สรุปแถลงนายกฯ รอบล่าสุด ย้ำ ปชช. การ์ดอย่าตก-จะหาวัคซีนครบภายในสิ้นปี

 
           สรุปแถลงนายกฯ รอบล่าสุด ย้ำ ปชช. การ์ดอย่าตก-จะหาวัคซีนครบภายในสิ้นปี เร่งจัดหาเตียงให้เพียงพอ ยืนยันรัฐบาลมีความพร้อมรับมืออย่างเต็มที่

สรุปแถลงนายกฯ รอบล่าสุด

             วันที่ 23 เมษายน 2564 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับทรัพยากรการรักษาโควิด 19 ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้เตือนว่าจะเกิดวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เพิ่มขึ้นอีกรอบ ส่งผลให้เกิดการช่วงชิงทรัพยากรในการรักษาทั่วโลก สำหรับประเทศไทยและประชาชนชาวไทย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้พระราชทานอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ

              - รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย
              - รถตรวจวิเคราะห์ผลตรวจพิเศษ
              - รถเอกซเรย์
              - รถพยาบาลกู้ชีพฉุกเฉิน
              - เครื่องช่วยหายใจ
              - เครื่องมือทางการแพทย์อื่น ๆ อีกมากมาย

สรุปแถลงนายกฯ รอบล่าสุด

               นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในนามของประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหนังสือขอขอบใจ และขอเป็นกำลังใจ รวมทั้งขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนทั้งด้านทรัพยากรและบุคลากร ให้กับแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ รวมถึงประชาชนชาวไทยทุกคนอีกด้วย

- สถานการณ์ในประเทศไทย

             วันนี้ประเทศไทยมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2,070 ราย เป็นผลมาจากคลัสเตอร์ล่าสุดช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ที่ยังคงส่งผลสืบเนื่องต่อมาอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยอัตราการแพร่ระบาดครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดมีความรุนแรงและเป็นวงกว้างกว่าระลอกที่ผ่าน ๆ มา

- ขอประชาชนการ์ดไม่ตก เพื่อช่วยลดภาระให้กับบุคลากรทางการแพทย์

              หากเราสามารถร่วมมือร่วมใจกันอีกครั้ง "การ์ดไม่ตก" ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ที่ ศบค. แนะนำ ก็จะช่วยลดภาระให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของเรา และสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมอีกครั้งในเร็ววัน

- การเตรียมความพร้อมเรื่องวัคซีน

             ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนที่ได้รับมอบแล้วจำนวน 2.1 ล้านโดส ที่สามารถฉีดได้ 1.05 ล้านคน โดยนับถึงวันนี้ได้มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 8.4 แสนคน กว่าครึ่งหนึ่งเป็นการฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า ที่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงตลอดเวลา ซึ่งบุคลากรทั้งหมดจะได้รับวัคซีนครบถ้วนภายในสัปดาห์นี้

- เร่งหาวัคซีนเพิ่มให้ครบ 100 ล้านโดส เพื่อฉีดให้ 50 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2564 ที่ผ่านมาจัดหาวัคซีนแล้ว 64 ล้านโดส ประกอบด้วย

            - AstraZeneca 61 ล้านโดส เริ่มส่งมอบเดือนมิถุนายนนี้ 6 ล้านโดส และเดือนต่อ ๆ ไปอีก เดือนละ 10 ล้านโดส

            - Sinovac 2.5 ล้านโดส ส่งมอบแล้ว 2 ล้านโดส พรุ่งนี้ (24 เมษายน 2564) มาอีก 500,000 โดส

            - รัฐบาลจีนได้แจ้งความประสงค์บริจาควัคซีนให้ไทยอีก 500,000 โดส
           
            - สปุตนิค วี จำนวน 5-10 ล้านโดส

            - ไฟเซอร์ อีก 5-10 ล้านโดส

- ตั้งคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ขึ้น ประกอบด้วย

            - คณะแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุข
            - องค์การเภสัชกรรม
            - สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
            - นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน

            โดยมี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน ซึ่งได้รับรายงานว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจะช่วยรัฐบาลจัดหาให้กับพนักงานลูกจ้างเองด้วยประมาณ 10-15 ล้านโดส และในอาทิตย์หน้า พล.อ. ประยุทธ์ จะประชุมร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับแนวทางการจัดหาและแจกจ่ายวัคซีน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ประเทศไทยของเราสามารถมีวัคซีนเพื่อฉีดให้กับประชาชนให้ครบ 50 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้

            พล.อ. ประยุทธ์ ระบุยืนยันว่า รัฐบาลและ ศบค. มีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในครั้งนี้อย่างเต็มที่ องค์การเภสัชกรรมได้มีการสำรองและกระจายยาฟาวิพิราเวียร์ สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 จำนวนมากกว่า 3 แสนเม็ด โดยมีการกระจายไปสำรองในพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว และกำลังนำเข้าเพิ่มอีก 2 ล้านเม็ด ในด้านการจัดเตรียมเตียงให้กับผู้ป่วย เรามีเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วย

- เตียงสำหรับผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อ ตอนนี้มีกว่า 28,000 เตียง ทั้งโรงพยาบาลรัฐ เอกชน โรงพยาบาลสนาม และฮอสพิเทล

            ขณะนี้มีผู้ป่วยหลักพันต่อเนื่องกันหลายวัน ทำให้จำนวนเตียงลดลงอย่างมาก แต่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้จัดเตรียมมาตรการเพื่อจัดหาเตียงให้กับผู้ป่วยทุกคนให้ได้

- มาตรการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจ

             รัฐบาลได้เตรียมงบประมาณในการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจไว้อีกประมาณ 3.8 แสนล้านบาท โดยมาจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท แบ่งดังนี้

            1. เงินกู้เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 2.4 แสนล้านบาท งบกลางปีงบประมาณ 2564 อีก 9.9 หมื่นล้านบาท

            2. ค่าใช้จ่ายบรรเทาโควิด 19 อีก 4 หมื่นล้านบาท

            ฝ่ายเศรษฐกิจได้เตรียมโครงการที่จะช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและการบริโภค รวมไปถึงโครงการที่จะก่อให้เกิดการลงทุนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น เพราะฉะนั้นขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอที่จะใช้ในการช่วยเหลือเยียวยา รวมทั้งการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาเจริญเติบโตให้ได้โดยเร็ว

            พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "ผมขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้ความร่วมมือ ให้ความช่วยเหลือในการฝ่าวิกฤตครั้งนี้ ขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ หมอ พยาบาล อสม. เจ้าหน้าที่ทุกคน ที่เสียสละ อดทน แม้ว่าตนเองจะเสี่ยงอันตรายและเหน็ดเหนื่อยเพียงใด แต่ยังคงมุ่งมั่นทุ่มเททำหน้าที่เพื่อส่วนรวม ผมขอยกย่องทุกท่านจากใจจริง ดังนั้น พวกเราทุกคนจึงต้องช่วยกันปกป้องทีมแพทย์ของประเทศไทยด้วยการระมัดระวังตัว ลดความเสี่ยงให้มากที่สุดในช่วงเวลานี้ คือ การเว้นระยะห่าง ล้างมือ และใส่แมสก์ให้มากที่สุดเมื่อต้องพบเจอผู้อื่น

            ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมขอให้คำมั่นสัญญาว่า ผมและรัฐบาลจะทำทุกทางเพื่อให้เราผ่านวิกฤตในระลอกนี้ไปให้ได้ พวกเราทุกคนจะสู้ไปด้วยกันอีกครั้ง และผมเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพของเราทุกคน ประเทศไทยจะต้องเอาชนะโรคร้ายในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน ขอบคุณครับ" 

>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สรุปแถลงนายกฯ รอบล่าสุด ย้ำ ปชช. การ์ดอย่าตก-จะหาวัคซีนครบภายในสิ้นปี อัปเดตล่าสุด 27 เมษายน 2564 เวลา 23:32:20 13,727 อ่าน
TOP