กระทรวงสาธารณสุข เผยรายชื่อ 5 จังหวัด ที่จะได้รับวัคซีนโควิด 19 ก่อน คือจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุด สมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด ระยะแรกมีวัคซีน 2 ล้านโดส
ระยะที่ 1 วัคซีนโควิด-19 จำนวน 2 ล้านโดส จะถูกส่งมาจากประเทศจีน ล็อตแรก เดือนกุมภาพันธ์ 2 แสนโดส เดือนมีนาคม 8 แสนโดส และเดือนเมษายน 1 ล้านโดส โดยฉีดคนละ 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน เป้าหมายคือฉีดในพื้นที่ที่มีการระบาดมากที่สุดก่อน ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด
โดยประเทศไทยได้กำหนดเป้าหมายการให้วัคซีน คือ การลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต และปกป้องระบบสุขภาพประเทศ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายในการรับวัคซีนล็อตแรก มีดังนี้
1. บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน
2. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง หัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน
3. ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
4. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด 19 เช่น อสม. ทหาร ตำรวจ ที่จะต้องคัดกรองผู้ที่เข้ามาจากต่างประเทศ และในพื้นที่ที่มีการระบาด
ระยะที่ 2 เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2564 จำนวน 26 ล้านโดส ฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ
ระยะที่ 3 ปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565 ฉีดให้ประชาชนทั่วไปให้ครอบคลุมมากที่สุด เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรค
ทั้งนี้ องค์การเภสัชกรรมจะเป็นผู้นำเข้าและขนส่งกระจายไปยังโรงพยาบาล โดยจะเริ่มลงทะเบียนตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงที่จะฉีดวัคซีนในช่วงปลายเดือนมกราคม ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 10 มกราคม 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้แถลงความคืบหน้าเรื่องแผนการจัดหาและกระจายวัคซีนโควิด 19 ในประเทศไทย โดยทางคณะกรรมการวิชาการเห็นชอบให้ดำเนินการเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 วัคซีนโควิด-19 จำนวน 2 ล้านโดส จะถูกส่งมาจากประเทศจีน ล็อตแรก เดือนกุมภาพันธ์ 2 แสนโดส เดือนมีนาคม 8 แสนโดส และเดือนเมษายน 1 ล้านโดส โดยฉีดคนละ 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน เป้าหมายคือฉีดในพื้นที่ที่มีการระบาดมากที่สุดก่อน ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด
โดยประเทศไทยได้กำหนดเป้าหมายการให้วัคซีน คือ การลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต และปกป้องระบบสุขภาพประเทศ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายในการรับวัคซีนล็อตแรก มีดังนี้
1. บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน
2. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง หัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน
3. ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
4. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด 19 เช่น อสม. ทหาร ตำรวจ ที่จะต้องคัดกรองผู้ที่เข้ามาจากต่างประเทศ และในพื้นที่ที่มีการระบาด
ระยะที่ 2 เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2564 จำนวน 26 ล้านโดส ฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ
ระยะที่ 3 ปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565 ฉีดให้ประชาชนทั่วไปให้ครอบคลุมมากที่สุด เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรค
ทั้งนี้ องค์การเภสัชกรรมจะเป็นผู้นำเข้าและขนส่งกระจายไปยังโรงพยาบาล โดยจะเริ่มลงทะเบียนตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงที่จะฉีดวัคซีนในช่วงปลายเดือนมกราคม ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข