แพทย์สหรัฐฯ เผยรายงานวิเคราะห์ COVID-19 อาจเป็นสาเหตุให้วัยผู้ใหญ่ตอนต้น เกิดโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน แม้ไม่มีอาการป่วยหนัก อันตรายถึงชีวิต หากช่วยไม่ทัน
เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2563 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า คณะแพทย์จากโรงพยาบาล Mount Sinai Health System ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้เผยรายงานการศึกษา ที่ตีพิมพ์ลง New England Journal of Medicine พบหลักฐานเพิ่มเติมว่า COVID-19 สามารถทำให้เลือดจับตัวเป็นก้อนในลักษณะที่ผิดปกติ และก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ช่วงอายุประมาณ 30 และ 40 กว่าปี ซึ่งมักจะป่วยโควิด 19 แบบไม่แสดงอาการป่วยรุนแรง
ดร.โทมัส อ็อกเลย์ ศัลยแพทย์โรคประสาท และเพื่อนร่วมทีม เผยข้อมูลอ้างอิงจากคนไข้จำนวน 5 ราย ที่พวกเขาทำการรักษา ทั้งหมดอายุไม่ถึง 50 ปี ทุกคนป่วยโควิด 19 แบบไม่มีอาการรุนแรง หรือไม่มีอาการเลย แต่ดูเหมือนว่าเชื้อไวรัสโคโรนา จะทำให้เกิดลิ่มเลือดเพิ่มขึ้นในหลอดเลือดแดงใหญ่ นำไปสู่โรคหลอดเลือดสมองอย่างรุนแรง อาการเฉียบพลันอันตรายถึงชีวิต
ดร.โทมัส กล่าวว่า "รายงานของเราแสดงให้เห็นว่า เกิดโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน ในผู้ป่วยอายุน้อย (ที่ไม่ใช่ผู้สูงอายุ) เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเจ็ดเท่าจากปกติ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ป่วยเหล่านี้ ส่วนใหญ่ไม่มีประวัติการเจ็บป่วย หรือการรักษาทางการแพทย์มาก่อนหน้านี้ และอยู่ที่บ้านด้วยอาการที่ไม่รุนแรง หรือไม่แสดงอาการ แต่ทั้งหมดมีผลทดสอบโควิด 19 เป็นบวก"
ทั้งนี้ ทางทีมแพทย์ยังได้เผยว่า ผู้ป่วยอายุน้อยส่วนใหญ่ลังเลใจที่จะแจ้งหน่วยฉุกเฉิน ในกรณีที่สงสัยว่าอาจจะติดเชื้อ เนื่องจากความกังวลถึงความโกลาหลที่โรงพยาบาล ในการรับมือกับผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการรุนแรง โดยในจำนวนผู้ป่วยของพวกเขา พบว่ามีจำนวน 2 ราย ที่โทร. แจ้งรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลล่าช้า ทำให้เกิดอาการโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องปกติที่คนอายุน้อยจะเกิดโรคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเส้นเลือดใหญ่ในสมอง
ดร.โทมัส กล่าวเสริมว่า โรคหลอดเลือดสมองในเส้นเลือดใหญ่ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษาโดยทันที ผู้ป่วยอาจจะถึงขั้นเสียชีวิต หรืออาการวิกฤต เนื่องจากเซลล์สมองจะตาย เมื่อขาดการไหลเวียนของเลือด และยิ่งหลอดเลือดถูกปิดกั้นนานเท่าไร ความเสียหายในสมองก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น การรักษาอย่างรวดเร็วจึงมีความสำคัญ โดยการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับหลอดเลือดขนาดใหญ่ คือการกำจัดลิ่มเลือด แต่ต้องทำภายใน 6 ชั่วโมง หรือนานไม่เกิน 24 ชั่วโมง
ดร.โทมัส อ็อกเลย์ ศัลยแพทย์โรคประสาท และเพื่อนร่วมทีม เผยข้อมูลอ้างอิงจากคนไข้จำนวน 5 ราย ที่พวกเขาทำการรักษา ทั้งหมดอายุไม่ถึง 50 ปี ทุกคนป่วยโควิด 19 แบบไม่มีอาการรุนแรง หรือไม่มีอาการเลย แต่ดูเหมือนว่าเชื้อไวรัสโคโรนา จะทำให้เกิดลิ่มเลือดเพิ่มขึ้นในหลอดเลือดแดงใหญ่ นำไปสู่โรคหลอดเลือดสมองอย่างรุนแรง อาการเฉียบพลันอันตรายถึงชีวิต
ดร.โทมัส กล่าวว่า "รายงานของเราแสดงให้เห็นว่า เกิดโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน ในผู้ป่วยอายุน้อย (ที่ไม่ใช่ผู้สูงอายุ) เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเจ็ดเท่าจากปกติ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ป่วยเหล่านี้ ส่วนใหญ่ไม่มีประวัติการเจ็บป่วย หรือการรักษาทางการแพทย์มาก่อนหน้านี้ และอยู่ที่บ้านด้วยอาการที่ไม่รุนแรง หรือไม่แสดงอาการ แต่ทั้งหมดมีผลทดสอบโควิด 19 เป็นบวก"
ทั้งนี้ ทางทีมแพทย์ยังได้เผยว่า ผู้ป่วยอายุน้อยส่วนใหญ่ลังเลใจที่จะแจ้งหน่วยฉุกเฉิน ในกรณีที่สงสัยว่าอาจจะติดเชื้อ เนื่องจากความกังวลถึงความโกลาหลที่โรงพยาบาล ในการรับมือกับผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการรุนแรง โดยในจำนวนผู้ป่วยของพวกเขา พบว่ามีจำนวน 2 ราย ที่โทร. แจ้งรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลล่าช้า ทำให้เกิดอาการโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องปกติที่คนอายุน้อยจะเกิดโรคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเส้นเลือดใหญ่ในสมอง
ดร.โทมัส กล่าวเสริมว่า โรคหลอดเลือดสมองในเส้นเลือดใหญ่ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษาโดยทันที ผู้ป่วยอาจจะถึงขั้นเสียชีวิต หรืออาการวิกฤต เนื่องจากเซลล์สมองจะตาย เมื่อขาดการไหลเวียนของเลือด และยิ่งหลอดเลือดถูกปิดกั้นนานเท่าไร ความเสียหายในสมองก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น การรักษาอย่างรวดเร็วจึงมีความสำคัญ โดยการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับหลอดเลือดขนาดใหญ่ คือการกำจัดลิ่มเลือด แต่ต้องทำภายใน 6 ชั่วโมง หรือนานไม่เกิน 24 ชั่วโมง