ฟังคำทำนาย หมอปลาย โอมิครอน ระบาดรอบนี้จะหนักแค่ไหน - เตือนระวังสายพันธุ์ใหม่

โอมิครอน ยังพอไหว แต่อาจพบเชื้อกลายพันธุ์อีก ?

            เชื้อที่เข้ามา ถ้าเป็นโอมิครอนตัวเดียวยังสู้ไหว แต่ถ้าเป็นโอมิครอนบวกกับสายพันธุ์อื่นที่มาจากเอเชีย ผสมกัน 2 ตัว อันนี้อันตราย น่าจะเร็ว ๆ นี้ ประมาณปลายมกราคม น่าจะมีข่าว ส่วนความรุนแรงของเชื้อตัวใหม่ อาจจะผสมมากับอะไรที่เกี่ยวกับไข้หวัด เชื้อรา ของหมักหมม ไม่สะอาด อาทิ สัตว์เลี้ยง ขยะ เชื้อโรค ตัวนี้ถ้าเข้ามาจะอันตราย เห็นลักษณะเป็นแผลพุพองที่รักษาหายยาก สิ่งที่เห็นคือเรื่องนี้จะเกิดประมาณปลายมกราคมเป็นต้นไป แต่ไม่แน่ไทยว่าจะเข้ามาถึงไทยหรือไม่

หลังจากเดือนมีนาคมจะเป็นอย่างไร

            ที่เคยทำนายว่าจะหายไปช่วงเดือนมีนาคม จริง ๆ โรคก็ยังอยู่ไปเรื่อย ๆ แต่พอถึงตอนนั้นคนจะกังวลเรื่องปากท้องสำคัญที่สุด ส่วนโอมิครอนจะอยู่ยาวไหม ก็จะอยู่กับเราไปเรื่อย ๆ เพียงแต่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา เปลี่ยนสายพันธุ์

            แต่ถ้าถามถึงโอมิครอน เดือนมกราคมนี้ แพร่กันสุดชีวิตแน่นอน แต่คงไม่กล้าปิดประเทศอีก Work From Home น่าจะลากยาวไปอีก ส่วนเรื่องค้าขายคนในประเทศยังอยู่ได้ ยังไม่ได้เดือดร้อนเหมือน 2 ปีที่แล้ว ส่วนธุรกิจหรืองานที่ต้องเจอผู้คนอาจจะต้องหาอะไรมาเสริมใหม่ ต้องลดการเจอคนให้น้อยลง เพราะการเจอแบบประทะหน้ากันยังไงก็ติดเชื้อแน่นอน ยิ่งต่อไปยิ่งต้องป้องกันให้มากกว่าเดิม

อาจไม่ถึงขั้นติดเชื้อทุกคน

            
           ประโยคที่ว่าเราอาจติดเชื้อทุกคน มองว่าคงไม่ถึงขนาดนั้น เพราะการฉีดวัคซีนเข้าไปคือเรามีเชื้ออยู่แล้วทุกคน เพียงแต่ว่ามันจะปะทุมากน้อยแค่ไหน คงไม่ถึงขั้นทุกคน ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ แต่จำนวนผู้เสียชีวิตน้อยที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อมองว่าอาจจะมากกว่านี้ ควรเป็นหลักแสนได้แล้ว อาจจะตรวจไม่ถึงหรือตรวจไม่เจอหรือไม่

ต้องระวังเรื่องเชื้อสายพันธุ์ใหม่

           สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุด คือเรื่องปากท้อง กับเรื่องที่อิมพอร์ตนักท่องเที่ยวเข้ามา หากยังเข้ามาเรื่อย ๆ เชื้อที่กลายพันธุ์อาจจะมีอีกปลายเดือนมกราคมนี้ ซึ่งน่ากลัวที่สุด เพราะมีแผลเน่าเฟะ หนักว่าการไอจาม เชื้อกลายพันธุ์ตัวใหม่น่าจะเกิดเป็นแค่ท้องถิ่นแถบเอเชีย เป็นประเทศที่มีประชากรรองจากจีน เยอะมาก คนเยอะมาก ถ้าพาคนจากประเทศนั้นเข้าไทย พูดได้คำเดียวว่า เครียดค่ะ

           หากจะแนะนำคือช่วงนี้อาจจะเปิดให้แค่คนไทยเที่ยวก่อนหรือไม่ ผับ บาร์ จำกัดจำนวนคน น่าจะยังพอกันได้ ไม่ใช่ไปอิมพอร์ตเข้ามาเพิ่ม หากจะเปิดประเทศก็ทำได้ แต่ต้องดูแลประชากรให้ดี มีวัคซีนโควิด เพียงพอ มีวัคซีนที่ดีให้กับคนในประเทศ และทั่วถึงกว่านี้ ไม่ใช่เปิด ๆ ปิด ๆ แล้วให้คนไทยเอาตัวรอดกันเอง แบบนี้ไม่แฟร์ เป็นสิ่งที่กลัวที่สุด

            เรื่องวัคซีนนั้น บางคนอาจจะต้อง 4 เข็ม และต่อไปต้องมีวัคซีนใหม่เข้ามา แต่เรื่องที่ล้าหลัง เพราะเราจองวัคซีนใหม่ไม่ทัน ไม่อยากให้พลาดแบบเดิม ๆ เพราะว่ามันต้องกลายพันธุ์แล้ววัคซีนตัวใหม่จะแก้ตัวใหม่ ซึ่งวัคซีนตัวใหม่น่าจะมาเดือนพฤษภาคม และคนไทยควรจะได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่ที่เห็นกว่าไทยจะได้ชนิดใหม่น่าจะปลายปี

เรื่องที่ต้องระวังเพิ่มเติม

           ขณะที่คุยกัน อยู่ดี ๆ ก็แว่บเรื่องไฟมาอีกแล้ว ต้องระวังการเกิดไฟไหม้ในสถานที่กระจุกและใกล้แหล่งชุมชน น่าจะไม่เกินสิ้นเดือนนี้

           ช่วงเดือนมีนาคม น่าจะเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ อยากเตือนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เกี่ยวกับความรีบร้อนใจเรื่องปากท้อง แต่ยิ่งรีบร้อนยิ่งจะไม่รอด เกิดการปะทะ อยากให้รอช่วงมีนาคมทุกอย่างจะเบาลง ภายในจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเพื่อที่จะเตรียมรับอะไรสักอย่างหนึ่ง ทำให้ประชาชนรับไม่ได้จึงมีการออกมาเรียกร้องเรื่องของชีวิต ความเป็นอยู่ จากนั้นมีนาคมขึ้นไปน่าจะดีขึ้น

แนวโน้มการเปลี่ยนแปลง

           การเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. เห็นว่าคนผิวเข้มได้รับเลือก เป็นคนมีประสบการณ์ วัยทำงานอายุประมาณ 40-50 ขณะที่การเลือกตั้งใหญ่ ปีนี้ยังไม่เห็นว่ามีการเลือกตั้ง ไม่เห็นเรื่องผู้นำใหม่เป็นผู้หญิง เห็นแต่ว่าอยู่ดี ๆ มีคนมาเสียบ เป็นคนที่ทุกคนคาดไม่ถึง น่าจะเป็นช่วงปลายปี

           สุดท้ายนี้อยากฝากถึงชาวไทยว่า เที่ยวยังไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น เน้นเรื่องทำมาหากิน ดูแลร่างกายของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ หลีกเลี่ยงกลุ่มคนจำนวนมาก รวมถึงการเดินทางออกนอกประเทศ ถ้าไม่จำเป็นอย่าเพิ่งไป พร้อมแนะนำว่าอย่าเพิ่งอิมพอร์ตนักท่องเที่ยวประเทศเครื่องเทศมา เดี๋ยวจะเจองานใหญ่จนสู้ไม่ไหว แม้ไทยจะการแพทย์แข็งแรง แต่ว่ายังไงก็ยังไม่ทันกับโรคที่มันเกิดขึ้น ดังนั้นอยากให้ช่วยคนไทยก่อน