สาวไทยเล่าไทม์ไลน์ ติดโควิด 19 จากอังกฤษถึงไทย เข้าถึงหมอยาก-อยากกักตัวก็ไม่ให้

          สาวไทยเล่าไทม์ไลน์สุดทรมาน ติดโควิด 19 จากประเทศอังกฤษ ยอมรับผิด ขอโทษประเทศไทย เผยขอกักตัวจากเจ้าหน้าที่คัดกรองที่สนามบิน แต่ถูกปฏิเสธ


โควิด 19

          วันที่ 28 มีนาคม 2563 โลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่เจ้าตัวออกมาโพสต์ข้อความยอมรับว่าตัวเองป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ขณะกำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเธอได้มีการเล่าไทม์ไลน์ ตั้งแต่เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่อยู่ที่อังกฤษ ก่อนจะบินกลับมาตรวจร่างกายที่ประเทศไทย จนผลทราบว่าเธอป่วยเป็นโควิด 19 ที่ทำเอาเจ้าตัวถึงกับช็อกจนสติแทบหลุด และที่ยอมออกมาโพสต์เล่าเพราะต้องการให้เรื่องของเธอเป็นวิทยาทาน ให้สังคมตระหนักว่าโรคระบาดนี้ไม่ได้ไกลตัวเราเลย

          วันที่ 9 มีนาคม เธอเริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว เหนื่อย ๆ คล้ายจะไม่สบาย หลังจากกลับจากเรียน ซึ่งที่ประเทศอังกฤษคนไม่สวมหน้ากากอนามัย เธอกังวลว่าจะติดโควิด 19 จึงกินยาพาราเซตามอลและโทร. ขอลาโรงเรียน 1 สัปดาห์

โควิด 19

          วันที่ 10-14 มีนาคม อาการยังเหมือนเดิม คือเหนื่อยแต่ไม่มีไข้

          วันที่ 15-16 มีนาคม เริ่มมีอาการเจ็บคอและเพลีย จึงไปโรงพยาบาล แต่โรงพยาบาลปิดเร็วเพราะเป็นวันอาทิตย์ เธอจึงปรึกษารุ่นพี่ ซึ่งรุ่นพี่แนะนำให้โทร. สายด่วน เพราะอังกฤษออกกฎว่าถ้าป่วยห้ามไปโรงพยาบาล หรือร้านขายยา ให้โทร. ปรึกษาเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อเธอโทร. ปรึกษากลับได้รับคำตอบให้อยู่บ้านเพื่อพักรักษาตัว 7 วัน ให้ล้างมือให้สะอาด

          วันที่ 17 มีนาคม อาการเริ่มชัดเจน คือไอและเจ็บคอมากขึ้น ตัวร้อนและหนาวสั่น จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาล แต่โรงพยาบาลไม่ให้เข้า ให้ยืนรอหน้าประตู เธอจึงกลับบ้านและโทร. ปรึกษาเบอร์เดิมอีกครั้ง และก็ได้รับคำแนะนำเหมือนเดิม

          วันที่ 18 มีนาคม เธอไอมากขึ้น ตัวร้อนและเริ่มเจ็บหน้าอก จึงโทร. ไปสายด่วนเบอร์เดิม ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าทางอังกฤษยกเลิกตรวจโรควิด 19 แล้ว ให้อยู่บ้าน ซึ่งเธอถึงกับร้องไห้ พร้อมกล่าวว่าประเทศนี้เข้าถึงหมอยากมาก

โควิด 19

          วันที่ 19 มีนาคม แม่ติดต่อพี่สาวให้ ซึ่งพี่สาวคนนี้อยู่อังกฤษมานาน จึงรู้ดีว่าเข้าถึงหมอยาก จึงแนะนำให้กลับมาตรวจที่ไทย เธอจึงตัดสินใจจะกลับไทย แต่ต้องดำเนินการขอหนังสือรับรองว่าไม่มีไข้ เพราะกฎหมายขณะนี้ โดยเธอพยายามกินยาเพื่อให้ไข้ลด เพื่อขอใบรับรองให้ผ่าน และก็ผ่านจนได้ แต่เมื่อไปสถานทูตเพื่อทำเรื่อง แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะมีเด็กไทยจำนวนมากต่อคิวแบบเธอเช่นกัน และทางสถานทูตแจ้งว่าต้องซื้อตั๋วไว้แล้ว จึงจะทำเรื่องกลับได้

โควิด 19

          วันที่ 20 มีนาคม เธอไอและเจ็บหน้าอก และเริ่มอึดอัดหายใจลำบาก พยายามหาตั๋วเครื่องบินจนได้เป็นไฟลต์คืนวันที่ 21 มีนาคม เธอจึงเขียนเมลขอหนังสือรับรองกับสถานทูต

          วันที่ 21 มีนาคม เธอได้เมลตอบกลับเป็นเอกสารรับรองจากสถานทูต เธอได้เดินทางกลับคืนวันนั้น ซึ่งระหว่างเดินทางเธอยืนยันว่าสวมหน้ากาก N95 และนั่งแยกตัวจากผู้โดยสารรายอื่น

โควิด 19

โควิด 19

          22 มีนาคม เธอถึงประเทศไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิตอน 4 โมง เธอได้รับการตรวจที่จุดคัดกรอง เธอพยายามแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเธอมีไข้ เพราะเธอมีเครื่องตรวจพกพา และก็ตรวจมาตลอดทาง แต่เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตรวจเอง ผลอุณหภูมิร่างกาย ระบุว่า ไม่มีไข้ คือ 36.5 และเธอได้ถูกปล่อยตัว และอีกจุดตรวจก็เช่นกัน เธอพยายามแจ้งว่ามีไข้ ขอร้องให้ดำเนินการกักตัว แต่เจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่าไม่มีนโยบายกักตัวคนไม่มีไข้ บอกเพียงว่าให้กลับบ้านไปกักตัวเอง 14 วัน

          เธอทำใจและพยายามคิดวิธี จึงโทร. สอบถามหาโรงพยาบาลเพื่อจะเข้ารับการตรวจเอง แต่ก็ไม่มี เพราะบางแห่งน้ำยาหมด บางแห่งก็ไม่มีแล้ว จนได้โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ไม่ทันเวลา เธอจึงตัดสินใจนั่งแท็กซี่ไปนอนโรงแรม เพื่อรอตอนเช้าจะไปตรวจ เธอได้แจ้งกับแท็กซี่ว่าเธอมีไข้นะ และขอให้ลดกระจกรถเพื่อระบายอากาศ

          เวลาตี 2 เธอเริ่มไอรุนแรงจนแน่นหน้าอก และเริ่มหายใจไม่ออก เธอโทร. หา 2 โรงพยาบาล แต่ทั้ง 2 แห่ง ไม่สามารถรับตัวเข้ารักษาได้ เรื่องจากน้ำยาตรวจหมด และห้องไม่เพียงพอ ก่อนจะติดต่อได้ที่โรงพยาบาลราชวิถี เธอเรียกแท็กซี่ไปทันที เมื่อไปถึงได้ถูกแยกตัวไปรอที่ห้องปลอดเชื้อ เธอได้คิวตรวจ 8 โมงเช้า แต่เธอทนไม่ไหว เพราะที่ห้องปลอดเชื้อต้องนั่ง ไม่มีเตียงให้นอน และพยาบาลแจ้งว่า ถ้าไม่ไหวให้กลับบ้านไปก่อน แล้วค่อยมาตอนเช้า เธอจึงตัดสินใจกลับตอนตี 4

โควิด 19

          วันที่ 23 มีนาคม เธอไปโรงพยาบาลราชวิถี พบว่ามีคนรอคิวตรวจนับร้อยยืนรอที่เต็นท์กลางแดด เธอจึงเปลี่ยนไปตรวจที่โรงพยาบาลพญาไท นวมิน แทน ซึ่งก็ได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างดีและเร็ว เมื่อเล่าอาการให้หมอฟัง หมอแจ้งว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงมาก จึงทำการตรวจน้ำในจมูกและลำคอ พร้อมกับเอกซเรย์ปอด พบว่าปอดเป็นฝ้าจำนวนมาก จึงต้องแอดมิตทันที และได้รับการรักษาเช่นเดียวกับผู้ป่วยโควิด 19

โควิด 19

          วันที่ 24 มีนาคม ตื่นเช้ามาหายใจโล่งขึ้น แต่ยังไอและเจ็บคอ พ่วงด้วยอาการคลื่นไส้อาเจียน

โควิด 19

          วันที่ 25 มีนาคม เวลา 5 โมงเย็น เธอรู้ผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา ตอนนั้นตนเองช็อกมาก หูดับไปเลย พร้อมกับน้ำตาไหล เมื่อตั้งสติได้ก็โทร. บอกแม่และครอบครัว จากนั้นแม่ก็ดึงสติ และให้โทร. แจ้งโรงแรมที่พักให้รับทราบว่าเธอป่วย เพราะไม่อยากให้ใครเดือดร้อน

          จากนั้นก็แจ้งไปยังสายการบิน เพื่อให้แจ้งข่าวกับผู้โดยสารที่เดินทางเที่ยวบินเดียวกันดูแลและกักตัวเอง พร้อมประสานไปยังโรงเรียนที่อังกฤษเพื่อพักการเรียนไว้ก่อน ซึ่งหลังรู้ผลเธอร้องไห้ตลอดเวลา แต่ก็ได้กำลังใจจากหมอและพยาบาลที่คอยปลอบ

          ทั้งนี้ เธอทิ้งท้ายว่าที่เธอเล่าประสบการณ์นี้ เพราะหวังเป็นเครื่องเตือนใจและเตือนสติทุกคน ให้ระวังและสังเกตอาการคนใกล้ชิด และดูแลสุขภาพตัวเอง พร้อมกล่าวขอโทษคนไทยและประเทศไทยที่เอาเชื้อเข้าประเทศ..


โควิด 19



>>อาการโควิด 19 เป็นอย่างไร ไขคำตอบได้ที่นี่ <<

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สาวไทยเล่าไทม์ไลน์ ติดโควิด 19 จากอังกฤษถึงไทย เข้าถึงหมอยาก-อยากกักตัวก็ไม่ให้ อัปเดตล่าสุด 2 มิถุนายน 2564 เวลา 14:57:45 27,809 อ่าน
TOP