ด่านหน้า รพ.ภูมิพลฯ ขอดับเครื่องชน พึ่งหมอทศพร แฉโดนสวมสิทธิ์ไฟเซอร์ เปลี่ยนเกณฑ์ด่านหน้าที่จะได้รับวัคซีน ถามจะเอาวัคซีนที่เหลือไปฉีดให้ใคร ด้าน ทอ. ยัน ไม่มีการสวมสิทธิ์
![โดนสวมสิทธิ์ไฟเซอร์]( "โดนสวมสิทธิ์ไฟเซอร์")
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
![โดนสวมสิทธิ์ไฟเซอร์]( "โดนสวมสิทธิ์ไฟเซอร์")
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีการเข้ามาของวัคซีนโควิด 19 ยี่ห้อไฟเซอร์ ซึ่งนับว่าเป็นวัคซีนที่เป็นความหวังสำหรับคนไทยเพื่อที่จะฉีดให้บุคลากรด่านหน้า แต่ก็มีดราม่าออกมาเรื่อย ๆ ที่บุคลากรด่านหน้าบ้างก็ยังไม่ได้ฉีด หรือได้ไม่ครบ ซึ่งล่าสุดเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว มีการเปิดเผยโพสต์ความในใจของบุคลากรทางการแพทย์ 2 ราย ที่ทำงานอยู่ด่านหน้า แต่ยังไม่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ โดนสวมสิทธิ์บ้าง หลายคนรายชื่อตกหล่น โดนปัดตกเกณฑ์ จัดการมั่ว หาความโปร่งใสไม่ได้ บางทีพยาบาลชวดวัคซีนทั้งวอร์ด แต่มีชื่อของหน่วยงานอื่นมาฉีดแทน
อ่านข่าว : ด่านหน้าหน้าแห้ง ไม่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ โดนสวมสิทธิ์-ชื่อหายทั้งวอร์ด ประสานเสียงทวงอีกรอบ !
ล่าสุด (14 สิงหาคม 2564) ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มแพทย์พยาบาลเพื่อมวลชน นักศึกษา ประชาชน หลังได้รับการร้องเรียนเรื่องการจัดการวัคซีนไฟเซอร์สำหรับบุคลากร แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
นายแพทย์ทศพร เผยว่า จากการตรวจสอบก็พบว่ามีรายชื่อจากหน่วยงานอื่นมาฉีดจริง พนักงานทุกคนในโรงพยาบาลควรได้รับวัคซีนทั้งหมด แต่บุคลากรด่านหน้าควรได้ก่อน อยากให้ทุกโรงพยาบาลจัดสรรวัคซีนให้โปร่งใส ไม่ใช่งุบงิบ หรือมีบุคคล VVIP มีอีกหลายโรงพยาบาลที่มีความไม่ชอบมาพากลแบบนี้ วัคซีนที่ได้รับบริจาคมา 1.5 ล้านโดส แต่กลับจัดสรรไม่เพียงพอ
อ่านข่าว : ด่านหน้าหน้าแห้ง ไม่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ โดนสวมสิทธิ์-ชื่อหายทั้งวอร์ด ประสานเสียงทวงอีกรอบ !
