้าตัวเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนเป็นเสาหลักของครอบครัว ขายส้มกำ ไก่ย่าง หาเงินเลี้ยงลูก 3 คน กระทั่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อนบ้านมาบอกว่ามีหน่วยงานหนึ่ง มาเกณฑ์ชาวบ้านให้ไปฉีดวัคซีนโควิดฟรี แถมเงินให้อีก 1,000 บาท และจะให้ฉีดอีก 6 ครั้ง รวมเป็น 7 เข็ม 7,000 บาท จึงตัดสินใจไปฉีดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 18 มกราคม ซึ่งนับเป็นเข็มที่ 3
หลังจากฉีดวัคซีนแรก ไปแล้ว ช่วง 2 วันแรก มีอาการเป็นไข้ตามปกติ แต่หลังจากฉีดเข็มที่ 3 เริ่มมีผื่นและตุ่มใส ๆ ขึ้นตามตัว ตอนนั้นคิดว่าอาจจะเกิดจากการแพ้เหงื่อ จึงซื้อยามากินตามปกติ แต่ปรากฏว่าผื่นลามมากขึ้นเรื่อย ๆ ขึ้นแทบเต็มตัว เริ่มมีน้ำเหลืองไหลออกมาด้วย
ต่อมาวันที่ 1 เมษายน ตัดสินใจไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมะการักษ์ ตอนนั้นได้นอนรอผลตรวจ 1 คืน หมอให้ยาฆ่าเชื้อ พร้อมกับเจาะเลือดและขูดชิ้นเนื้อไปตรวจสอบ ผลตรวจระบุว่าป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง ให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน
เมื่อมาอยู่บ้านร่างกายยังคงมีแผลพุพองมากขึ้นเรื่อย ๆ ทนความเจ็บปวดทรมานไม่ไหวแล้ว จึงโพสต์ลงเฟซบุ๊กและวิงวอนขอความช่วยเหลือ เป็นสิ่งของจำพวกน้ำเกลือและสำลี เพราะการล้างแผลแต่ละวัน ต้องใช้น้ำเกลือประมาณ 10 ขวด ราคาขวดละเกือบ 50 บาทเลยทีเดียว ซึ่งก็มีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือ
นางเพ็ญนภา กล่าวอีกว่า อยากขอร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยพาไปรักษา เพราะแผลมีน้ำเหลืองไหลตลอดเวลา ไหลเยอะจนต้องนอนกับใบตองเพราะไม่สามารถนอนผ้าหรือที่นอนได้ เนื่องจากแผลจะติดกับผ้า เวลาลุกจะเจ็บปวดมาก ตนอยากหายหรือดีขึ้นบ้าง จะได้กลับมาดูแลลูก 3 คน และแม่ที่ป่วยอยู่ได้ ซึ่งตอนนี้แฟนต้องหาเงินคนเดียว แม้แพทย์จะลงความเห็นว่าเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง แต่เจ้าตัวเชื่อว่าที่เป็นแบบนี้เป็นผลจากการฉีดวัคซีนแน่นอน เพราะก่อนฉีดร่างกายและสุขภาพแข็งแรงดีมาตลอด
ขณะที่ข่าวช่องวัน รายงานว่า นางเพ็ญนภา เปิดเผยว่า เข็มแรกและเข็มที่ 2 ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ต่อมาเข็มที่ 3 เป็นวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งอาการต่าง ๆ เริ่มเกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 3
ต่อมา นพ.ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าว ขณะนี้ได้รับหญิงผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี กรณีนี้น่าจะมีการสื่อสารคาดเคลื่อน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ซักถามและทราบว่า ผู้ป่วยเข้าโครงการวิจัยเรื่องการฉีดวัคซีนยี่ห้อ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน แล้วมีอาการผื่น มีถุงน้ำตามตัว ซึ่งผู้ปวยเคยเป็นโรคผิวหนังเป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว
เมื่อเข้าร่วมโครงการวิจัย ผู้ป่วยก็ได้รับค่าชดเชยการเดินทาง ไม่ใช่ค่าจ้างฉีดวัคซีน มีการทำสัญญากับผู้ทำโครงการวิจัยด้วย ซึ่งทางโครงการทำประกันให้ กรณีมีผลข้างเคียงจากวัคซีน ดังนั้นผู้ทำโครงการต้องเข้ามาดูตรงนี้ด้วย นอกจากนี้ในข่าวยังมีความคาดเคลื่อนเรื่องจำนวนการฉีดด้วย จากที่รับทราบมา คือ ฉีดวัคซีนไป 1 เข็ม ส่วนครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 เป็นการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาปริมาณภูมิคุ้มกันว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร
ตอนนี้อย่าเพิ่งไปสรุปว่าเกิดจากการแพ้วัคซีน อาจจะเป็นโรคผิวดั้งเดิมกำเริบได้ ยิ่งได้รับสารกระตุ้นโรคก็กำเริบ หรืออาจจะเกิดจากการแพ้วัคซีนจริง ๆ ก็ได้ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้พิจารณา
อาการของคนไข้ตอนนี้ผื่นลดลง ซึ่งหากเป็นเพราะโรคผิวหนังจากโรคภูมิแพ้ตัวเอง หรืออื่น ๆ ก็ต้องใช้เวลารักษา ต้องกินยาต่อเนื่อง รักษาไม่หายขาด แต่หากเป็นการแพ้วัคซีนจริง ๆ ต้องหยุดฉีดวัคซีน รับยาแก้แพ้ และสามารถรักษาหายได้ แต่ยืนยันว่าไม่มีการจ้างฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, เจาะลึกระบบสุขภาพ
วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นางเพ็ญนภา สุขอินทร์ อายุ 35 ปี อาชีพแม่ค้าส้มตำ อาศัยในพื้นที่ ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ทุกข์ทรมานอย่างมาก หลังจากไปรับจ้างฉีดวัคซีนโควิด 19 ทำให้เกิดแผลพุพองตั้งแต่หัวจรดเท้า ต้องนอนบนใบตอง ขาดรายได้เพราะไม่สามารถขายส้มตำได้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ใจบุญช่วยหาทางรักษา
โดย นางเพ็ญนภา ให้สัมภาษณ์ขณะนอนอยู่บนเก้าอี้ที่ปูด้วยใบตอง ป้องกันไม่ให้น้ำเหลืองที่ไหลออกมาตลอดเวลาเปื้อนเก้าอี้ เจ้าตัวเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนเป็นเสาหลักของครอบครัว ขายส้มกำ ไก่ย่าง หาเงินเลี้ยงลูก 3 คน กระทั่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อนบ้านมาบอกว่ามีหน่วยงานหนึ่ง มาเกณฑ์ชาวบ้านให้ไปฉีดวัคซีนโควิดฟรี แถมเงินให้อีก 1,000 บาท และจะให้ฉีดอีก 6 ครั้ง รวมเป็น 7 เข็ม 7,000 บาท จึงตัดสินใจไปฉีดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 18 มกราคม ซึ่งนับเป็นเข็มที่ 3
หลังจากฉีดวัคซีนแรก ไปแล้ว ช่วง 2 วันแรก มีอาการเป็นไข้ตามปกติ แต่หลังจากฉีดเข็มที่ 3 เริ่มมีผื่นและตุ่มใส ๆ ขึ้นตามตัว ตอนนั้นคิดว่าอาจจะเกิดจากการแพ้เหงื่อ จึงซื้อยามากินตามปกติ แต่ปรากฏว่าผื่นลามมากขึ้นเรื่อย ๆ ขึ้นแทบเต็มตัว เริ่มมีน้ำเหลืองไหลออกมาด้วย
ต่อมาวันที่ 1 เมษายน ตัดสินใจไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมะการักษ์ ตอนนั้นได้นอนรอผลตรวจ 1 คืน หมอให้ยาฆ่าเชื้อ พร้อมกับเจาะเลือดและขูดชิ้นเนื้อไปตรวจสอบ ผลตรวจระบุว่าป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง ให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน
เมื่อมาอยู่บ้านร่างกายยังคงมีแผลพุพองมากขึ้นเรื่อย ๆ ทนความเจ็บปวดทรมานไม่ไหวแล้ว จึงโพสต์ลงเฟซบุ๊กและวิงวอนขอความช่วยเหลือ เป็นสิ่งของจำพวกน้ำเกลือและสำลี เพราะการล้างแผลแต่ละวัน ต้องใช้น้ำเกลือประมาณ 10 ขวด ราคาขวดละเกือบ 50 บาทเลยทีเดียว ซึ่งก็มีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือ
นางเพ็ญนภา กล่าวอีกว่า อยากขอร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยพาไปรักษา เพราะแผลมีน้ำเหลืองไหลตลอดเวลา ไหลเยอะจนต้องนอนกับใบตองเพราะไม่สามารถนอนผ้าหรือที่นอนได้ เนื่องจากแผลจะติดกับผ้า เวลาลุกจะเจ็บปวดมาก ตนอยากหายหรือดีขึ้นบ้าง จะได้กลับมาดูแลลูก 3 คน และแม่ที่ป่วยอยู่ได้ ซึ่งตอนนี้แฟนต้องหาเงินคนเดียว แม้แพทย์จะลงความเห็นว่าเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง แต่เจ้าตัวเชื่อว่าที่เป็นแบบนี้เป็นผลจากการฉีดวัคซีนแน่นอน เพราะก่อนฉีดร่างกายและสุขภาพแข็งแรงดีมาตลอด
ขณะที่ข่าวช่องวัน รายงานว่า นางเพ็ญนภา เปิดเผยว่า เข็มแรกและเข็มที่ 2 ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ต่อมาเข็มที่ 3 เป็นวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งอาการต่าง ๆ เริ่มเกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 3
ต่อมา นพ.ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าว ขณะนี้ได้รับหญิงผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี กรณีนี้น่าจะมีการสื่อสารคาดเคลื่อน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ซักถามและทราบว่า ผู้ป่วยเข้าโครงการวิจัยเรื่องการฉีดวัคซีนยี่ห้อ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน แล้วมีอาการผื่น มีถุงน้ำตามตัว ซึ่งผู้ปวยเคยเป็นโรคผิวหนังเป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว
เมื่อเข้าร่วมโครงการวิจัย ผู้ป่วยก็ได้รับค่าชดเชยการเดินทาง ไม่ใช่ค่าจ้างฉีดวัคซีน มีการทำสัญญากับผู้ทำโครงการวิจัยด้วย ซึ่งทางโครงการทำประกันให้ กรณีมีผลข้างเคียงจากวัคซีน ดังนั้นผู้ทำโครงการต้องเข้ามาดูตรงนี้ด้วย นอกจากนี้ในข่าวยังมีความคาดเคลื่อนเรื่องจำนวนการฉีดด้วย จากที่รับทราบมา คือ ฉีดวัคซีนไป 1 เข็ม ส่วนครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 เป็นการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาปริมาณภูมิคุ้มกันว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร
ตอนนี้อย่าเพิ่งไปสรุปว่าเกิดจากการแพ้วัคซีน อาจจะเป็นโรคผิวดั้งเดิมกำเริบได้ ยิ่งได้รับสารกระตุ้นโรคก็กำเริบ หรืออาจจะเกิดจากการแพ้วัคซีนจริง ๆ ก็ได้ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้พิจารณา
อาการของคนไข้ตอนนี้ผื่นลดลง ซึ่งหากเป็นเพราะโรคผิวหนังจากโรคภูมิแพ้ตัวเอง หรืออื่น ๆ ก็ต้องใช้เวลารักษา ต้องกินยาต่อเนื่อง รักษาไม่หายขาด แต่หากเป็นการแพ้วัคซีนจริง ๆ ต้องหยุดฉีดวัคซีน รับยาแก้แพ้ และสามารถรักษาหายได้ แต่ยืนยันว่าไม่มีการจ้างฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, เจาะลึกระบบสุขภาพ
