มาเลเซียเยียวยา โควิด 19 สูงสุดคนละ 1.2 หมื่น - สั่งห้ามลดเงินลูกจ้าง ที่เงินเดือนต่ำกว่า 3 หมื่น


          มาเลเซียอัดฉีดงบ 1.88 ล้านล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ บรรเทาความเดือดร้อนจากโควิด 19 มอบเงินช่วยเหลือแก่ประชาชน ให้เบี้ยเลี้ยงพิเศษแก่บุคลากรแพทย์

มาเลเซีย
ภาพจาก MOHD RASFAN / AFP

          สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (COVID-19) นับเป็นวิกฤตที่ส่งผลกระทบต่อคนทุกภาคส่วนทั่วโลก นอกจากประชาชนต้องสูญเสียรายได้จากการถูกล็อกดาวน์ในหลาย ๆ ประเทศ ธุรกิจต่าง ๆ ก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน นับเป็นวิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่รัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศต้องหาวิธีรับมือ และออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชนในห้วงเวลานี้

          เช่นเดียวกับประเทศมาเลเซีย ที่ได้อัดฉีดงบประมาณ 2.5 แสนล้านริงกิต (ราว 1.88 ล้านล้านบาท) ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รับมือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์โควิด 19 โดยเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 เว็บไซต์ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แจกแจงว่า งบประมาณก้อนนี้จะถูกจัดสรรเป็นเงินช่วยเหลือแก่ประชาชน เบี้ยเลี้ยงพิเศษแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้า รวมถึงการปล่อยสินเชื่อก้อนเล็กแก่ธุรกิจ SMEs ตลอดจนการช่วยเหลืออื่น ๆ

          โดยเงิน 1.28 แสนล้านริงกิต (ราว 9.64 แสนล้านบาท) จะถูกใช้เพื่อสวัสดิการสาธารณะ และอีก 1 แสนล้านริงกิต (ราว 7.53 แสนล้านบาท) ใช้เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจ ส่วนอีก 2 ล้านริงกิต (ราว 15 ล้านบาท) จะใช้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่เศรษฐกิจของประเทศ

มาเลเซีย

          "เราเป็นประเทศที่กำลังทำสงครามกับกองกำลังที่มองไม่เห็น สถานการณ์ที่เราเผชิญขณะนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ แม้เราจะไม่ใช่รัฐบาลที่คุณเลือกตั้งมา แต่ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่ารัฐบาลห่วงใยคุณ" นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน กล่าว

          นอกจากนี้เขายังระบุว่า "ผมยอมรับความจริงเรื่องที่ผมเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีของพวกคุณในช่วงเวลาที่ไม่ดีนัก ผมต้องเผชิญวิกฤตการเมือง เศรษฐกิจ และสาธารณสุข ทั้งหมดในเวลาเดียวกัน" อย่างไรก็ตาม เขาให้คำมั่นว่าจะมอบความช่วยเหลือแก่ประชาชนอย่างครอบคลุมทั่วถึง โดยต้องไม่มีใครถูกทิ้งไว้ด้านหลัง

          ด้าน เว็บไซต์ฟรีมาเลเซียทูเดย์ ยังได้เผยรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ ที่น่าสนใจในมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลมาเลเซีย โดยมีข้อมูลบางส่วน ดังนี้

          - มอบเบี้ยเลี้ยงเดือนละ 200 ริงกิต (ราว 1,500 บาท) แก่เจ้าหน้าที่ศุลกากร ตม. ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งควบคุมการเคลื่อนไหว (MCO) ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน

          - มอบเงินช่วยเหลือ 1,600 ริงกิต (ราว 12,000 บาท) แก่ประชาชน 4 ล้านครัวเรือน ที่มีรายได้ 4,000 ริงกิต (ราว 30,000 บาท) หรือต่ำกว่านั้น โดยจ่ายก้อนแรก 1,000 ริงกิต (ราว 7,500 บาท) ในเดือนเมษายน และอีก 600 ริงกิต (ราว 4,500 บาท) ในเดือนพฤษภาคม

          - มอบเงินช่วยเหลือ 800 ริงกิต (ราว 6,000 บาท) แก่ประชาชนอายุ 21 ปีขึ้นไป ที่มีรายได้ 2,000 ริงกิต (ราว 15,000 บาท) หรือต่ำกว่านั้น โดยจ่ายก่อน 500 ริงกิต (ราว 3,700 บาท) ในเดือนเมษายน และอีก 300 ริงกิต (ราว 2,300 บาท) ในเดือนพฤษภาคม

          - มอบเงินช่วยเหลือ 1,000 ริงกิต แก่ผู้ที่มีรายได้ 4,000-8,000 ริงกิต (ราว 30,000-60,000 บาท) โดยจ่ายก่อน 500 ริงกิต (ราว 3,700 บาท) ในเดือนเมษายน และจ่ายส่วนที่เหลือในเดือนถัดไป

          - มอบเงินช่วยเหลือ 500 ริงกิต (ราว 3,700 บาท) แก่คนโสดอายุ 21 ปีขึ้นไป ที่มีรายได้ตั้งแต่ 2,000-4,000 ริงกิต (ราว 15,000-30,000 บาท)

          - การพักชำระหนี้ 6 เดือน

          - ยกเว้นค่าเช่าอาคารของรัฐ 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน

          - มอบเงินช่วยเหลือเดือนละ 600 ริงกิต (ราว 4,500 บาท) นาน 3 เดือน สำหรับผู้มีรายได้ต่ำกว่า 4,000 ริงกิต (ราว 30,000 บาท) ที่บริษัทมีรายได้ลดลงกว่า 50% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม

          - ไม่อนุญาตให้นายจ้างลดเงินเดือนลูกจ้างที่ได้เงินเดือนต่ำกว่า 4,000 ริงกิต (ราว 30,000 บาท)

          - ข้าราชการและข้าราชการเกษียณ ได้รับเงิน 500 ริงกิต (ราว 3,700 บาท)

>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 <<  ได้ที่นี่


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มาเลเซียเยียวยา โควิด 19 สูงสุดคนละ 1.2 หมื่น - สั่งห้ามลดเงินลูกจ้าง ที่เงินเดือนต่ำกว่า 3 หมื่น อัปเดตล่าสุด 5 กรกฎาคม 2563 เวลา 23:05:13 23,464 อ่าน
TOP