หมอยง เผยคนวัยทำงานหรืออายุน้อยกว่า 30 ปี ไม่ต้องตื่นตระหนก หากฉีดวัคซีนแล้วมีไข้ ชี้เป็นเรื่องปกติ แนะกินพาราก็หาย ขณะที่ตัวเลขโควิด 19 วันนี้ ยอดตายทำพุ่ง 35 ศพ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19
วัน 18 พฤษภาคม 2564 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ประจำวันพบว่า
มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2,473 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อใหม่ 1,793 ราย และติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 680 ราย
- หายป่วยกลับบ้านแล้ว 2,718 ราย
- รวมผู้ป่วยสะสม 84,692 ราย
- เสียชีวิต 35 ราย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก นพ.ยง ภู่วรวรรณ
ขณะเดียวกัน นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กให้ข้อมูลเกี่ยวการฉีดวัคซีนโควิด ว่า สำหรับประเทศไทย มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 2.26 ล้านโดส โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 100 ล้านโดส หรือได้ประมาณ 2.2 เปอร์เซ็นต์ ของเป้าหมายที่จะให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ใน 100 ล้านโดสนี้ เราจะต้องฉีดให้คนไทยประมาณวันละไม่ต่ำกว่า 300,000 โดส จึงจะบรรลุเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งนับเป็นงานใหญ่มากสำหรับประเทศไทย
สิ่งที่ทุกคนจะต้องเข้าใจ โดยเฉพาะการให้วัคซีน AstraZeneca ในคนที่มีอายุน้อยหรือวัยทำงาน โอกาสจะเป็นไข้ ไม่สบายตัว ปวดเมื่อยตัวเหมือนไข้หวัดใหญ่ จะสูงมากกว่าผู้สูงวัย ซึ่งที่ผ่านมาเราฉีดวัคซีน AstraZeneca ในผู้สูงวัย ยังไม่ค่อยเห็นใครบ่นเรื่องไข้หลังฉีดวัคซีน เมื่อฉีดวัคซีนหมู่มากที่กำลังจะมาถึงโดยเฉพาะในวัยทำงาน หรือที่อายุน้อยกว่า 30 ปี หลังฉีดวัคซีน AstraZeneca ให้เตรียมยาพาราเซตามอลไว้ได้เลย เมื่อฉีดแล้วกลับถึงบ้านกินเลยก็ไม่ว่ากัน
ภาพจาก Marc Bruxelle / Shutterstock.com
นายแพทย์ยง ทิ้งท้ายว่า จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีอายุน้อยและมีปฏิกิริยาต่อวัคซีนมาก จะมีภูมิต้านทานที่สูง จึงไม่แปลกผู้หญิงมีภูมิต้านทานสูงกว่าผู้ชาย ผู้ที่มีอายุน้อยจะมีภูมิต้านทานสูงกว่าผู้ที่มีอายุมาก หรือผู้สูงวัย ถ้าทุกคนเตรียมตัวก็จะได้ไม่ตื่นตระหนกถึงอาการที่เกิดขึ้น นอกจากว่ามีอาการมากก็ต้องพบแพทย์
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่