หนุ่มเมินคำสั่งปิดประเทศ แอบดอดไปจับปลา สุดท้ายดับสลด ถูกจระเข้งาบไปกิน

        หนุ่มเมินคำสั่งปิดประเทศ สกัดโควิด 19 แอบดอดไปจับปลาที่แม่น้ำ สุดท้ายดับสลด ถูกจระเข้งาบไปกิน จบชีวิตก่อนจะติดโรคร้าย


        หลังจากที่ประเทศรวันดา กลายมาเป็นประเทศที่พบผู้ป่วยโรคโควิด 19 (COVID-19) มากที่สุดในทวีปแอฟริกา ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ 40 ราย ทางรัฐบาลก็ได้ประกาศยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรค ด้วยการสั่งปิดเมือง ห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็น สั่งประชาชนอยู่แต่ในบ้านและที่พัก

        อย่างไรก็ตาม พบว่ายังมีคนบางกลุ่มที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งจากรัฐบาล ยังแอบฝ่าฝืนกฎด้วยการออกมานอกบ้านโดยไม่มีเหตุจำเป็น โดยไม่แคร์ว่าตัวเองจะเผชิญกับความเสี่ยงต่อไวรัสโคโรน่า หรือไม่ รวมถึงชายคนหนึ่งที่เลือกจะออกไปจับปลาที่แม่น้ำ แทนที่จะกักตัวอยู่ในบ้าน และนั่นเป็นเหตุให้เขาพบจุดจบที่ไม่คาดคิด

        โดยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า ชายคนดังกล่าวได้ไปจับปลาที่แม่น้ำนยาบารอนโก แม่น้ำที่ยาวสุดในรวันดา ก่อนจะถูกจระเข้เข้าทำร้ายและคาบไปกินเป็นอาหาร จบชีวิตอย่างน่าสลดโดยไม่ทันได้ติดโรคร้ายด้วยซ้ำ

        ด้าน อลิซ คายิเทซี นายกเทศมนตรีเขตคามอนยี ยืนยันกับสื่อว่า ชายผู้เสียชีวิตละเมิดคำสั่งที่ให้อยู่แต่ในบ้าน ไม่ให้ความร่วมมือกับมาตรการปิดเมืองเพื่อหยุดการระบาดของโควิด 19

            อนึ่ง สำหรับการยกระดับมาตรการควบคุมโควิด 19 ในรวันดา เริ่มขึ้นเมื่อนายกรัฐมนตรีรวันดาได้แถลงในวันเสาร์ที่ผ่านมา (21 มีนาคม) สั่งปิดพรมแดน ห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ เว้นแต่เป็นการขนส่งสินค้า สำหรับประชาชนให้อยู่แต่ในที่พัก ห้ามการเดินทางยกเว้นเป็นการเดินทางที่จำเป็น เช่น บริการด้านสาธารณสุข การซื้อของที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ไปธนาคาร หรือเป็นบุคลากรที่ปฏิบัติงาน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2563 เป็นเวลา 2 สัปดาห์