กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ถอดรหัสพันธุกรรม โควิด 19 ทั่วโลก มีทั้งหมด 3 สายพันธุ์ ที่ระบาดหลัก ๆ ในไทยเป็นเชื้อที่กลายพันธุ์ มาจากอู่ฮั่น ยังไม่ชัดว่ารุนแรงต่างกันหรือไม่
จากการถอดรหัสทางพันธุกรรม เชื้อไวรัสโคโรนา จากผู้ป่วย สามารถจำแนกออกได้เป็น 3 กลุ่ม คือ
- กลุ่มสายพันธุ์ A ที่มาจากค้างคาว
- กลุ่มสายพันธุ์ B ที่กลายพันธุ์จากกลุ่ม A บางส่วน มาจากอู่ฮั่น เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในไทย
- กลุ่มสายพันธุ์ C เป็นกลุ่มที่กลายพันธุ์มาจากกลุ่ม B เล็กน้อย ระบาดในแถบยุโรปและสิงคโปร์
ทั้งนี้ ความแตกต่างกันของทั้ง 3 สายพันธุ์ มีจีโนมทั้งเส้นแตกต่างกันเพียงแค่ 1 ตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งยังไม่แสดงผลว่ามีการก่อโรคที่แตกต่างกัน การศึกษาต่อไปจะมีการถอดรหัสพันธุกรรมเพิ่มเติมจากผู้ป่วยอีก 100 คน โดยร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และสภากาชาดไทย เพื่อดูรายละเอียดของโรคเพิ่มเติม
ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ย้ำว่า ไทยยังศึกษาเกี่ยวกับ โควิด 19 อยู่ตลอดเวลา และพบว่าเชื้อไวรัสมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา แต่กลายพันธุ์ช้ากว่าเมื่อเทียบกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ยังไม่มีนัยสำคัญว่าการกลายพันธุ์ทำให้เชื้อรุนแรงมากขึ้นหรือติดง่ายขึ้นหรือไม่ แต่ทุกหน่วยงานจะเร่งถอดรหัสพันธุกรรมเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาและสนับสนุนการทำวัคซีน และเป็นฐานข้อมูลในการวิจัยต่อไปในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส
ภาพจาก peterschreiber.media / Shutterstock.com
วันที่ 26 เมษายน 2563 ไทยพีบีเอส รายงานว่า ดร.พิไลลักษณ์ อัคคไพบูลย์ โอกาดะ หัวหน้าฝ่ายไวรัสระบบทางเดินหายใจ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า จากการศึกษาและถอดรหัสพันธุกรรมผู้ป่วย COVID 19 จากผู้ป่วยเพศหญิงอายุ 61 ปี และผู้ป่วยหญิงอายุ 74 ปี พบว่า COVID-19 มีความใกล้เคียงกับไวรัสโคโรนาที่มาจากค้างคาว ถึง 88% และใกล้เคียงกับโรคซาร์ส เพียง 80% และมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนที่ไปจับกับมนุษย์จากการถอดรหัสทางพันธุกรรม เชื้อไวรัสโคโรนา จากผู้ป่วย สามารถจำแนกออกได้เป็น 3 กลุ่ม คือ
- กลุ่มสายพันธุ์ A ที่มาจากค้างคาว
- กลุ่มสายพันธุ์ B ที่กลายพันธุ์จากกลุ่ม A บางส่วน มาจากอู่ฮั่น เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในไทย
- กลุ่มสายพันธุ์ C เป็นกลุ่มที่กลายพันธุ์มาจากกลุ่ม B เล็กน้อย ระบาดในแถบยุโรปและสิงคโปร์
ทั้งนี้ ความแตกต่างกันของทั้ง 3 สายพันธุ์ มีจีโนมทั้งเส้นแตกต่างกันเพียงแค่ 1 ตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งยังไม่แสดงผลว่ามีการก่อโรคที่แตกต่างกัน การศึกษาต่อไปจะมีการถอดรหัสพันธุกรรมเพิ่มเติมจากผู้ป่วยอีก 100 คน โดยร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และสภากาชาดไทย เพื่อดูรายละเอียดของโรคเพิ่มเติม
ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ย้ำว่า ไทยยังศึกษาเกี่ยวกับ โควิด 19 อยู่ตลอดเวลา และพบว่าเชื้อไวรัสมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา แต่กลายพันธุ์ช้ากว่าเมื่อเทียบกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ยังไม่มีนัยสำคัญว่าการกลายพันธุ์ทำให้เชื้อรุนแรงมากขึ้นหรือติดง่ายขึ้นหรือไม่ แต่ทุกหน่วยงานจะเร่งถอดรหัสพันธุกรรมเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาและสนับสนุนการทำวัคซีน และเป็นฐานข้อมูลในการวิจัยต่อไปในอนาคต
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส