นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ป่วยโควิด 19 อาการทรุด ถูกย้ายเข้าไอซียู สังเกตอาการใกล้ชิด ชี้อาจต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเรื่องการหายใจ มอบหมายรัฐมนตรีต่างประเทศ ขึ้นรักษาการหากมีเหตุจำเป็น

ภาพจาก AFP PHOTO / 10 DOWNING STREET
วันที่ 7 เมษายน 2563 เว็บไซต์วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า นายบอริส จอห์นสัน วัย 55 ปี นายกรัฐมนตรีอังกฤษ หนึ่งในผู้นำระดับโลกรายแรกที่พบป่วยโรคโควิด 19 (COVID-19) ได้ถูกย้ายตัวเข้าห้องไอซียูตามคำแนะนำของแพทย์ หลังพบอาการแย่ลง โดยมีรายงานระบุว่า เขายังมีสติรู้ตัวดี แต่แพทย์ได้ให้เขาย้ายเข้าไอซียูเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน เผื่อกรณีที่จำเป็นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ
ด้านโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายจอห์นสันได้มอบอำนาจให้ นายโดมินิก ราบ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ รักษาการแทนตนเองในกรณีที่จำเป็น เพื่อเดินหน้าการทำงานของรัฐบาลอังกฤษ ในการต่อสู้วิกฤตโคโรนาไวรัส
ทั้งนี้ นายจอห์นสันได้กักตัวอยู่ภายในที่พักตลอด นับตั้งแต่ได้รับผลยืนยันว่าเขาป่วยโรคโควิด 19 ในเย็นวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา ก่อนจะแอดมิตที่โรงพยาบาลเซนต์โทมัส ในกรุงลอนดอน ตอนเย็นวันอาทิตย์ (5 เมษายน) หลังมีไข้และมีอาการไอ

ภาพจาก JULIAN SIMMONDS / POOL / AFP
ในวันจันทร์ (6 เมษายน) นายจอห์นสันยังโพสต์ทวิตเตอร์อัปเดตอาการของตนเอง เผยว่า เขาได้เข้าโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายตามปกติ และยังมีอาการของโรคโควิด 19 ขณะนี้อยู่ระหว่างสังเกตอาการ อย่างไรก็ตาม พบว่าจากนั้นในเวลาประมาณ 19.00 น. ทีมแพทย์ได้มีการเคลื่อนย้ายนายจอห์นสันเข้าสู่ห้องไอซียู หรือแผนกผู้ป่วยวิกฤต โดยที่ทางสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะเผยรายละเอียดเกี่ยวกับอาการของเขา รวมถึงไม่บอกว่าเขามีปัญหาด้านการหายใจหรือมีอาการปอดอักเสบหรือไม่
ด้าน นาตาลี แมคเดอร์มอนตต์ อาจารย์แพทย์จากมหาวิทยาลัยคิงส์ คอลเลจ ลอนดอน ชี้ว่า หากนายจอห์นสันยังมีสติอยู่ ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่เขาอาจจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์สนับสนุนด้านการหายใจอื่น ๆ ทั้งนี้ แม้จะบอกว่าการที่เขาเข้าไอซียูเป็นการป้องกันล่วงหน้า แต่นายกฯ จะไม่ถูกย้ายเข้าไอซียูอย่างแน่นอน หากแพทย์ประจำตัวไม่ให้คำแนะนำอย่างจริงจัง เพราะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเรื่องการหายใจบางอย่างกับเขา
อนึ่ง อังกฤษก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 อย่างมาก โดยขณะนี้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมมากถึง 52,276 ราย และมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 5,383 ราย
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่