สรุปแนวทางประกาศ ศบค. ยืนยันไม่ล็อกดาวน์ ปรับพื้นที่ทั่วประเทศเป็นสีส้ม ยกเว้น 8 จังหวัด พร้อมแผนฉีดวัคซีนเข็ม 4 จะต้องทิ้งห่างเข็ม 3 เท่าไหร่ เดินทางต่างจังหวัดได้หรือไม่
ในตอนนี้สถานการณ์โควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน ระบาดไปทั่วประเทศ ยอดผู้ป่วยรายวันกำลังพุ่งขึ้นสูงอีกครั้ง ดังนั้น หลายคนจึงจับตาดูว่า ศบค. จะมีมาตรการอะไรออกมาเพื่อรับมือกับการระบาด ไม่ให้สถานการณ์เข้าสู่ความย่ำแย่กว่านี้
ล่าสุด วันที่ 7 มกราคม 2565 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. มีการแถลงหลังประชุม ศบค. ครั้งที่ 1/2565 โดยมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม มีมาตรการต่าง ๆ ที่สำคัญดังนี้
ภาพจาก Live NBT2HD
การปรับพื้นที่ทั้งประเทศเป็นสีส้ม
จากการระบาดของโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน ทำให้ที่ประชุม ศบค. มีการปรับระดับการควบคุมของพื้นที่ทั้งประเทศใหม่ โดยให้เป็นพื้นที่สีส้มทั้งประเทศ ยกเว้น 8 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว ไม่มีการล็อกดาวน์ รายละเอียดดังนี้
1. พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 0 จังหวัด
2. พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 0 จังหวัด
3. พื้นที่ควบคุม จากเดิม 39 จังหวัด (สีส้ม) เพิ่ม 30 จังหวัด รวมเป็น 69 จังหวัด หรือสรุปได้ว่าเป็นพื้นที่สีส้มทั้งประเทศ
4. พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด (สีเหลือง) จากเดิม 30 จังหวัด เหลือ 0 จังหวัด
5. พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) คงเดิมที่ 8 จังหวัด ประกอบไปด้วย กรุงเทพมหานคร (กทม.), กาญจนบุรี, กระบี่, ชลบุรี, นนทบุรี, ปทุมธานี, พังงา และภูเก็ต (จังหวัดอื่นในบางพื้นที่อีก 18 จังหวัด)
ภาพจาก Live NBT2HD
อะไรทำได้ ทำไม่ได้ในพื้นที่สีส้มและสีฟ้า
- พื้นที่สีส้ม สามารถบริโภคอาหารในร้านอาหารได้ตามปกติ แต่ห้ามบริโภคสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ส่วนร้านสะดวกซื้อ ตลาดนัด ยังสามารถเปิดบริการได้ตามปกติ ไม่มีการควบคุมการห้ามออกนอกเคหสถาน
- พื้นที่สีฟ้า ยังคงมีมาตรการเปิดให้เป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวตามปกติ แต่จะใช้มาตรการป้องกันควบคุมโรคเดียวกับพื้นที่เฝ้าระวัง แต่สามารถบริโภคสุราในร้านอาหารได้ ซึ่งแต่ละจังหวัดสามารถกำหนดมาตรการ เพิ่มเวลาได้ตามความเหมาะสมแต่ละพื้นที่
ภาพจาก Live NBT2HD
การปรับมาตรการควบคุมโรคในทุกพื้นที่และทุกสถานการณ์
1. การขยาย Work from Home ออกไปถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 โดยจะต้องไม่กระทบการบริการประชาชนและการดำเนินการขององค์กร
2. สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้เปิดในรูปแบบร้านอาหาร และต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อน 15 มกราคม 2565
3. ในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (สีฟ้า) สามารถบริโภคสุราในร้านอาหารได้ โดยกำหนดเวลาไม่เกิน 21.00 น. และร้านที่ทำได้ ต้องผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น
ภาพจาก Live NBT2HD
การฉีดวัคซีนเข็ม 4
ศบค. มีการเปิดเผยแนวทางการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 4 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคเรื้อรัง ในปี 2565 มีการแบ่งออกเป็น 2 สูตร ดังนี้
1. หากได้วัคซีนโควิด 2 เข็มแรกเป็น ซิโนแวค แล้วเข็ม 3 คือ แอสตร้าเซนเนก้า ในเข็มที่ 4 สามารถเลือกฉีดวัคซีนได้ 3 ชนิด คือ แอสตร้าเซนเนก้า, ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา
2. หากได้วัคซีน 2 เข็มแรกเป็น ซิโนแวค แล้วเข็ม 3 คือ ไฟเซอร์ ในเข็มที่ 4 สามารถเลือกฉีดได้ 2 ชนิด คือ ไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา
ทั้งนี้ ระยะห่างของเข็ม 3 กับ เข็ม 4 จะต้องห่าง 3 เดือนขึ้นไปเท่านั้น ส่วนเป้าหมายการฉีดวัคซีนในเดือนมกราคม 2565 จะอยู่ที่ 9.3 ล้านคน
การเดินทางหลังจากปรับระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 4
เรื่องนี้ นพ.ทวีศิลป์ ยืนยันว่า ยังสามารถเดินทางได้ปกติ แต่ขอให้ใช้คำแนะนำสาธารณสุข หากไม่จำเป็นไม่ควรเดินทาง ถ้าหากมีมาตรการอะไร ศบค. จะเป็นคนออกมาตรการเอง
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 <<ได้ที่นี่