แถลงปม นักบอลไทยลีก ติดโควิด 19 ยันไม่ได้เกิดตามยถากรรม - เปิดไทม์ไลน์ ไปไหนมาบ้าง

 

             แถลงปม นักบอลไทยลีก ติดโควิด 19 ยันไม่ได้เกิดตามยถากรรม พบ ขึ้นเครื่องบิน ฝึกซ้อมร่วมทีม นั่งรถตู้ เข้าร้านอาหาร จ.บุรีรัมย์- บางบ่อ สมุทรปราการ สธ. ยัน พบว่าติดโรคจากการตรวจคัดกรองจากกระบวนการเฝ้าระวัง

          จากกรณีที่ กระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมแถลงข่าวในวันนี้ (11 กันยายน 2563) เวลา 17.00 น. หลังจากมีการตรวจคัดกรองก่อนการแข่งขัน แล้วพบว่า มีนักฟุตบอลในไทยลีกติดโควิด 19 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

          อ่านข่าว : สธ. เตรียมแถลง มีนักฟุตบอลไทยลีก ติดโควิด 19 - คนจัด เผยสาเหตุไม่ยกเลิกการแข่ง

          ล่าสุด  กระทรวงสาธารณสุข ได้เผยแพร่การแถลงข่าวของ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค, นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป มีรายละเอียดดังนี้

          - กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ทำ MOU ร่วมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการตรวจคัดกรองโรคโควิด 19 กับนักกีฬาฟุตบอลไทยลีก และผู้เกี่ยวข้อง

          - ก่อนจะเปิดไทยลีก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ตรวจผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 1,115 คน

          - การพบผู้ติดเชื้อรายนี้ เกิดจากระบบเฝ้าระวังเชิงรุกที่วางไว้ ไม่ได้เกิดตามยถากรรม เราวางระบบเพื่อค้นหา เพื่อความปลอดภัย จนพบว่ามีผู้ติดโรค


            - 11 ส.ค. 63 เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ให้ผลลบ

            - 13 ส.ค. 63 เดินทางถึงประเทศไทย

            - 13-27 ส.ค. 63 เข้าพักในสถานที่กักตัว ASQ ตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง ไม่พบเชื้อ

            - 27 ส.ค. 63 เดินทางไป จ.บุรีรัมย์ โดยรถตู้ พร้อมคนขับ 1 คน ไม่ได้แวะพักที่ใด มีการสวมหน้ากากอนามัย

            - 28 ส.ค. - 9 ก.ย. 63 อยู่ที่บ้าน, ทานข้าวกับกลุ่มเพื่อนต่างชาติ เดินทางพร้อมเพื่อนกลุ่มเดิมเพื่อไปซ้อมฟุตบอลโดยอยู่ในห้องแต่งตัว 30 นาที ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย, เดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวของเพื่อน ไม่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ก่อนจะเข้ารับการตรวจหาเชื้ออีกครั้งตาม MOU

            - 30 ส.ค. 63 แข่งฟุตบอลนัดอุ่นเครื่องกับทีมราชบุรี ที่สนามช้างอารีน่า จ.บุรีรัมย์

            - 5 ก.ย. 63 แข่งฟุตบอลกับทีมขอนแก่น ที่สนามช้างอารีน่า จ.บุรีรัมย์




ขอบคุณข้อมูลจาก กระทรวงสาธารณสุข