ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มอง โควิด 19 ใน กทม. และภูเก็ต เคลื่อนสู่โมเดลระบาดแบบโรคประจำถิ่น เพราะได้ฉีดวัคซีนครอบคลุม เชื้อระบาดไม่รุนแรง มีเตียงเพียงพอรักษาผู้ป่วยหนัก
ภาพจาก Niradj / Shutterstock.com
วันที่ 21 กันยายน 2564 เดลินิวส์ รายงานว่า นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการการณ์ โควิด 19 ว่า จากการประเมินคาดว่าเมื่อปลดล็อกดาวน์ครบเดือน หากไม่มีมาตรการอื่นตัวเลขติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้น ดังนั้นตัวเลขคนติดเชื้อจะไม่ลดไปเป็นเหลือ 0 ราย คงมีการติดเชื้อและระบาดแบบโรคประจำถิ่น ขึ้นกับปริมาณการฉีด วัคซีนโควิดที่ครอบคลุมประชากร
ยกตัวอย่างพื้นที่ กทม. ฉีดวัคซีนครอบคลุมผู้สูงอายุกว่า 90% ส่วนวัคซีนเข็ม 2 ครอบคลุม 40% ทำให้ เป็นพื้นที่แรก ๆ ของโมเดลการเป็นโรคประจำถิ่น เพราะโควิดระบาดไม่มาก ไม่รุนแรง ลดการเจ็บป่วยหนักซึ่งนำไปสู่การดูแลผู้ติดเชื้ออีกรูปแบบหนึ่ง เช่นเดียวกับ จ.ภูเก็ต ที่เคลื่อนเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นเช่นกัน โดย สธ. มอบกรมควบคุมโรคเป็นผู้ดูแล ศึกษาปรากฏการณ์ระบาดไม่มากไม่รุนแรง
ยกตัวอย่าง กทม. มีการติดเชื้อวันละ 2 - 3 พันราย ถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับประชากร 10 ล้านคน ปัจจุบันเตียงสีแดงเหลือหลายร้อยเตียง สีเหลืองเหลือหลายพันเตียง ส่วนสีเขียวเหลือจำนวนมาก เพราะตอนนี้ประชาชนมีความเข้าใจและดูแลตัวเองที่บ้าน อย่างไรก็ดี ต้องขึ้นอยู่กับบริบท โดย กทม. เป็นรูปแบบหนึ่ง ส่วนต่างจังหวัดก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง การผ่อนคลายมาตรการจึงต้องดูว่าระบบสาธารณสุขจะรองรับได้หรือไม่
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่