นักข่าวช่องดังร่ำไห้ พ่อวัย 73 ปี เป็นรปภ. ป่วยโควิด 2 สัปดาห์ รอเตียงจนทนไม่ไหว ตัดสินใจผูกคอดับ นักข่าวเผย ทำข่าวมานาน ช่วยคนมามาก โดยเฉพาะช่วงโควิด แต่ช่วยพ่อตัวเองไม่ได้
วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 แนวหน้า รายงานว่า ที่คอนโดตึก 13 ชั้น 4 ในพื้นที่หมู่ 13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เกิดเหตุคนผูกคอตายเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จึงเข้าไปตรวจสอบ ทราบชื่อผู้ตายคือ นายเช้า สิงห์โต วัย 73 ปี
ด้านนายชาลี สิงห์โต ลูกชายวัย 43 ปี นักข่าวสังกัดช่องโมโน 29 ประจำจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พ่อโทรศัพท์มาหาตน บอกว่า ไม่มีแรง ให้เอาข้าวมาส่งให้หน่อย ตนจึงรีบเอาข้าวมาให้พ่อที่ห้องพัก ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าพ่อติดโควิด 19 จากนั้นวันต่อมา พ่อเดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลการไฟฟ้า ผลตรวจออกมาคือติดโควิด-19 จริง
เมื่อผลออกมา ตนประสานขอความช่วยเหลือไปยังผู้ใหญ่หลายท่าน
เพื่อให้พ่อมีเตียงไปรักษาตัว ทางผู้ใหญ่ก็รับปากว่าจะช่วยเหลือ
กระทั่งวันนี้พ่อโทรศัพท์มาบอกตนว่า ไม่ไหวแล้ว หายใจไม่ออก เหนื่อย
ตนบอกให้พ่ออดทน กำลังหาเตียงอยู่ สุดท้าย อสม. โทรศัพท์มาแจ้งว่า
พ่อผูกคอเสียชีวิตแล้ว
เป็นนักข่าว ช่วยคนมามากโดยเฉพาะช่วงโควิด แต่ช่วยพ่อตัวเองไม่ได้
ตามรายงานของเดลินิวส์ ได้เผยคำพูดของนายชาลี ว่า "....ผมทำข่าวมาหลายปี โดยเฉพาะช่วงโควิด 19 ระบาด เสนอข่าวช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดจนได้รับการส่งตัวรักษาใน รพ.สนาม แต่กับพ่อตัวเองแท้ ๆ กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย ผู้ใหญ่ขอเอกสาร หลักฐานอะไร ก็ส่งไปให้ตามระเบียบ ส่งให้จนครบ รู้สึกเสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับตัวเอง..."
เปิดใจ อสม. ที่ดูแลใกล้ชิด
นางสาวปริษา ถูวนาทศุภกิจ อสม. วัย 51 ปี กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตประกอบอาชีพเป็น รปภ. ที่คอนโด เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และติดต่อมายังตนเพื่อขอรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม แต่ที่โรงพยาบาลสนามก็ยังไม่มีเตียงว่าง เราจึงทำได้เพียงส่งอาหารมาให้ตลอด 3 มื้อ ครั้งสุดท้ายที่พบกับผู้ตายคือ เมื่อวานนี้ ตนนำข้าวสารมาวางหน้าห้อง แต่ลุงไม่ได้ออกมา พอช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ รปภ. ของหอพักโทรศัพท์แจ้งว่า ผู้เสียชีวิตหายไป ขาดการติดต่อ ตนจึงขอให้เจ้าหน้าที่นำกุญแจสำรองมาไขห้อง ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว
ตนขอทิ้งท้ายว่า อยากให้เจ้าหน้าที่สนใจคนไทยบ้าง ทำไมคนไข้ที่เป็นคนไทยหาเตียงไม่ได้ แต่ต่างด้าวตามโรงงานใหญ่ ๆ ทำไมถึงได้นอนเตียง
ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า, เดลินิวส์
ด้านนายชาลี สิงห์โต ลูกชายวัย 43 ปี นักข่าวสังกัดช่องโมโน 29 ประจำจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พ่อโทรศัพท์มาหาตน บอกว่า ไม่มีแรง ให้เอาข้าวมาส่งให้หน่อย ตนจึงรีบเอาข้าวมาให้พ่อที่ห้องพัก ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าพ่อติดโควิด 19 จากนั้นวันต่อมา พ่อเดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาลการไฟฟ้า ผลตรวจออกมาคือติดโควิด-19 จริง
เป็นนักข่าว ช่วยคนมามากโดยเฉพาะช่วงโควิด แต่ช่วยพ่อตัวเองไม่ได้
ตามรายงานของเดลินิวส์ ได้เผยคำพูดของนายชาลี ว่า "....ผมทำข่าวมาหลายปี โดยเฉพาะช่วงโควิด 19 ระบาด เสนอข่าวช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดจนได้รับการส่งตัวรักษาใน รพ.สนาม แต่กับพ่อตัวเองแท้ ๆ กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย ผู้ใหญ่ขอเอกสาร หลักฐานอะไร ก็ส่งไปให้ตามระเบียบ ส่งให้จนครบ รู้สึกเสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับตัวเอง..."
เปิดใจ อสม. ที่ดูแลใกล้ชิด
นางสาวปริษา ถูวนาทศุภกิจ อสม. วัย 51 ปี กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตประกอบอาชีพเป็น รปภ. ที่คอนโด เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และติดต่อมายังตนเพื่อขอรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม แต่ที่โรงพยาบาลสนามก็ยังไม่มีเตียงว่าง เราจึงทำได้เพียงส่งอาหารมาให้ตลอด 3 มื้อ ครั้งสุดท้ายที่พบกับผู้ตายคือ เมื่อวานนี้ ตนนำข้าวสารมาวางหน้าห้อง แต่ลุงไม่ได้ออกมา พอช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ รปภ. ของหอพักโทรศัพท์แจ้งว่า ผู้เสียชีวิตหายไป ขาดการติดต่อ ตนจึงขอให้เจ้าหน้าที่นำกุญแจสำรองมาไขห้อง ก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว
ตนขอทิ้งท้ายว่า อยากให้เจ้าหน้าที่สนใจคนไทยบ้าง ทำไมคนไข้ที่เป็นคนไทยหาเตียงไม่ได้ แต่ต่างด้าวตามโรงงานใหญ่ ๆ ทำไมถึงได้นอนเตียง
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า, เดลินิวส์
