ประกาศออกราชกิจจานุเบกษาแล้ว ผ่อนคลายระยะที่ 3 เคอร์ฟิว 5 ทุ่ม - ตี 3 เริ่มเดินทางออกต่างจังหวัดได้ - เอาผิดขบวนการหักหัวคิวที่กักตัวของรัฐ
ภาพจาก Foto by KKK/Shutterstock.com
วันที่ 29 พฤษภาคม 2563 ราชกิจจานุเบกษา ได้ออกประกาศข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 9) โดยมีใจความสำคัญดังนี้
1. การห้ามออกนอกเคหสถาน
1. การห้ามออกนอกเคหสถาน
ห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 23.00-03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น และเริ่มให้เดินทางออกต่างจังหวัดได้ โดยมีข้อกำหนดว่า ต้องเริ่มออกเดินทางจากจังหวัดต้นทางก่อนเวลา 23.00 น. และถึงจังหวัดปลายทางหลังเวลา 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น สามารถเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในช่วงเคอร์ฟิวได้
2. การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา
2. การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา
- ใช้อาคาร สถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน ฝึกอบรม ของโรงเรียนนอกระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนเฉพาะประเภทวิชาชีพ และประเภทศิลปะและกีฬาประเภทที่ผ่อนคลายให้ทำกิจกรรมได้ โดยพิจารณาจำนวนนักเรียนต่อห้องเรียน
- ใช้อาคาร สถานที่เพื่อการประชุม การจัดสอบ ระยะสั้นไม่เกิน 15 วัน
3. การผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้
- ใช้อาคาร สถานที่เพื่อการประชุม การจัดสอบ ระยะสั้นไม่เกิน 15 วัน
3. การผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้
3.1 กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและดำเนินชีวิต
- ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้จนถึงเวลา 21.00 น.
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์การประชุม จัดนิทรรศการได้ แต่จำกัดพื้นที่รวมไม่เกิน 2 หมื่นตารางเมตร เปิดได้จนถึง 3 ทุ่ม
- สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง เปิดได้ แต่ต้องงดกิจกรรมให้คนมาชุมนุมกัน
- ร้านเสริมสวย เปิดได้ แต่ใช้บริการไม่เกินคนละ 2 ชั่วโมง ไม่มีคนนั่งรอในร้าน
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เปิดได้เฉพาะการปฏิบัติงานที่จำเป็น
3.2 กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย สุขภาพ สันทนาการ
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์การประชุม จัดนิทรรศการได้ แต่จำกัดพื้นที่รวมไม่เกิน 2 หมื่นตารางเมตร เปิดได้จนถึง 3 ทุ่ม
- สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง เปิดได้ แต่ต้องงดกิจกรรมให้คนมาชุมนุมกัน
- ร้านเสริมสวย เปิดได้ แต่ใช้บริการไม่เกินคนละ 2 ชั่วโมง ไม่มีคนนั่งรอในร้าน
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เปิดได้เฉพาะการปฏิบัติงานที่จำเป็น
3.2 กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย สุขภาพ สันทนาการ
- คลินิกเสริมความงาม ร้านสัก ร้านเจาะร่างกาย
- สปา ร้านนวด (ยกเว้นการอบตัว อบไอน้ำแบบรวม และนวดหน้า) ยกเว้นอาบอบนวด
- ฟิตเนส เปิดได้ แต่ต้องจำกัดจำนวนผู้เล่น
- โรงยิม ค่ายมวย ซ้อมได้ แต่ต้องเป็นการชกลม ไม่มีคู่ชก ไม่แข่งขัน ไม่มีผู้ชม
- สนามกีฬา เปิดได้เฉพาะการออกกำลัง หรือฝึกซ้อม ไม่ใช่แข่งขัน ต้อองมีคนอยู่ในสนาม (ไม่นับรวมผู้เล่น) ไม่เกิน 10 คน
- สนามโบว์ลิ่ง โรลเลอร์เบลด เปิดได้เฉพาะออกกำลังกายหรือฝึกซ้อม
- สถาบันลีลาศ
- สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมทำงน้ำในบึง เช่น เจ็ตสกี ไคท์เซิร์ฟ เครื่องเล่นประเภทบานาน่าโบ๊ท ให้เปิดดำเนินการได้โดยต้องไม่เป็นการแข่งขันและจำกัดจำนวนผู้เล่นตามจำนวนเครื่องเล่นและขนาดพื้นที่
- โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ จำกัดผู้ชมไม่เกิน 200 คน
- สวนสัตว์ เปิดได้โดยจำกัดจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมในพื้นที่จัดแสดงที่เป็นการรวมกลุ่ม
4. การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคและการจัดระเบียบ
- สปา ร้านนวด (ยกเว้นการอบตัว อบไอน้ำแบบรวม และนวดหน้า) ยกเว้นอาบอบนวด
- ฟิตเนส เปิดได้ แต่ต้องจำกัดจำนวนผู้เล่น
- โรงยิม ค่ายมวย ซ้อมได้ แต่ต้องเป็นการชกลม ไม่มีคู่ชก ไม่แข่งขัน ไม่มีผู้ชม
- สนามกีฬา เปิดได้เฉพาะการออกกำลัง หรือฝึกซ้อม ไม่ใช่แข่งขัน ต้อองมีคนอยู่ในสนาม (ไม่นับรวมผู้เล่น) ไม่เกิน 10 คน
- สนามโบว์ลิ่ง โรลเลอร์เบลด เปิดได้เฉพาะออกกำลังกายหรือฝึกซ้อม
- สถาบันลีลาศ
- สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมทำงน้ำในบึง เช่น เจ็ตสกี ไคท์เซิร์ฟ เครื่องเล่นประเภทบานาน่าโบ๊ท ให้เปิดดำเนินการได้โดยต้องไม่เป็นการแข่งขันและจำกัดจำนวนผู้เล่นตามจำนวนเครื่องเล่นและขนาดพื้นที่
- โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ จำกัดผู้ชมไม่เกิน 200 คน
- สวนสัตว์ เปิดได้โดยจำกัดจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมในพื้นที่จัดแสดงที่เป็นการรวมกลุ่ม
4. การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคและการจัดระเบียบ
ให้เจ้าของพื้นที่ รับผิดชอบในการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคโควิด 19 ให้เจ้าพนักงานมีอำนาจตรวจสอบการใช้อาคารสถานที่ตามข้อ 2 ได้ หากพบการกระทำที่มีความเสี่ยง สามารถห้ามปราม ตักเตือนได้ และเสนอให้ผู้มีอำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีคำสั่งปิดสถานที่ในพื้นที่รับผิดชอบไว้เป็นการชั่วคราวก็ได้
5. การผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตจังหวัด
เดินทางข้ามจังหวัดได้ รวมทั้งผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ในกรณีมีปัญหาว่า สถานที่หรือกิจกรรมใดเข้าข่ายตามข้อกฎหมายหรือ ให้หารือ คณะกรรมการเฉพาะกิจผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกัน ซึ่ง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นหัวหน้าสำนักงาน
ส่วนกรณีที่มีผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ เรียก รับ ยอมรับเงิน หรือ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ หรือแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ จากการใช้สถานที่ของเอกชนเพื่อการแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต หรือเจตนาแกล้งให้ผู้อื่นมีความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือข้อกำหนดซึ่งออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตในการเรียกเงิน ทรัพย์สินหรือ ประโยชน์ตอบแทนจากการไม่ดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมาย ผู้ประสบเหตุ ดังกล่าวให้แจ้งต่อศูนย์ดำรงธรรมได้ทั่วราชอาณาจักร หรือแจ้งต่อศูนย์บริหารสถานการณ์ covid 19 ทำเนียบรัฐบาล
ในกรณีมีปัญหาว่า สถานที่หรือกิจกรรมใดเข้าข่ายตามข้อกฎหมายหรือ ให้หารือ คณะกรรมการเฉพาะกิจผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกัน ซึ่ง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นหัวหน้าสำนักงาน
ส่วนกรณีที่มีผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ เรียก รับ ยอมรับเงิน หรือ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ หรือแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ จากการใช้สถานที่ของเอกชนเพื่อการแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต หรือเจตนาแกล้งให้ผู้อื่นมีความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือข้อกำหนดซึ่งออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตในการเรียกเงิน ทรัพย์สินหรือ ประโยชน์ตอบแทนจากการไม่ดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมาย ผู้ประสบเหตุ ดังกล่าวให้แจ้งต่อศูนย์ดำรงธรรมได้ทั่วราชอาณาจักร หรือแจ้งต่อศูนย์บริหารสถานการณ์ covid 19 ทำเนียบรัฐบาล
ภาพจาก ราชกิจจานุเบกษา
ภาพจาก ราชกิจจานุเบกษา
ภาพจาก ราชกิจจานุเบกษา
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ราชกิจจานุเบกษา