ราชกิจจาฯ เผยแพร่มาตรการคุมเข้ม กทม. - ปริมณฑล ห้ามนั่งกินในร้าน - ปิดแคมป์คนงาน

        มาตรการคุมเข้ม กทม. - ปริมณฑล รอบใหม่ ห้ามนั่งกินอาหารในร้าน ห้างเปิดได้ถึง 21.00 น. สั่งปิดโรงหนัง - แคมป์คนงาน พร้อมตั้งด่านสกัดเข้มงวด ป้องกันเดินทางข้ามจังหวัดโดยไม่จำเป็น พร้อมสั่งคุมเข้ม 4 จังหวัดชายแดนใต้

ล็อกดาวน์กรุงเทพฯ

        วันที่ 26 มิถุนายน 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) ซึ่งลงนามโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุถึงข้อกำหนดและข้อกฎหมายเพื่อมุ่งชะลอและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19  อย่างเร่งด่วน โดยมีใจความสำคัญคือ

        1. มาตรการเร่งด่วนเพื่อสกัดกั้นการระบาดในพื้นที่เป้าหมายเฉพาะ มาตรการและข้อปฏิบัติต่าง ๆ ตามข้อกำหนดนี้มุ่งเพื่อการปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่อย่างเร่งด่วน ในเขตพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร) และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา)

        โดยให้ดำเนินการต่อเนื่องไปเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน เพื่อเข้าควบคุมและชะลอการระบาดของโควิด 19 รวมถึงการสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายเดินทางของกลุ่มเสี่ยงเพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ออกเป็นวงกว้างสู่พื้นที่อื่น ๆ อย่างรวดเร็ว โดยให้ประเมินสถานการณ์และความเหมาะสมของมาตรการและข้อปฏิบัตินี้ทุก 15 วัน

        2. การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดปริมณฑล พิจารณามีคำสั่งปิดสถานที่ก่อสร้าง ดัดแปลงหรือรื้อถอนอาคาร และให้มีคำสั่งปิดสถานที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับคนงานทั้งภายในและภายนอกสถานที่ก่อสร้าง รวมทั้งมีคำสั่งให้หยุดงานก่อสร้าง และห้ามการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงาน เป็นการชั่วคราวอย่างน้อย 30 วัน

        3. การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานในสถานประกอบการ และโรงงานเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่และเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติของผู้ประกอบการหรือผู้รับผิดชอบในสถานประกอบการและโรงงาน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) ตามที่ทางราชการกำหนด โดยกระจายครอบคลุมไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ตามที่ได้ประเมินสถานการณ์ไว้ เพื่อมุ่งจำแนกผู้ติดเชื้อและเข้าจำกัดเขตพื้นที่ที่เกิดการระบาดแบบกลุ่มก้อนขึ้น รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขเพื่อกำกับหรือจำกัดการเคลื่อนย้ายเดินทางเข้า-ออกเขตพื้นที่สถานประกอบการหรือโรงงานดังกล่าว
 
        4. มาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วน เฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล กำหนดเงื่อนไข เวลา การจัดระบบ ระเบียบ และมาตรการป้องกันโรคที่จำเป็นเพิ่มเติม โดยปฏิบัติต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน ดังนี้

        - การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มสามารถเปิดดำเนินการได้เฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น

        - ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 21.00 น. โดยให้งดบริการในพื้นที่โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ สวนน้ำ พื้นที่นั่งรับประทานในศูนย์อาหาร และเพิ่มระยะห่างส่วนบุคคลในพื้นที่พักคอย เพิ่มประสิทธิภาพของระบบหมุนเวียนอากาศ

        - โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ โดยให้งดกิจกรรมการจัดประชุม การสัมมนา และการจัดเลี้ยง

        - ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลจำนวนมากกว่า 20 คน เว้นแต่กรณีได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่พนักงาน หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานกักกันโรค


        5. มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในเขตชุมชน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่และพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กวดขันการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ในการเข้าไปตรวจตราชุมชน ตลาด หรือสถานที่ที่ได้รับการประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค ดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกและค้นหาผู้ติดเชื้อ เพื่อมุ่งจำแนกและจำกัดเขตพื้นที่การระบาด

        เมื่อพบแหล่งที่มีการระบาดและกลุ่มก้อน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดอาจมีคำสั่งปิดเขตชุมชนหรือสถานที่ดังกล่าวเป็นการชั่วคราว

        6. เมื่อมีคำสั่งและดำเนินการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดตามข้อ 5 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร หรือจิตอาสา โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งปิดสถานที่ หรือจำกัดการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่จากการระบาดแบบกลุ่มก้อนในเขตชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ หรือบุคคลที่สมควรได้รับความช่วยเหลือตามความเหมาะสม

        7. กำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมและตรวจคัดกรองการเดินทาง ให้มีการตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ หรือจุดสกัด เพื่อคัดกรองการเดินทางตามแนวทางที่ ศปก.ศบค. กำหนด เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน โดยกำหนดรายละเอียดแยกตามพื้นที่ ดังนี้

        - เส้นทางคมนาคมเข้า-ออกจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา) มีการตั้งจุดตรวจหรือจุดสกัดเพื่อคัดกรองการเดินทางอย่างเข้มงวด บุคคลที่ประสงค์เดินทางออกนอกพื้นที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรแสดงตนอื่น ๆ ควบคู่กับเอกสารรับรองความจำเป็นที่ออกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ เว้นแต่เป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้น

        - เส้นทางคมนาคมเข้า-ออกกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล (จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร) มีการตั้งจุดตรวจเข้มงวด ให้ผ่านเข้า-ออกได้เฉพาะแรงงานที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเพื่อการทำงานข้ามจังหวัดจากผู้ว่าราชการจังหวัดต้นทางและจังหวัดปลายทาง สำหรับการเดินทางข้ามจังหวัดของประชาชนทั่วไปให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็น

        - เส้นทางคมนาคมเข้า-ออกจังหวัดอื่น ให้มีการตั้งจุดตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด ในกรณีที่พบผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยให้ควบคุมไว้สังเกต แยกกัก หรือกักกันในพื้นที่พำนักหรือสถานที่ที่ทางราชการกำหนด

 
        8. ให้ฝ่ายความมั่นคงโดยการสนับสนุนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดตรวจตราเพื่อมิให้มีการลักลอบหรือรวมกลุ่มมั่วสุมกระทำการที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบเล่นการพนัน การเสพยาเสพติด การรวมกลุ่มในลักษณะที่อาจนำไปสู่การแข่งรถในทาง หรือการฝ่าฝืนเปิดดำเนินการของสถานบริการในพื้นที่ที่มีข้อกำหนดห้ามการเปิดไว้
 
        ผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบเดินทาง หรือขนย้ายแรงงานต่างด้าว หรืออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย หรือรับแรงงานต่างด้าวที่ออกจากสถานที่พักคนงานตามที่ได้มีคำสั่งปิดสถานที่ไว้แล้วเข้าทำงาน โดยมิได้ผ่านการตรวจสอบคัดกรองโรค เป็นเหตุให้เกิดการระบาดของโรคแบบกลุ่มก้อนขึ้นใหม่ในพื้นที่อื่น ๆ อาจต้องถูกดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

        9. มาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง ให้คงพิจารณาดำเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งขั้นสูงสุดในช่วงระยะเวลานี้ เพื่อลดการเดินทางและการติดต่อสัมผัสระหว่างบุคคล โดยเฉพาะหน่วยงานหรือสถานประกอบการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

        10. การงดจัดกิจกรรมทางสังคม งดจัดกิจกรรมทางสังคมที่มีการรวมกลุ่มในลักษณะการสังสรรค์ จัดเลี้ยง หรืองานรื่นเริง ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อลดการติดต่อสัมผัสกันระหว่างบุคคล เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน เว้นแต่เป็นการจัดพิธีการตามประเพณีนิยมตามที่ได้กำหนดเตรียมการไว้แล้ว โดยขอให้เป็นไปเพื่อความเหมาะสมและมีมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด

        ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่28 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป

>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก ราชกิจจานุเบกษา



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ราชกิจจาฯ เผยแพร่มาตรการคุมเข้ม กทม. - ปริมณฑล ห้ามนั่งกินในร้าน - ปิดแคมป์คนงาน อัปเดตล่าสุด 29 มิถุนายน 2564 เวลา 00:35:35 28,551 อ่าน
TOP