แพทย์ระดับแนวหน้า แสดงความกังวล เตือนโควิด 19 อาจระบาดใหญ่ในจีนอีกรอบ

        นายจิน มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับ นางสาวหลิน วัย 34 ปี ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากตุรกี โดยนางสาวหลินพักอยู่ในอิสตันบูลตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม - 8 มีนาคม ก่อนจะเดินทางกลับจีนโดยผ่านทางกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และเดินทางถึงกว่างโจว ในวันที่ 9 มีนาคม เธอไม่ได้แสดงอาการป่วยใด ๆ ตอนเข้าประเทศ จนกระทั่งวันที่ 21 มีนาคม จึงมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานโรคติดเชื้อเข้ามาตรวจหาไวรัส และยืนยันว่าเธอติดโควิด 19

        ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ยืนยันในวันที่ 23 มีนาคม ว่าจีนไม่มีรายงานเคสผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นคนในท้องถิ่น แต่พบผู้ป่วย 39 ราย เป็นกลุ่มผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งจากรายงานของซีเอ็นเอ็น พบว่า ในวันจันทร์ที่ 23 มีนาคม จีนมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 67,801 ราย และเสียชีวิต 3,160 ราย 

        สำหรับ ศาสตราจารย์หลี่ หลานจวน เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสจากปักกิ่ง ที่นำทีมงานเข้ามาสู้ศึกรับมือไวรัสในอู่ฮั่นมาเป็นเวลานานกว่า 50 วันแล้ว อย่างไรก็ตามในขณะที่ชีวิตของผู้คนในอู่ฮั่นเริ่มกลับคืนสู่ปกติอย่างช้า ๆ ภายหลังการปิดเมืองนาน 2 เดือนจากการระบาดของไวรัส ศาสตราจารย์หลี่ กลับมองว่า ภารกิจในอู่ฮั่นยังไม่ถือว่าประสบความสำเร็จ ขณะนี้ยังมีเคสผู้ป่วยอาการหนักอีกจำนวนมาก และเธอก็คิดว่าสถานการณ์ไวรัสของจีนในขณะนี้ เป็นเรื่องที่ยากมาก

        "ฉันกังวลจริง ๆ ว่าเคสผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ อาจทำให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ในประเทศของเราอีกครั้ง เราจะสามารถใช้ความพยายามทุกอย่างเพื่อปกป้องและป้องกันประเทศเราจากการระบาดใหญ่อีกรอบได้หรือไม่ มันเป็นความท้าทายที่ยากเหลือเกิน" ศาสตราจารย์หลี่ กล่าว

        ศาสตราจารย์หลี่ ยังยอมรับว่า งานด้านการควบคุมและป้องกันโรคจากเคสผู้ป่วยที่มาจากต่างประเทศ เป็นงานที่ยากมากสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งทำให้พวกเธอต้องเพิ่มความพยายามและทำงานอย่างไม่รู้เหนื่อย เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสแพร่กระจายไปสู่เมืองอื่น ๆ

        ทั้งนี้ เธอยังเรียกร้องให้ทางการทำการระบุตัวผู้ที่ติดไวรัส ซึ่งยังไม่ได้รับการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการด้วย เพราะมีโอกาสที่คนกลุ่มนี้อาจจุดชนวนการระบาดของโรคอีกครั้ง