ล่าสุด (14 สิงหาคม 2564) ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มแพทย์พยาบาลเพื่อมวลชน นักศึกษา ประชาชน หลังได้รับการร้องเรียนเรื่องการจัดการวัคซีนไฟเซอร์สำหรับบุคลากร แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
นายแพทย์ทศพร เผยว่า จากการตรวจสอบก็พบว่ามีรายชื่อจากหน่วยงานอื่นมาฉีดจริง พนักงานทุกคนในโรงพยาบาลควรได้รับวัคซีนทั้งหมด แต่บุคลากรด่านหน้าควรได้ก่อน อยากให้ทุกโรงพยาบาลจัดสรรวัคซีนให้โปร่งใส ไม่ใช่งุบงิบ หรือมีบุคคล VVIP มีอีกหลายโรงพยาบาลที่มีความไม่ชอบมาพากลแบบนี้ วัคซีนที่ได้รับบริจาคมา 1.5 ล้านโดส แต่กลับจัดสรรไม่เพียงพอ
เปลี่ยนเกณฑ์ด่านหน้าที่จะได้รับวัคซีน ถามจะเอาวัคซีนที่เหลือไปฉีดให้ใคร
ด้านตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์กล่าวว่า เกณฑ์ผู้ที่จะได้รับวัคซีนต้องทำงานอยู่ด่านหน้า คัดกรอง ICU แต่ภายหลังมีการตั้งเกณฑ์ใหม่ทำให้พยาบาลด่านหน้าตัวจริงมีรายชื่อตกหล่นครึ่งหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขต่าง ๆ กีดกันออกไป เช่น ต้องได้ซิโนแวค 2 เข็มก่อน หรือได้แอสตร้าฯ มาแล้ว 1 เข็ม ก็จะไม่ได้ฉีด ทำให้วัคซีนเหลือ จึงตั้งข้อสงสัยว่าเอาวัคซีนไปให้ใคร ถามไปยังผู้บังคับบัญชาก็ไม่ได้คำตอบ อยากให้มีการตรวจสอบว่ารายชื่อที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์เป็นบุคลากรด่านหน้าหรือไม่ หรือไม่ใช่บุคลากรที่นี่
ขอไป 3,000 โดส ได้ 1,680 โดส ตรวจสอบรายชื่อแล้วมีรายชื่อซ้ำ เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ
ตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์เผยอีกว่า มีการรวบรวมรายชื่อเป็นแผนก 100-200 คน จากทั้งหมด 800 คน หมอ พยาบาล เวรเปล แม่บ้าน โดยโรงพยาบาลภูมิพลฯ ได้รับการจัดสรร 1,680 โดส จากที่เคยขอไป 3,000 โดส
จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อพบว่า มีทั้งหมด 1,611 รายชื่อ มีการฉีดให้วันที่ 13-14 สิงหาคม 2564 เมื่อตรวจสอบรายชื่อดังกล่าว กลับพบว่ามีความผิดปกติรายชื่อซ้ำ เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ และใช้สัญลักษณ์เป็นตัวเลขเป็นชื่อบุคคล 172 รายชื่อ แทนที่จะเรียงลำดับความสำคัญกลับเรียงลำดับตามตัวอักษร ทำให้บุคลากรด่านหน้าไม่ได้รับการพิจารณา
อยากเผยเรื่องให้สังคมรับรู้ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว พร้อมดับเครื่องชน
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ออกมาเปิดเผยและมาพึ่งนายแพทย์ทศพร เพราะต้องการให้สังคมรับรู้ว่าเกิดเรื่องแบบนี้จริง และไม่มีอะไรจะเสียแล้วจึงยอมดับเครื่องชนแบบนี้ เพราะเป็นสิทธิ์ที่ควรได้ โดยไม่ยอมฉีดวัคซีนที่ได้รับ ยอมจองวัคซีนทางเลือก ทั้งที่เป็นด่านหน้าผู้ดูแลผู้ป่วยโควิด
ด้านตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์กล่าวว่า เกณฑ์ผู้ที่จะได้รับวัคซีนต้องทำงานอยู่ด่านหน้า คัดกรอง ICU แต่ภายหลังมีการตั้งเกณฑ์ใหม่ทำให้พยาบาลด่านหน้าตัวจริงมีรายชื่อตกหล่นครึ่งหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขต่าง ๆ กีดกันออกไป เช่น ต้องได้ซิโนแวค 2 เข็มก่อน หรือได้แอสตร้าฯ มาแล้ว 1 เข็ม ก็จะไม่ได้ฉีด ทำให้วัคซีนเหลือ จึงตั้งข้อสงสัยว่าเอาวัคซีนไปให้ใคร ถามไปยังผู้บังคับบัญชาก็ไม่ได้คำตอบ อยากให้มีการตรวจสอบว่ารายชื่อที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์เป็นบุคลากรด่านหน้าหรือไม่ หรือไม่ใช่บุคลากรที่นี่
ขอไป 3,000 โดส ได้ 1,680 โดส ตรวจสอบรายชื่อแล้วมีรายชื่อซ้ำ เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ
ตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์เผยอีกว่า มีการรวบรวมรายชื่อเป็นแผนก 100-200 คน จากทั้งหมด 800 คน หมอ พยาบาล เวรเปล แม่บ้าน โดยโรงพยาบาลภูมิพลฯ ได้รับการจัดสรร 1,680 โดส จากที่เคยขอไป 3,000 โดส
จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อพบว่า มีทั้งหมด 1,611 รายชื่อ มีการฉีดให้วันที่ 13-14 สิงหาคม 2564 เมื่อตรวจสอบรายชื่อดังกล่าว กลับพบว่ามีความผิดปกติรายชื่อซ้ำ เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ และใช้สัญลักษณ์เป็นตัวเลขเป็นชื่อบุคคล 172 รายชื่อ แทนที่จะเรียงลำดับความสำคัญกลับเรียงลำดับตามตัวอักษร ทำให้บุคลากรด่านหน้าไม่ได้รับการพิจารณา
อยากเผยเรื่องให้สังคมรับรู้ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว พร้อมดับเครื่องชน
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ออกมาเปิดเผยและมาพึ่งนายแพทย์ทศพร เพราะต้องการให้สังคมรับรู้ว่าเกิดเรื่องแบบนี้จริง และไม่มีอะไรจะเสียแล้วจึงยอมดับเครื่องชนแบบนี้ เพราะเป็นสิทธิ์ที่ควรได้ โดยไม่ยอมฉีดวัคซีนที่ได้รับ ยอมจองวัคซีนทางเลือก ทั้งที่เป็นด่านหน้าผู้ดูแลผู้ป่วยโควิด
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ยันไม่มีการสวมสิทธิ์ เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน
ด้าน พลอากาศโท ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า กรณีมีผู้โพสต์ข้อความวิจารณ์การสวมสิทธิ์ แย่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ของบุคลากรทางการแพทย์ สังกัดโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ นั้น
จากการตรวจสอบเบื้องต้นยืนยันว่าไม่มีการสวมสิทธิ์ หรือแย่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ของบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช แต่อย่างใด เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ยืนยันว่าจะได้ฉีดทุกคนตามสิทธิ์ และจะขอรับวัคซีนเพิ่มอีก 400 โดส ให้กับผู้ที่มีรายชื่อตกหล่น
สำหรับบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มพยาบาลที่รายชื่อตกหล่นนั้น จะได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ อย่างไรก็ตาม ทางกองการพยาบาล โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช จะได้สร้างการรับรู้และทำความเข้าใจกับบุคลากรของโรงพยาบาลต่อไป
ทั้งนี้ พลอากาศเอก แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ส่งกำลังใจพร้อมแสดงความห่วงใย และเห็นคุณค่าบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ทุ่มเทเสียสละตนเองเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนช่วงสถานการณ์โควิด 19 โดยเน้นย้ำให้ดูแลบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนอย่างดีที่สุด
ด้าน พลอากาศโท ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า กรณีมีผู้โพสต์ข้อความวิจารณ์การสวมสิทธิ์ แย่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ของบุคลากรทางการแพทย์ สังกัดโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ นั้น
จากการตรวจสอบเบื้องต้นยืนยันว่าไม่มีการสวมสิทธิ์ หรือแย่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ของบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช แต่อย่างใด เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ยืนยันว่าจะได้ฉีดทุกคนตามสิทธิ์ และจะขอรับวัคซีนเพิ่มอีก 400 โดส ให้กับผู้ที่มีรายชื่อตกหล่น
สำหรับบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มพยาบาลที่รายชื่อตกหล่นนั้น จะได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ อย่างไรก็ตาม ทางกองการพยาบาล โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช จะได้สร้างการรับรู้และทำความเข้าใจกับบุคลากรของโรงพยาบาลต่อไป
ทั้งนี้ พลอากาศเอก แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ส่งกำลังใจพร้อมแสดงความห่วงใย และเห็นคุณค่าบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ทุ่มเทเสียสละตนเองเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนช่วงสถานการณ์โควิด 19 โดยเน้นย้ำให้ดูแลบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนอย่างดีที่สุด
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 <<
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน
