หมอโอ๋ เจ้าของเพจดัง เลี้ยงลูกนอกบ้าน ประกาศติดโควิดพร้อมกับสามี ส่วนลูก 8 ขวบมีไข้ สุ่มเสี่ยงมาก หมอยอมรับใจสลาย ถ้าไม่ติดก็ไม่รู้ว่าใครจะดูแลลูก ถ้าติดก็ไปหาลูกไม่ได้
ในช่วงนี้มักมีข่าวอยู่เสมอว่า บุคลากรทางการแพทย์ ติดโควิด 19 ทำให้ต้องกักตัวไปหลายคน
ทั้งที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว 2 เข็ม ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้น
ก็ทำให้ระบบสาธารณสุขได้รับงานหนักมากขึ้น เพราะนอกจากคนไข้ที่มากขึ้นแล้ว
จำนวนบุคลากรที่ใช้รับศึกก็น้อยลงไปอีก
ล่าสุด วันที่ 9 กรกฎาคม 2564 เฟซบุ๊ก เลี้ยงลูกนอกบ้าน มีหมอโอ๋ พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร คอยให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกมาโดยตลอด ได้โพสต์ข้อความแจ้งลูกเพจว่า ตอนนี้หมอและครอบครัวติดโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว
เริ่มต้น เธอเล่าว่า เธอมีประวัติสัมผัสบุคลากรที่ติดเชื้อ ในระดับความเสี่ยงต่ำ โดยผลตรวจครั้งแรกเป็นลบ ทางโรงพยาบาลจึงให้ทำงานตามปกติ อย่างไรก็ตาม ก่อนวันตรวจรอบ 2 เธอมีไข้ต่ำ ๆ คัดจมูก กินอาหารไม่ค่อยรู้รสชาติ จึงชวนสามีไปตรวจด้วยกันเลย ทำให้ทราบว่าติดเชื้อทั้ง 2 คน คาดว่าได้รับเชื้อจากโรงพยาบาล เพราะไม่มีความเสี่ยงอื่น ๆ
หมอโอ๋เผย ในฐานะอาจารย์แพทย์ ฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม แต่ยังติดโรค
หมอโอ๋และสามี เป็นอาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ แม้ไม่ได้เป็นบุคลากรด่านหน้า แต่ก็ต้องพบปะคนไข้ตลอด ซึ่งตอนนี้ในโรงเรียนก็มีคนทยอยติดเชื้อเป็นจำนวนมาก มีหอผู้ป่วยปิดไปหลายวอร์ด
ทั้งนี้ เธอยืนยันว่า เธอมีความระวังตัวสูงมาก ไม่ได้ถอดหน้ากากอนามัยขณะทำงาน ไม่ได้ทานข้าวร่วมกับใคร ยกการ์ดตลอด ถ้ายกสูงกว่านี้ก็เชียร์ลีดเดอร์แล้ว และได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มเมื่อ 2 เดือนที่แล้วพอดี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เลี้ยงลูกนอกบ้าน
สิ่งที่เธอคิดหลังจากนี้คือ ความเสี่ยงของทุกคนที่อยู่รอบข้าง โดยเฉพาะลูกสาววัย 8 ขวบ ที่ตอนนี้เธอมีไข้ขึ้นสูง กำลังจะได้รับวินิจฉัยว่าติดเชื้อไปด้วย หมอโอ๋ยอมรับว่า เธอไม่รู้จะเอาลูกไปอยู่ที่ไหน เพราะบ้านที่จะส่งไป ก็ไม่อยากให้เขารับความเสี่ยง หรือถ้าหากลูกติดเชื้อขึ้นมา เธอก็ไปดูแลลูกไม่ได้ แบบนี้ใจจะขาดแน่ ส่วนแม่บ้านที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ก็เริ่มมีอาการเหมือนเหนื่อย ๆ รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างบอกไม่ถูก
นอกจากลูกแล้ว ก็ยังมีคุณพ่อซึ่งป่วยเป็นโรคเรื้อรังหลายโรค ถ้าหากคุณพ่อติดเชื้อ ก็คงต้องเตรียมทำใจรับเหตุร้าย
ทั้งนี้ เธอยอมรับว่า เธอเป็นคนที่มีฐานะในสังคม สามารถเข้ารักษาได้เลยเพราะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ แต่ถึงอย่างนั้น ก็รู้สึกว่าขนาดเธออยู่ในสถานะนี้ หลายอย่างยังคงดูยากไปหมด ต้องใช้พลังใจสูงมาก ถ้าหากเปรียบเทียบกับชาวบ้านทั่วไปจะเป็นยังไง
คำปิดท้ายของหมอ ขอบคุณที่ช่วยผลักดันวัคซีน mRNA เพื่อคนการแพทย์ทุกคน
หมอโอ๋ ได้โพสต์ขอบคุณหมอรุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมายืนยันด้วยหลักฐานวิทยาศาสตร์ว่า เราควรมีวัคซีนประเภท mRNA ให้กับประเทศไทย แม้จะถูกกดดันจากผู้มีอำนาจ ทนการถูกด่าว่าชังชาติ แต่ก็ยังยึดมั่นหลักวิชาการ มีความกล้าหาญทางจริยธรรม
นอกจากนี้ อยากขอบคุณคนไทยทุกคนที่ส่งเสียงเรียกร้องให้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพแก่บุคลากรทางการแพทย์ มันเป็นเรื่องส่วนรวม เพราะถ้าเราล้ม คุณก็ล้ม
สุดท้าย เธอเชื่อในเรื่องพลังบวก แต่พลังบวก ไม่ได้หมายความว่าให้เลือกเขียนแต่สิ่งดี ๆ และละเลยปัญหาตรงหน้า แต่พลังบวกเกิดจากการพูดความจริงที่เกิดขึ้น วิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา มีความเห็นใจคนเดือดร้อน และช่วยส่งเสียงสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับคนที่ไม่มีโอกาสที่จะส่งเสียง
พร้อมกันนั้น เธอได้เชิญชวนให้คนไปฉีดวัคซีนเท่าที่มีไปก่อน เพราะอย่างน้อยก็อาจจะทำให้เรามีโอกาสที่จะรอด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เลี้ยงลูกนอกบ้าน
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
