น้องหมอแอ้ม เผย พี่หายแล้ว แต่อาการทรุดจนเสียชีวิต ยันไม่เคยด้อยค่าวัคซีน แค่ถามว่าสามารถจะแก้กฎนำเข้าวันซีนได้ไหม ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

จากกรณีการเสียชีวิตด้วยโรคโควิด 19 ของ นาวาอากาศเอกหญิง แพทย์หญิงสรัญยา ฬาพานิช หรือหมอแอ้ม แพทย์ของโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ต่อมานายแพทย์สิทธิพงศ์ ฬาพานิช หรือหมอเตี๋ยว น้องชายของหมอแอ้ม ได้ออกมาระบุว่าคนในครอบครัวเสียชีวิตด้วยโรคโควิด 19 แล้ว 3 คน ทั้งพ่อ แม่ และพี่สาว อยากให้รัฐเปิดทางนำเข้าวัคซีนทีได้มาตรฐานมาให้คนไทยได้ป้องกันตัวเอง
อ่านข่าว : น้องหมอแอ้ม เปิดใจ ครอบครัวตายเพราะโควิด 3 คน ทั้งที่ฉีดวัคซีนแล้ว

ล่าสุด (13 สิงหาคม 2564) หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ นายแพทย์สิทธิพงศ์ ฬาพานิช หรือ หมอเตี๋ยว น้องชายหมอแอ้ม มาพร้อม ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค (สวทช.)

เหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น ในครอบครัวติดโควิดถึง 7 คนเลยเหรอ ?
นพ.สิทธิพงศ์ : ใช่ครับ ผมแยกบ้านมาอยู่ บ้านนั้นมีคุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว พี่คนรอง พี่เขย และลูกสองคน แม่บ้าน แถว ๆ วันที่ 20 เดือนที่แล้ว คุณแม่เริ่มไอเยอะ เลยพาไปตรวจทั้งบ้าน แล้วก็พบว่าเป็นบวกกันหมดเลย คุณแม่ 75 ปี คุณพ่อ 78 ปี พอเอกซเรย์ตอนแรก พอมีอาการไอหรือมีไข้ ปอดคุณแม่ไปทั้งสองข้างเลย ส่วนพี่สาวคนโตปอดไปข้างนึง ผ่านไป 4-5 วันคุณแม่ก็เสียเลย แม่เสียวันที่ 25 พอเสียปุ๊บเราก็ไม่บอกพี่แอ้ม ไม่ได้บอกพ่อ เพราะไม่อยากให้ทรุด ตอนนั้นทุกคนอยู่ รพ. กันหมดแล้ว พอแม่เสีย พี่สาวคนรองที่ยังไม่ติดก็กักตัวอยู่บ้าน ผมก็ไปรับศพคุณแม่ ซึ่งเราไม่สามารถเห็นหน้าคุณแม่ได้ เขาซีลอย่างดี เราไม่สามารถลาคุณแม่ได้ ไม่สามารถบอกพ่อและพี่สาวได้ สักพักพี่สาวรู้ เขาคุยในไลน์บอกว่าฝันถึงแม่ มีอะไรปิดบังหรือเปล่า หลังจากนั้นพี่สาวก็รู้ ไม่นานประมาณวันที่ 30 คุณพ่อก็เสีย
ตอนคุณพ่อเสีย ไม่ได้ทราบว่าคุณแม่เสียด้วย ?
นพ.สิทธิพงศ์ : ใช่ครับ ห่างจากแม่ประมาณ 5 วัน พอคุณพ่อเสีย จัดการงานศพ เราก็ไม่กล้าบอกพี่แอ้ม จนพี่เขยหาย แม่บ้านหาย ลูกเขาหาย พี่แอ้มอาการดีขึ้นเยอะเลย ออกจากไอซียู เขาบอกฉันต้องหาย ฉันต้องไม่ตาย หลังจากนั้นทราบว่าตรวจแล้วเป็นเนกาทีฟ ออกจาก รพ. จะไปทำบุญให้คุณแม่ แต่อยู่ดี ๆ ประมาณวันที่ 11 พี่สาวคนรอง โทร. มาบอกว่าพี่แอ้มไม่โอเคแล้วนะ แย่แล้ว เราก็สงสัยทำไมถึงทรุด ทั้งที่กำลังดีขึ้น แพทย์ที่ภูมิพลบอกว่าไม่ไหว สุดท้ายก็เสีย

หมอแอ้มฉีดวัคซีนแล้ว ?
นพ.สิทธิพงศ์ : ฉีดแล้วครับ คุณพ่อคุณแม่ก็ฉีดแล้ว ทั้งคู่ฉีดแอสตร้าฯ พ่อกับแม่ฉีดเข็มแรกรอเข็มสองอยู่ ส่วนพี่แอ้มฉีดสองเข็ม
ฉีดไปนานหรือยังกว่าจะมาติดโควิด ?
นพ.สิทธิพงศ์ : ผมว่าน่าจะสักประมาณ 2-3 เดือน ผมไม่แน่ใจเรื่องเวลาเท่าไหร่
หลังหมอแอ้มเสียชีวิต เห็นบทความนึง หมอเป็นคนลงไว้ หมอบรรยายว่าเข้าใจบริบทการเสียชีวิตของพี่สาว เราไม่ได้ด้อยค่าซิโนแวคนะ นี่เรากำลังพูดความจริงที่กำลังเกิดขึ้นจริงกับครอบครัวหมอ อยากสะท้อนให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นพอลงไป มีประเด็นเกิดขึ้น เพราะในนั้นบอกว่าอยากให้มีการนำวัคซีนแบบเสรีเข้ามา คุณหมอมองยังไง ?
นพ.สิทธิพงศ์ : ที่ผมเขียนไม่ได้ว่าใครเลย ไม่ได้ตัดพ้ออะไร ผมมองว่าตอนนี้การนำวัคซีนมาในเมืองไทย ใหญ่ ๆ คือสถาบันวัคซีน สองกรมควบคุมโรค สามองค์การเภสัช สี่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ห้าล่าสุดคือสภากาชาด ที่ผมพูดผมกำลังบอกว่าแค่อยากลองว่าเราจะมีโอกาสมั้ย องค์กรที่หก เจ็ด แปด นำเข้าวัคซีนมาในเมืองไทย อย่างกทม. มีเงินเยอะ ทำเรื่องไปก็ได้ หรือแต่ละจังหวัดนำเข้าแต่ละอันได้มั้ย หรือจะให้เอกชนนำเข้าได้มั้ย แต่ผมก็ทราบว่าเวลาเขาดีลวัคซีนเมืองไทย ที่ดีลกับเมืองไทย ต้องดีลกับรัฐเท่านั้น แต่มันก็ไม่ได้ไปล็อกว่าเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราแก้กฎว่าเอกชนได้ หรือองค์กร เช่น กทม. ไปดีลโดยตรง ลองดูมั้ย ถ้าเขาโอเคก็ไม่ผิดที่เราจะลองไม่ใช่เหรอ ได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องนึง
รู้สึกว่าการนำวัคซีนเข้ามาไม่ทันท่วงที ?
นพ.สิทธิพงศ์ : ผมไม่อยากให้ใครเป็นอย่างครอบครัวผม ผมก็ได้แต่เสนอว่าเป็นไปได้มั้ย อย่างที่มีคนเขียนว่าคุณหมอไม่รู้เหรอบริษัทเหล่านี้เขาดีลแต่รัฐบาลอย่างเดียว แต่ถ้าถึงจุดนึง การลองไม่ได้ผิด ผมแค่พยายามหาทางออก ไม่ได้มาว่าใคร ไม่ได้โทษวัคซีนไหนไม่ดี แค่เสนอทางออกให้คนมีอำนาจรับฟัง ทำไมต้องมานั่งปักธงว่าอันนี้ไม่ได้ ๆ ยังไม่ได้ลองเลย ไม่ได้พูดให้กระทบกระเทือนใคร ผมเห็น รพ.เอกชน นึงตอนแรกจะนำเข้า สุดท้ายก็นำเข้าไม่ได้ เขาบอกของเขาไม่มีหน่วยรัฐนำเข้า ส่วนอีกฝ่ายบอกไม่มีการติดต่อ มันพูดไม่ตรงกัน ถ้าแก้กฎตรงนี้ได้ แล้วพิสูจน์ดูว่านำเข้าได้จริงหรือเปล่า ถ้านำเข้าได้มันก็มีแต่ประโยชน์ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร
สิ่งสำคัญคือเราต้องได้วัคซีนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่ใช่แค่วัคซีนอย่างเดียว เมื่อวานทางฝั่งแฟนผม คนที่โรงงานเขาก็ติด สิ่งที่ทำคือเราโทร. หารพ. เยอะแยะมากขอเตียง แต่มันไม่มีให้ แล้วไปได้ที่นึง แล้วไม่มีคนส่ง เพราะไม่มีใครกล้าส่ง มันมีปัญหาตรงนี้แล้วแก้ไม่ได้ ต่อให้หา รพ. นึง คุณหาวัคซีนไม่ได้ เพราะวัคซีนไม่พอ คุณหา รพ. ได้ก็หาคนไปส่งไม่ได้อีก เพราะไม่มีใครกล้าไปส่ง ผมว่าต้องแก้อะไรหลาย ๆ อย่าง ผมไม่ได้ว่าอะไรใครเลยนะ ขอยืนยันคำเดิม ผมแค่หาทางระดมความคิด อยากให้คนมีอำนาจรับฟังนิดนึง ลองดูก่อนมั้ย อย่าไปปักธงว่ามันไม่ได้เลย มันมีทางออกอะไรให้เยอะแยะตอนนี้ไม่ได้ แต่อีกหน่อยมันอาจจะได้ก็ได้


นพ.สิทธิพงศ์ : เคสคุณหมอน่าสนใจมาก เพราะว่าทุกคนได้รับวัคซีนหมด ก่อนหน้านี้ที่เราทราบกันมาช่วงระบาดใหม่ ๆ มีการพูดกันว่าวัคซีนกันติดไม่ได้ แต่กันตายได้ เพราะเรามีความมั่นใจว่าภูมิคุ้มกันในร่างกายเราจะมีระดับที่สามารถป้องกันการติดเชื้อรุนแรง ทำให้เกิดเชื้อลงปอด และทำให้ความรุนแรงของโรคเกิดขึ้น แต่ข้อมูลที่ได้ตอนนี้สายพันธุ์เดลต้า มีบางอย่างที่แตกต่างไปจากการระบาดครั้งก่อน ๆ ที่เราเจอ ข้อมูลค่อนข้างชัดว่าเดลต้าอยู่ในร่างกายเราได้ไว เพิ่มปริมาณตัวเองในร่างกายได้ค่อนข้างไวมาก ๆ และ มีปริมาณมากกว่าสภาวะปกติพันเท่า
กรณีวัคซีน เราเข้าใจว่าวัคซีนที่เราฉีดเข้าไปจะไม่อยู่กับร่างกายเราตลอด อย่างที่คุณหนุ่มบอกว่าตอนนี้ซิโนแวคสองเข็มอยู่ในร่างกายคุณหนุ่มเหลือแค่ 20 กว่า นั่นหมายความว่าภูมิคุ้มกันการฉีดวัคซีนมันจะอยู่และพอไม่ได้ใช้ประโยชน์ ถ้าเกิดติดเชื้อซ้ำ ภูมิคุ้มกันที่เรามี ความทรงจำจากการฉีดวัคซีนจะเริ่มทำงาน เซลล์ต่าง ๆ จะเริ่มสร้างแอนติบอดี้ขึ้นมา แต่ใช้เวลาประมาณ 6-8 วัน ถ้าดูเดลต้า เดลต้าใช้เวลาเข้าร่างกายเรา 3-4 วัน จะมีช่วงที่เซลล์สร้างแอนติบอดี้ไม่ทัน ทำให้เดลต้าเริ่มสร้างปัญหา เช่นติดไปในปอด เข้าไปในคนต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง
ความสมดุลมันไม่เสมอกัน ถ้าเมื่อก่อนที่ฉีดซิโนแวคไป 2 เข็ม ถามว่าโอเคมั้ยก็โอเคแต่นั่นมันคือเมื่อก่อน ถามว่าเพราะอะไรเพราะเชื่อก่อนหน้านี้พอรับไป กว่าจะเริ่มมีปฏิกิริยาลงปอด ใช้เวลา 5-7 วัน เซลล์เราจะกระตุ้นแอนติบอดี้ทัน เสมอกัน แต่พอเป็นเดลต้ามัน 3 วันเท่านั้น ที่เราฉีดไปภูมิยังไม่กระตุ้นขึ้นมา ฉะนั้นแค่ 3 วัน มันจัดการเราก่อน

ดร.อนันต์ : ถูกต้องครับ ฉะนั้นสิ่งที่เราจะป้องกันได้ คือทำให้ภูมิของเราสูงเอาไว้ เพราะขณะที่เดลต้าเข้ามา เซลล์ที่กระตุ้นจะมีเวลามากพอ ถ้าเราไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ไวรัสที่เพิ่มเข้ามาเร็ว มันจะสามารถไปติดตามอวัยวะต่าง ๆ และทำให้ปอดอักเสบในผู้ป่วยหลายคนที่เจอตอนนี้
สิ่งที่เรากังวล คือไวรัสเปลี่ยนแปลงตัวเองจนมีระยะฟักตัวที่เร็ว ภูมิคุ้มกันที่ขึ้นช้า โดยเฉพาะจากวัคซีนเชื้อตายที่มีแอนติบอดี้อย่างเดียว เราได้ยินมาหลายครั้งที่ภูมิคุ้มกันมีหลายแบบ ตัวทีเซลล์คือป้องกันอาการป่วยรุนแรง ซิโนแวคหรือเชื้อตายต่าง มีข้อมูลว่าทีเซลล์น้อย เราเพิ่มแอนติบอดี้ ตัวที่อยู่ในเลือดเรานี่แหละ ที่จะป้องกันการป่วยหนักได้ ถ้าเรามีน้อยอยู่แล้ว พอไวรัสเข้ามา เดลต้าไปไว แอนติบอดี้ขึ้นช้า ก็จะเจอเหตุการณ์กรณีแบบนี้สูงขึ้นมาก ๆ

ดร.อนันต์ : อันนี้เป็นข้อมูลที่เริ่มออกมา แต่ยังไม่ได้มีการตีพิมพ์ออกมาเป็นวารสารวิชาการ อย่างเป็นทางการ เป็นผลวิจัยอย่างน้อย 3 ที่ ที่แรกอเมริกา ทำในประชากร 2 หมื่นกว่าคนที่มินนิโซตา เขาเก็บข้อมูลว่าอเมริกามีการใช้โมเดอร์นา ไฟเซอร์ แล้วจับช่วงเวลาต่าง ๆ ที่เขาเริ่มใช้สองวัคซีนนี้มา เขาเริ่มเห็นว่าวัคซีนสองชนิดนี้สูสีกันตอนเริ่มต้น ตอนอัลฟ้า ระบาดในประเทศ ค่อนข้างสูสี แต่พอเดลต้าเริ่มสร้างปัญหาเขาเห็นความแตกต่างชัดเจน ในประชากรที่ได้ไฟเซอร์จะเจอคนป่วย มีอาการเข้ารพ. มากกว่าโมเดอร์น่า
อีกข้อมูลเพิ่งออกคือที่กาต้าร์ เขาเก็บข้อมูลคนใช้ไฟเซอร์กับโมเดอร์น่าเหมือนกัน กรณีสายพันธุ์เดลต้าเขาพบข้อมูลใกล้เคียงกัน คือประสิทธิภาพไฟเซอร์เหลือแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ต่อเดลต้า ขณะที่โมเดอร์นายังได้ 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ ต่อการติดเชื้อ มีอาการ แต่การติดเชื้อรุนแรงยังใกล้เคียงกันอยู่ คือห่าง 10 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลตรงนี้ค่อนข้างบอกว่าโมเดอร์น่าเหมือนมีภาษีที่ดีกว่า
ทั้งที่เป็นวัคซีนชนิดเดียวกัน ?
ดร.อนันต์
: ใช่ครับ
ข้อแตกต่างของวัคซีนสองชนิดนี้คือกรณีโมเดอร์น่าปริมาณเนื้อวัคซีนสูงกว่า
ประมาณ 100 ไมโครกรัม ปริมาณเนื้อวัคซีนคือ mRNA ที่ฉีดสูงกว่า
ขณะที่ไฟเซอร์ที่เขาทำมา มีแค่ 60 ไมโครกรัม กรณีซิโนแวค
กับซิโนฟาร์มก็เหมือนกัน ซิโนแวคมีเนื้อของวัคซีนน้อยกว่าซิโนฟาร์ม
กรณีไฟเซอร์กับโมเดอร์น่าก็เหมือนกัน เขาใช้สูตรของเขา
สูตรนี้ได้จากการทดสอบในเฟสหนึ่ง
แล้วดูว่ามีผลข้างเคียงที่น้อยถ้าเกิดมากไปกว่านี้ก็จะเริ่มมีคนมีผลข้างเคียงเยอะเขาก็เลยตัดว่า
60 ดีที่สุดเอามาใช้ต่อ โมเดอร์นาไปได้ถึงร้อย คนยังโอเค
ไม่มีอาการผลข้างเคียง เขาเลยตัดที่ร้อย

กรณีคุณหมอเรียกร้องให้มีหน่วยงานนำวัคซีนมาให้มากกว่านี้ ในการนำเข้า อันนี้เหมือนถูกตีกรอบเอาไว้ อาจารย์มองยังไง ?
ดร.อนันต์ : เห็นด้วยครับ แต่เนื่องจากว่ากฎหมายบ้านเรา เขากำหนดว่าวัคซีนที่จะใช้ได้ ต้องเป็นวัคซีนที่ผ่านการอนุมัติจาก อย. ซึ่งปัจจุบัน อย. อนุมัติอยู้ 4-5 ชนิด ซึ่งรัฐบาลนำเข้ามาเป็นซิโนแวค แอสตร้าฯ และไฟเซอร์ ซึ่งเราสั่งเข้ามาเหมือนรัฐบาลไม่ได้ เพราะรัฐบาลเป็นผู้จัดซื้อ อนาคตข้างหน้าถ้ามีตัวเลือกเข้ามา อย่างสปุตนิก วี ของรัสเซีย หรือคานซิโนของจีน หรือโนวาแวกซ์ ของอเมริกา เข้ามาขอ อย. บ้านเราและอนุมัติได้ ก็จะมีโอกาส แต่ประเด็นคือทุกตัวเป็นวัคซีนที่อนุมัติฉุกเฉิน บริษัทวัคซีนไม่รับประกันว่าถ้าเกิดเคสรุนแรงแล้วเขาจะรับผิดชอบในการชดใช้ค่าจ่ายจากวัคซีนเหล่านั้น
ฉะนั้นเขาถึงให้รัฐเป็นคนรองรับ รับประกันตรงสิ่งนั้น ถ้าเอกชนเข้ามา เราก็ต้องมองว่าวัคซีนก็มีโอกาสผิดพลาดได้ เพราะปกติวัคซีนใช้เวลา 10 ปี ตอนนี้วัคซีนใช้เวลาแค่ปีเดียวก็นำออกมาใช้งานแล้ว มันก็เป็นประเด็นที่หลายคนอาจจะมองว่าอาจต้องพิจารณาไปในอนาคตข้างหน้า แต่ตอนนี้มันทำได้ค่อนข้างยาก ที่บริษัทวัคซีนใหญ่ ๆ เหล่านั้นจะขายให้กรุงเทพฯ หรือหน่วยงานที่จะนำเข้ามาเอง แต่ถามว่าเป็นไปได้มั้ย เป็นไปได้ในอนาคต เพราะวัคซีนออกมาอยู่เรื่อย ๆ ตอนนี้มีหลายตัวที่พร้อมให้เราเอามาใช้แก้ปัญหา

ดร.อนันต์ : ใช่ครับ ตอนนี้เดลต้าไปทั่วโลก พอทั่วโลก ทุกประเทศที่มีวัคซีนเขาก็เริ่มเอามาใช้เป็นเข็มที่สามในประชากรของเขาเอง ถ้ามองบริบททั่วโลกเขาก็อยากได้วัคซีนมาใช้ แต่อเมริกาก็เริ่มมีเข็มสาม อังกฤษเอง หรืออิสราเอลเองเริ่มเอาไฟเซอร์มาใช้เข็มที่สามของประชากร ความต้องการวัคซีนของทั้งโลกก็จะสูงขึ้น ขณะที่วัคซีนมีเท่าเดิม ฉะนั้นปริมาณวัคซีนที่จะพอเอาเข้าประเทศก็จะมีจำนวนจำกัด ดีมานต์ซัพพลาย ความต้องการสูงแต่ของมีน้อย ถึงมีเงินก็เอาเข้ามาไม่ได้เพราะเราไปช้ากว่าเขา ต้องยอมรับตรงนี้ หมายความว่าเรามองสถานการณ์ช้ากว่าเขา เพราะเรารู้ว่าเดลต้าจะมา แต่วัคซีนที่เรามีตอนนี้อาจไม่ค่อยดีหรือมีปัญหา เราสั่งช้าไป เรารู้ว่าโมเดอร์นาเริ่มดีกว่าไฟเซอร์ แต่ถามว่าจะเอาโมเดอร์นาเข้ามามากกว่า 5 ล้านโดสได้มั้ย ผมว่ามันยาก เพราะตอนนี้ทั่วโลกก็อ่านเปเปอร์ งานวิจัยเหมือนกันหมด ทุกคนรู้ว่าโมเดอร์นาดี ก็จะมองไปที่โมเดอร์นา ขอสั่งโมเดอร์นาเพิ่มเติม ก็จะเป็นการวนลูปว่าถ้าเราตามงานคนอื่น ทุกคนก็อ่านเหมือนกัน แต่เราไปช้า การสั่งจองก็ช้า
ทำไมเราต้องช้ากว่าคนอื่น ทั้งที่เราก็อ่านพร้อมกัน ?
ดร.อนันต์ : อันนี้อาจเป็นระบบการสั่งจองด้วยมั่งครับ ผมไม่ได้คุ้นเคยว่าเรามีขั้นตอนอย่างไรบ้างในการที่จะสั่งจองวัคซีนเข้ามา แต่ผมเข้าใจว่าประเทศไทยมีระบบค่อนข้างเยอะ ค่อนข้างใช้เวลาในการที่จะสั่ง
ก็ตรงกับที่คุณหมอคิดไว้เหมือนกันเรื่องระบบที่ทำให้ล่าช้าเกินไป อาจารย์ก็ยอมรับ ?
ดร.อนันต์ : เห็นด้วย ในฐานะนักวิจัยเอง ถ้าไปลูปนี้ เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด ทางทีมวิจัยเองคุยกันที่จะเอาวัคซีนเราเอง ไม่ต้องพึ่งพาต่างประเทศ ทีมจุฬา ทีมใบยาฯ สวทช. เองก็ทำงานไว้แต่ต้น เราก็หวังว่านวัตกรรมที่เราทำขึ้นมาโดยภูมิปัญญาคนไทย จะได้วัคซีนที่น่าจะตอบโจทย์คนไทยได้
ล่าสุดอาจารย์กำลังทำวัคซีนพ่นจมูก ?
ดร.อนันต์
: เราทำมาตั้งแต่เริ่มต้นการระบาด เราทำวิจัย จริง ๆ
ทีมประเทศไทยเราไม่แข่งกันนะ เราแบ่งกันทำ เราตัดต่อไวรัสเก่ง
เราก็คุยในทีมว่าเราจะทำไวรัสสองตัวขึ้นมา
ไวรัสสองตัวนี้ติดเข้าทางเดินหายใจได้ เหมือนโควิด-19 เลย
ทำยังไงก็ได้ให้เป็นตัวนำส่งเข้าทางจมูกให้ร่างกายรู้จักโควิด-19
ตั้งแต่การได้รับเชื้อที่ฉีดเข้าทางจมูก


เขาเรียกเชื้ออะไร ?
ดร.อนันต์ : ตัวไข้หวัดใหญ่นี่แหละครับ เราไปดัดแปลงไข้หวัดใหญ่ให้มันอ่อนเชื้อลง ติดเข้าจมูกได้แล้วหยุดเลย ไปต่อไม่ได้ แต่ร่างกายเราเห็นไวรัสแล้ว วิธีการแบบนี้ ร่างกายเราจะได้รับแอนติเจนท์ หรือภูมิคุ้มกันสองแบบ ทั้งไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 ในเวลาเดียวกัน อีกตัวคืออะดิโน ไข้หวัดธรรมดา ที่เราเป็นไข้หวัดสองสามวันหาย เราเอาตัวนั้นมาดัดแปลง ใส่โควิดเข้าไป มั่นใจว่าวิธีการแบบนี้จะทำให้ภูมิคุ้มกันในจมูกเราดี เซลล์ตัวนี้เข้าไปจมูก มีแอนติบอดี้ พร้อมจับไวรัสตั้งแต่เรารับเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันติด ไม่จำเป็นต้องให้ไวรัสติดเพื่อให้เกิดการตาย
อันนี้ต้องทำยังไง ?
ดร.อนันต์
: อันนี้เป็นการพัฒนาของเข็ม เป็นหลอดฉีดยาทั่ว ๆ ไปที่เราเห็น
คนฉีดวัคซีนปกติจะใช้เข็มแหลม ๆ จิ้มเข้าไปแล้วดูดวัคซีนฉีดเข้าไปในร่างกาย
อันนี้จะเป็นตัวใช้พ่นจมูก สมมติดูดเอาวัคซีนเข้ามา ฉีดฝาเข้าไป
เวลาใช้ปิดจมูกด้านนึงเอาเข้าไปในรูจมูก
ละอองฝอยจะเข้าไปทำให้มีปริมาณไวรัสหรือตัวที่เราเอ็นจิเนียร์ไว้ติดโดยธรรมชาติ
เป็นไวรัสที่ไม่แบ่งตัวต่อ แต่ทำให้ร่างกายเห็นไวรัส
และเหมือนเป็นการติดเชื้อแบบธรรมชาติ

จะออกมาใช้เมื่อไหร่ ?
ดร.อนันต์ : เราพยายามทำให้เร็วที่สุด มุมมองของเรา เราทำกันถึงระดับของขั้นการทดลองเรียบร้อยแล้ว หนูทดลองถึงขั้นฉีดจมูก ผลดีมาก ใส่โควิดลงไป เขาไม่ป่วยเลย น้ำหนักเขาดี กินอาหารได้มากขึ้น ขณะที่หนูที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เขาไม่ป่วยแต่น้ำหนักลด และซึม ขณะที่ป้องกันการติดที่จมูกมันค่อนข้างชัด เมื่อไวรัสเข้าไม่ได้ เขาก็ไม่ป่วย หนูอาการดี ข้อมูลพวกนี้พ้องกับความปลอดภัย เราก็สามารถที่จะนำข้อมูลนี้ไปบอกที่อย. ถ้าอย.เห็นด้วยเรามีข้อมูลพร้อมเราก็จะไปที่คน
รัฐให้เงินทุนมั้ย ?
ดร.อนันต์
: ตอบแทนภาครัฐไม่ได้ แต่เราหวังจากภาครัฐ แต่ถ้าช้าคงพิจารณา
ถ้าภาคเอกชนมีความสนใจ ก็อาจเป็นไปได้ ที่อาจเพิ่มการระดมทุนเข้ามา
ทำให้งานนี้เกิดขึ้นไว แต่ก็ต้องดูว่าภาครัฐมีความฉับไวขนาดไหน
ผมเชื่อว่าความคาดหวังของคนไทยมี และอยากได้ตัวนี้มาใช้จริง ๆ
เราก็มีความคาดหวัง

อีกอันที่พูดถึงกันเยอะมาก คือ 0.1 ml ฉีดไปใต้ผิวหนัง เขาบอกตื้นกว่าฉีดโบท็อกซ์อีก แล้วจะเข้าไปครอบคลุม จริงมั้ย ?
