อัปเดตอาการผู้ว่าฯ สมุทรสาคร พบมีไข้ - ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ แต่ไม่เกี่ยวกับโควิด 19 แพทย์ยังไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจ เบื้องต้นสื่อสารได้แล้ว แต่ยังพูดไม่ได้
วันที่ 15 มกราคม 2564 ช่อง 3 รายงานว่า ศ. นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผยความคืบหน้าอาการของ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ว่า ทีมแพทย์เตรียมจะเอาเครื่องช่วยหายใจออกในช่วงเช้า แต่พบว่าคนไข้มีไข้ในช่วงเย็น โดยมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับอาการป่วยโรคโควิด 19 โดยผู้สูงอายุมีโอกาสเกิดการติดเชื้อได้
ทั้งนี้ มีการให้ยาปฏิชีวนะไปแล้ว รอประเมินอาการหลังให้ยา 48-72 ชั่วโมง ต้องรอให้อาการติดเชื้อของคนไข้ดีขึ้นก่อนจึงค่อยถอดเครื่องช่วยหายใจ ส่วนยาอื่น ๆ ได้ถอยการให้ยาหมดแล้วเพื่อให้คนไข้ตื่น พร้อมเอาเครื่องช่วยหายใจออก
ศ. นพ.ประสิทธิ์ ระบุว่า ตามหลักแล้วเมื่อมีไข้ขึ้นในระบบทางเดินหายใจ แพทย์จะยังไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจออก เพื่อที่จะทำให้การดูดเสมหะทำได้ง่ายขึ้น ถ้านำเสมหะออก เช่น คนไข้ไอเอาเสมหะออกไม่ออก การติดเชื้อก็จะสะสมอยู่ในปอด อาจจะยิ่งแย่ลง แต่จากการย้อมเชื้อจากห้องปฏิบัติการ พบการอักเสบของปอด จากเชื้อแบคทีเรีย เวลาแพทย์รักษาปอดติดเชื้อ ไม่ใช่แค่ให้ยาปฏิชีวนะอย่างเดียว เนื่องจากจะมีเสมหะที่คั่งอยู่ในระบบทางเดินหายใจ และเสมหะเหล่านี้ ถ้าไม่ดูดออกมา จะทำให้ไปอุดหลอดลมเล็ก ๆ การติดเชื้อก็จะดูแลยากขึ้น ทำให้คนไข้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจก่อน แต่เครื่องช่วยหายใจที่ใส่เป็นลักษณะที่คนไข้เป็นตัวกระตุ้นเองทั้งหมด หายใจด้วยตัวเอง รู้สึกตัวดีในระดับหนึ่งแล้ว คือ สามารถสื่อสารได้ เพียงแต่ยังพูดไม่ได้เท่านั้น เนื่องจากใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ โดยได้ฟังเสียงลูกผ่านทางมือถือ ทำให้กำลังใจของคนไข้ดีขึ้นเยอะ หลังจากได้ยินเสียงลูก
ศ. นพ.ประสิทธิ์ ระบุว่า ในฐานะแพทย์ เป็นห่วงเสมอ จนกว่าคนไข้จะเดินกลับบ้าน แต่ที่ผ่านคนไข้ที่มีอาการปอดอักเสบ ส่วนใหญ่จะเอาอยู่ ส่วนปอดของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ถ้าดูจากข้อมูล ปอดไม่ได้ถูกทำลายจากโควิด-19 ที่เห็นอย่างชัดเจน โดย ปอดอักเสบในผู้สูงอายุต่างจากปอดอักเสบในคนอายุน้อย อัตราความเสี่ยงก็ต่างกัน การไอเอาเสมหะออกเองทำได้ยากขึ้น เป็นต้น
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี
