อดีต ผจก.สสส. เชื่อ COVID-19 จะอยู่กับเราไปอีก 1 ปีครึ่ง ถึงเวลาต้องปรับตัวอยู่ให้ได้


          COVID-19 จะจบเมื่อไร ? ทพ.กฤษดา ชี้ เราต้องอยู่กับโรคนี้ไปอีกอย่างน้อย 18 เดือน ถึงเวลาที่ต้องยอมรับความจริง ปรับตัวอยู่กับมันให้ได้ เพราะโลกจะไม่เหมือนเดิมอย่างที่เราคุ้นชินอีกต่อไป

โควิด 19

          เป็นเวลา 3 เดือนเต็มนับจากที่ประเทศไทยพบผู้ป่วย COVID 19 รายแรกเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 หลายคนอึดอัดและอยากรู้ว่า เมื่อไรประเทศไทยถึงจะพ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคนี้สักที

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ อดีตผู้จัดการ สสส. ได้แชร์บทวิเคราะห์ ลงในเฟซบุ๊ก กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ เกี่ยวกับ "COVID-19 จะจบเมื่อไร ?" โดยระบุว่า โรคร้ายนี้จะจบได้มีเพียง 3 วิธีคือ

โควิด 19

1. คนในประเทศไทยจะต้องมีภูมิต้านทาน 60% ของประชากรทั้งหมด

          หมายความว่าต้องมีคนไทยมีภูมิต้านทานอย่างน้อย 40 ล้านคน โรคนี้ถึงจะไม่แพร่ระบาดอีก และการที่จะมีภูมิต้านทานนั้น 1. ติดเชื้อแล้วหาย 2. ฉีดวัคซีน (ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวัคซีน)

          ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 แล้ว 2,518 คน สมมุติว่ายังมีผู้ติดเชื้อที่เราไม่รู้อีก 6 เท่า (เนื่องจากมีอาการน้อย ๆ และไม่ได้ทำการตรวจ) จำนวน 15,108 คน จำนวนตัวเลข 15,108 คนนี้ยังนับว่าห่างไกลจากจำนวน 40 ล้านเป็นอย่างมาก

          และไม่มีประเทศใดในโลกที่จะยอมปล่อยให้คนติดเชื้อกันเยอะ ๆ จนถึง 60% เพราะจะมีคนป่วยจำนวนมากจนล้นโรงพยาบาล และนำมาซึ่งความสูญเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โควิด 19

2. มีการคิดค้นวัคซีนได้ แล้วทำการฉีดให้คนไทยทุกคน

          วิธีการนี้นับว่าดีและปลอดภัยที่สุด แต่การผลิตวัคซีนไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะแต่ละครั้งที่ทำวัคซีนออกมา จะต้องทดลองในสัตว์จนมั่นใจ แล้วจึงทดลองในคน หากไม่ได้ผลก็ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่

          คาดการณ์ว่าวัคซีนตัวแรกอาจเสร็จใน 1 ปี และประเทศที่ผลิตได้ก็ต้องใช้กับประเทศของตัวเองก่อน ดังนั้นกว่าจะมาถึงเมืองไทย คงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 18 เดือน

โควิด 19

3. ค้นพบยารักษา

          ปัจจุบันมียาบางตัวที่รักษาได้ แต่ก็ยังไม่ง่ายเพียงพอ ที่จะใช้ในทุกคนที่ติดโรคนี้ ดังนั้นความหวังที่พบยารักษา โควิด 19 ที่ใช้รักษาได้ง่าย ๆ เหมือนโรคติดเชื้ออื่น ๆ คงไม่เร็ว และไม่มีใครกล้าคาดการณ์ว่าเป็นเมื่อไร

          หากพิจารณาจากข้อมูลนี้ เราคงต้องอยู่กับโควิด 19 ไปอีกอย่างน้อย 18 เดือน ถ้าเราไม่เครียด เข้าใจ รู้จักปรับตัวและยอมรับว่าจะอยู่ร่วมกับโรคร้ายนี้ไปอีก 18 เดือน เราก็จะไม่มีความทุกข์ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

          แต่ถ้าเราคาดหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เช่น จะร่วมกันพิชิตโรคร้ายนี้ให้จบใน 3 เดือน แล้วกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข เราก็จะมีความทุกข์ เครียด และไม่ได้วางแผนชีวิตอย่างถูกต้อง

โควิด 19

          ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเป็นเจ้าของร้านอาหาร และคิดว่าโรคนี้จะจบใน 3 เดือน เราจะหยุดทุกอย่างไว้ ใช้เงินสะสมที่มี เพื่อรอเวลาให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้วค่อยกลับขายใหม่ แต่ถ้าครบ 3 เดือนแล้วโรคนี้ไม่หมดไป เราจะทำอย่างไร เงินสำรองที่มีก็หมดแล้ว ค่าเช่าร้านก็ต้องจ่ายทุกเดือน แบบนี้กิจการคงไม่รอด

          แต่ถ้าเรายอมรับความจริง ยอมรับว่าโรคนี้อาจอยู่กับเรายาวไปอีก 18 เดือน และเริ่มปรับตัวทันที เราก็จะพยายามหาช่องทางขายใหม่ ๆ ทั้งการขายผ่านออนไลน์ การส่งปิ่นโต การคิดเมนูใหม่ หรือการเจาะตลาดในหมู่บ้าน เป็นต้น

โควิด 19

          นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่ยกขึ้นมา เพื่อให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น แต่ยังอีกมากมายที่แต่ละคนต้องคิด เช่น โรงแรมจะปรับอย่างไรเพราะนักท่องเที่ยวคงจะลดลงอย่างมาก ร้านอาหารจะทำอย่างไรถ้าไม่สามารถนั่งกินอาหารเป็นกลุ่มใหญ่ได้เหมือนเดิม ร้านค้าตามห้างจะทำอย่างไรถ้าคนเดินห้างลดลง ร้านขายของจะทำอย่างไรถ้าคนซื้อสินค้าลดลง ฯลฯ

          เราคงต้องยอมรับว่าคงไม่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมในอีก 18 เดือนข้างหน้า เช่น ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกวันที่ออกจากบ้าน เราต้องล้างมือบ่อย ๆ ต้องรักษาระยะห่างจากเพื่อน ๆ อย่างน้อย 2 เมตร ไม่สามารถชวนแฟนไปดูหนัง ไปเที่ยวผับหรือบาร์ได้ ไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ง่าย ๆ แบบเดิม เพราะไปประเทศไหนก็ต้องถูกกักตัว 14 วัน

          รวมถึงไม่สามารถจัดงานสังสรรค์ใหญ่ ๆ เช่น งานแต่งงาน งานเลี้ยง งานประชุมสัมมนา งานนิทรรศการ ฯลฯ เพราะโลกจะไม่เหมือนเดิม อย่างที่เราคุ้นชินอีกต่อไป



>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อดีต ผจก.สสส. เชื่อ COVID-19 จะอยู่กับเราไปอีก 1 ปีครึ่ง ถึงเวลาต้องปรับตัวอยู่ให้ได้ โพสต์เมื่อ 13 เมษายน 2563 เวลา 15:39:35 48,406 อ่าน
TOP