ดร.อนันต์ : อันนี้จริง การฉีดวัคซีนมีหลายแบบ ที่เรานิยมฉีดคือฉีดเข้ากล้าม เพราะฉีดง่าย กล้ามเนื้อเรามีเยอะ โอกาสเข้าสู่ร่างกายก็ง่าย การฉีดใต้ผิวหนังเนื่องจากผิวหนังเราบาง ต้องใช้เข็มที่สั้นมาก แต่เนื่องจากการฉีดใต้ผิวหนังใช้ปริมาณวัคซีนที่น้อย ประมาณ 10 เท่า วิธีการก็เอามาใช้ทดแทนวัคซีนที่ขาดแคลน กรณีแอสตร้าฯ 1 โดส สามารถใช้ได้ถึง 10 คน ถ้าเอามาใช้ในการกระตุ้น ฉีดใต้ผิวหนัง ไซเฟอร์ก็เหมือนกัน แต่วิธีการแบบนี้ยังไม่มีการทดสอบในบริษัทวัคซีนเอง แอสตร้าฯ เองหรือไฟเซอร์เองก็ไม่เคยทดสอบว่าใต้ผิวหนังทำแล้วได้ผลดีกว่ากล้ามมากน้อยแค่ไหน
แต่เคยมีการฉีดแบบนี้ ในการฉีดพิษสุนัขบ้า อ.ธีระวัฒน์ แนะนำมา และมีอาจารย์หมอไปฉีดแบบนี้มาและบอกว่ามันกระตุ้นจริง ๆ ทำไมไม่ลองหาอาสาสมัคร ?
ดร.อนันต์ : ก็มีคนส่งข้อมูลมาสมควร มีความพยายามจากโรงเรียนแพทย์หลายที่ ผมไปร่วมอยู่ในหลาย ๆ โครงการ เขาอยากเอาวิธีการฉีดใต้ผิวหนังมาใช้ เพราะมีเซลล์รับวัคซีนอยู่เยอะ และมีประสิทธิภาพทำให้เห็นวัคซีนได้ง่าย ใช้นิดเดียว ร่างกายก็จะเห็นและกระตุ้นมาได้ เป็นวิธีการที่น่าสนใจ

กรณีหมอแอ้ม วันนี้มีการฌาปนกิจตอนเย็น ที่คุยนอกรอบ หมอบอกว่าหมอแอ้มใกล้ ๆ จะหาย ?
พี่สาวไม่มีโรคประจำตัว ?
นพ.สิทธิพงศ์ : พี่แอ้มเป็นเบาหวานหน่อย ๆ แต่ก็โอเคอยู่ เขาจะอวบ ๆ นิดนึง
อาจารย์นวัตกรรมนี้เร็ว ๆ นี้ ?
ดร.อนันต์ : เราหวังเริ่มเฟสหนึ่งในคนภายในสิ้นปีนี้ เราจะหาอาสาสมัคร อันนี้ขึ้นอยู่กับทุกอย่างที่เราพยายามทำ
ผมยินดีเป็นอาสาสมัคร ให้ทดลองก็ได้นะ ผมยินดี เห็นมีการขายที่พ่นจมูก ป้องกันโควิดได้ บางคนบอกไม่ต้องใส่หน้ากาก จริงมั้ย ?
ดร.อนันต์ : อันนี้เป็นไปไม่ได้ สิ่งที่เข้าไป ไม่รู้ทำหน้าที่อะไรด้วยซ้ำ ไวรัสเข้าไป ที่ฉีดเข้าไปไม่ได้เกาะทุกเซลล์ แต่ไวรัสเข้าได้ทุกเซลล์ ผมว่าวิธีที่ดีที่สุดคือหน้ากากอนามัย เพราะมันป้องกันการเข้าสู่จมูกตั้งแต่เริ่มต้น ตอนนี้ไม่มีนวัตกรรมอะไรในโลกที่เคลมว่าสามารถทำได้ ฉะนั้นอย่าเชื่อลักษณะแบบนี้ ที่พ่นไปแล้วป้องกันไม่มีนะครับ



>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ภาพจาก รายการโหนกระแส