เส้นด้าย สอดอStyle ติดโควิด 19 ชวนคนรักษาตัวที่บ้าน สธ. ฮึ่ม โร่ปรามผิดกฎหมาย

          จากกรณี เส้นด้าย สอดอStyle ยูทูบเบอร์ดัง แจ้งข่าวติดโควิด 19 หลังแฟนหนุ่ม ไวท์ สอดอStyle ติดเชื้อ โดยเจ้าตัวตรวจรอบ 2 ถึงเจอเชื้อ พร้อมระบุว่า ถ้าอาการยังไม่รุนแรง จะลองรักษาตัวเองอยู่ที่บ้านก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยออกมาไลฟ์พูดถึงสรรพคุณยาสมุนไพรจีนยี่ห้อหนึ่งว่ากินแล้วไม่เป็นโควิด 19 แน่ เพราะตนเองลองกินช่วงระบาดรอบแรกแล้วได้ผล รอดมาได้ นั้น

อ่านข่าว : ได้เหรอ.. เส้นด้าย สอดอStyle เผยกินยานี้วันละ 8 เม็ด ไม่เป็นโควิด 19 แน่ หมอบอกมา !

อ่านข่าว : ติดแล้ว ! เส้นด้าย สอดอStyle พบเชื้อโควิด 19 หลังแฟนติด-ไปตรวจรอบ 2


          วันที่ 13 เมษายน 2564 ข่าวไทยพีบีเอส รายงานว่า นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกร​มควบคุมโรค​ กล่าวถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านไม่ได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลว่า สำหรับการตรวจหาเชื้อนั้น พบว่ามีบางส่วนที่ไปตรวจกับห้องปฏิบัติการแล้วไม่มีโรงพยาบาลรองรับหลังทราบผลการตรวจ ซึ่งล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานโรงพยาบาลเอกชนรวมตัวเป็นเครือข่ายส่งต่อผู้ป่วย รวมทั้งเตรียม Hospitel ที่เปิดรองรับได้แล้ว 4,000 เตียง และหลายหน่วยงานได้เร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามอย่างต่อเนื่อง

          พร้อมย้ำ ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ต้องได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น ขณะนี้โรงพยาบาลมีเตียงเพียงพอ 30,000 เตียง อยู่ในมือเรียบร้อย ส่วนผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ บางคนมีอาการปอดบวมแล้วอาการรุนแรงทรุดลงเลยก็มี ดังนั้น ผู้ติดเชื้อทุกคนต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เท่านั้น วันนี้ไม่มีอาการ ไม่ได้หมายความว่าพรุ่งนี้จะไม่มีอาการ

          ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อเคสที่รักษาตัวอยู่ที่บ้านก็ยังสามารถแพร่เชื้อได้ทั้งเวลาพูดคุย ไอ จาม การควบคุมโรคจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ควรอยู่บ้านเด็ดขาด ในต่างประเทศที่ให้ผู้ป่วยอยู่บ้านนั้นเนื่องจากผู้ติดเชื้อมากจนเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ไหว

          โรคนี้เป็นโรคติดต่ออันตราย หากเจ้าหน้าที่สั่งให้มารักษาก็ต้องมารักษา ไม่เช่นนั้นจะผิดตามข้อกฎหมาย ส่วนผู้ที่เชิญชวนให้ผู้ติดเชื้อคนอื่นอยู่รักษาตัวอยู่บ้าน ก็ขอให้หยุดการกระทำนั้นด้วย สำหรับกรณีเน็ตไอดอลคนนี้ ทางกระทรวงหรือที่เกี่ยวข้องคงจะมีการติดต่อไปอีกครั้งหนึ่ง และผู้ติดเชื้อคนใดยังไม่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ขอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านสายด่วนโทร 1668 1330 และ 1669

          ขณะที่ เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่า กรณีที่เจ้าหน้าโรงพยาบาลจะส่งตัวผู้ติดเชื้อไปที่โรงพยาบาลสนาม แต่เจ้าตัวไม่อยากไปจึงจะมีการเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อไปรักษาตัวที่จังหวัดอื่น กรณีนี้ นพ.โอภาส กล่าวว่า ถ้ารู้ตัวว่าติดเชื้อแล้ว ห้ามเดินทางข้ามจังหวัดเด็ดขาด เพราะเท่ากับเอาโรคติดต่ออันตรายไปสู่จังหวัดอื่น ๆ


ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวไทยพีบีเอส, เดลินิวส์ออนไลน์