สรุปดราม่า บังซา ไลฟ์ชีวิตคนหน้างาน-ฉะอนุทิน สุดท้าย โดนให้ออกจาก รพ.บุษราคัม

ต้นเรื่องทั้งหมด

          บังซา เป็นผู้ป่วยโควิด-19 และเจ้าหน้าที่อาสาในโรงพยาบาลบุษราคัม ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามที่ตั้งอยู่ย่านเมืองทองธานี มีการไลฟ์ผ่าน เฟซบุ๊ก เหนือ หนึ่ง ห้า โดยยอมรับว่าตอนนี้โรงพยาบาลบุษราคัมเตียงใกล้เต็มมาก ๆ ต้องตีกลับผู้ป่วยสีเขียวให้กลับบ้าน เพื่อทำให้เตียงว่าง

          ขณะเดียวกันก็ขอตั้งคำถามรัฐบาลว่า มาตรการที่ให้รักษาโควิด 19 ที่บ้าน หรือ Home Isolation โดยที่จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด มียาไปให้ มีอาหาร 3 มื้อ ทุกวันนี้เป็นอย่างที่พูดไหม บอกเลยว่า "ไม่เป็น" ถ้าเป็นแบบนี้ ใครอยากจะรักษาตัวอยู่บ้าน ทุกคนอยากมาโรงพยาบาลทั้งนั้น

          "ผมถามคุณอนุทินหรือผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบว่าคิดยังไง จะแก้ไขยังไง อย่าคิดเพียงแต่ว่าไม่ให้มีคนป่วยบนถนนหรือตายบนถนน แต่คิดด้วยสิว่าจะรักษาเขาได้ยังไง" 

          บังซา ยังยอมรับว่า เคยลองโทรศัพท์หาสายด่วน กว่าจะมีคนรับสายก็รอไปประมาณ 2 ชั่วโมง ขอให้คุณอนุทินพูดความจริงเถอะ อย่ามัวแต่สร้างภาพเลย ระบบโรงพยาบาลสนามก็แย่ โดยเฉพาะเรื่องสุขา ไม่มีที่ฉีดก้น ต้องใช้กระดาษเช็ด ผู้ป่วยบางคนก็อึราด แต่ก็ไม่มีใครกล้ามาทำความสะอาดเพราะกลัวโควิด กลายเป็นสิ่งหมักหมม ทำให้ตอนนี้จิตอาสาเริ่มน้อยลง หมอเริ่มไม่ไหวแล้ว

          ทุกวันนี้ล็อกดาวน์ ปิดที่นั่นที่นี่ แต่ยอดผู้ป่วยก็ไม่ลด การทำโรงพยาบาลสนามก็มีระบบจัดการที่ไม่ดี ทำให้เหมือนโชว์ว่ามีที่รับผู้ป่วยเท่านั้น ถ้าทำแบบนี้อย่าเปิดดีกว่า เพราะเหนื่อย ก่อนปิดท้ายอยากให้มีมาตรการรองรับหรือช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ให้ดีกว่านี้ ไม่มีใครอยากติดโควิดหรือเป็นฮีโร่ที่ต้องสละชีวิต

ผลจากการไลฟ์ บังซาถูกเชิญออกจาก รพ.สนาม แล้ว

          ล่าสุด กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า บังซาถูกสั่งห้ามไม่ให้เป็นเจ้าหน้าที่อาสาภายในโรงพยาบาลสนามแล้ว พร้อมเชิญออกจากโรงพยาบาลทันที ซึ่งบังซาก็สงสัยว่าเขาหายจากโควิดหรือยัง ถึงให้ออกจากโรงพยาบาลทั้งที่ไม่ได้ตรวจหาเชื้ออีกครั้ง และถ้าให้กลับไปอยู่ที่บ้านก็อาจจะมีคลัสเตอร์บังซาก็ได้

          ข่าวช่องวัน รายงานว่า บังซา เปิดใจสัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า "ผมอยู่มา 12 วัน แต่เขาให้ผมออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทีนี้ทำไมเขาไม่ตรวจหาเชื้อผมก่อนแล้วค่อยปล่อยตัวออกมา ผมจะได้มั่นใจว่าผมหายจริง ถ้าผมหายไม่จริงล่ะ มันก็เอาเชื้อไปติดคนอื่นเพิ่มอีก

          ที่ผมไลฟ์นั้นไม่ใช่การประจาน แต่เป็นเพราะต้องการแก้ไขให้มันดีขึ้น คนเป็นพัน วีลแชร์ที่จะเข็นมีแค่ 15 คันเท่านั้น ระบบที่ทันสมัยเรามี แต่คนที่สั่งการได้ไม่มี และรถของหน่วยงานรัฐพร้อมที่จะย้ายคนมีหรือไม่ ?"

          และในช่วงที่บังซาออกจากโรงพยาบาล มีภาพที่กอดลากับเพื่อนฝูงด้วยความอาลัย ทุกคนต่างเห็นใจบังซาที่ต้องเจอสถานการณ์แบบนี้

โซเชียลชื่นชมและขอบคุณ