แพทย์ทั่วโลกพบ ผู้ป่วยโรค COVID-19 สูญเสียการได้กลิ่น และการรับรสชาติ เผยประชาชนที่อยู่ดี ๆ จมูกไม่ได้กลิ่น เสี่ยงติดเชื้อโคโรนาไวรัสสูง ให้รีบกักตัว
ภาพจาก STR-AFP
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2563 เดอะนิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า การสูญเสียการรับกลิ่น (Anosmia) และ การสูญเสียการรับรส (Ageusia) อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอาการของโรค COVID-19 ได้เช่นกัน โดยแพทย์หลายแห่งทั่วโลกค้นพบว่า ผู้ป่วยโควิด 19 มีประสิทธิภาพในการรับกลิ่นและรับรสได้น้อยลง ดังนั้นจึงได้กระจายคำแนะนำไปยังผู้คนทั่วโลกที่อยู่ดี ๆ ก็ได้กลิ่นน้อยลง หรือรับรสชาติได้ไม่ดีเท่าเดิม ให้กักกันตัวเองอยู่ในบ้าน 7 วัน เพราะอาจติดเชื้อมาโดยไม่รู้ตัว
แพทย์แผนกหู คอ จมูก ในอังกฤษได้ตรวจสอบรายงานเกี่ยวกับเคสผู้ป่วยโรคโควิด 19 ในหลาย ๆ ประเทศ พบว่าในจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัส พบว่ามีจำนวนมากที่สูญเสียการได้กลิ่น ดังต่อไปนี้
เกาหลีใต้ แพทย์ได้ทำการตรวจผู้ป่วย 2,000 ราย พบว่ามี 30 เปอร์เซ็นต์ที่ประสบปัญหาสูญเสียการได้กลิ่น ซึ่งเป็นอาการที่ปรากฏชัดเจน แม้ว่าจะไม่รุนแรงมากนัก
เยอรมนี เฮนดริก สตรีค นักไวรัสวิทยา ได้เดินทางเข้าพบผู้ติดเชื้อที่กักตัวอยู่ในบ้าน และได้สัมภาษณ์ผู้ป่วยมากกว่า 100 คน พบว่า 2 ใน 3 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีอาการสูญเสียการได้กลิ่น และการรับรู้รสมาเป็นเวลาหลายวัน
ขณะที่ ดร.เคลเมนส์ เวนด์ทเนอร์ ศาสตราจารย์ประจำวิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยลุดวิก-มักซิมิเลียน ในนครมิวนิค เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อสูญเสียศักยภาพในการได้กลิ่นโดยที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังป่วย และรักษาด้วยยาหยอดจมูก หรือสเปรย์พ่นจมูกก็ไม่หาย
อิตาลี ดร.มาร์โก เมตรา หัวหน้าแผนกโรคหัวใจ ประจำโรงพยาบาลใหญ่ในเมืองเบรสเซีย แคว้นลอมบาร์ดี ทางตอนเหนือของอิตาลี ซึ่งมีผู้ป่วยโรคโควิด 19 รักษาตัวอยู่ 700 คน เปิดเผยว่า ผู้ป่วยแทบทุกคนมีอาการเดียวกัน ไม่ว่าจะถามผู้ป่วยคนไหนก็พบว่าทุกคนมีอาการสูญเสียการได้กลิ่น เมื่อสอบถามสามีหรือภรรยาของพวกเขา ก็พบว่ามีอาการเดียวกัน
สหรัฐอเมริกา ดร.เรเชล เคย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประจำภาควิชา มหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส กล่าวว่า แพทย์หลายคนในย่านนิวโรชลล์ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดแพร่กระจายเชื้อ ได้ส่งข้อมูลให้เธอว่า คนไข้หลายคนที่เดินทางมาพบแพทย์ด้วยอาการสูญเสียการได้กลิ่น สุดท้ายตรวจพบว่าติดเชื้อ
ไวรัสโคโรน่า
นอกจากนี้แล้ว
ประชาชนชาวอเมริกันหลายคนที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อโคโรไนาไวรัส
แม้ว่าจะไม่มีอาการป่วย ต่างบ่นว่าได้กลิ่นและรับรสชาติได้น้อยลง
ในวันที่
20 มีนาคม ที่ผ่านมา ทีมแพทย์หู คอ จมูก ในอังกฤษ
ได้ออกคำเตือนให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ที่สูญเสียการได้กลิ่น
ให้กักกันตัวเองเป็นเวลา 7 วัน แม้ว่าจะไม่มีอาการของโรคก็ตาม
เพื่อเป็นการสกัดกั้นการแพร่กระจายของโรค
เป็นการปกป้องทั้งชีวิตตัวเองและผู้อื่น ทั้งนี้ แม้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวจะยังมีน้อย
แต่มันก็มากพอที่จะสร้างความกังวลให้กับแพทย์
จนต้องลุกขึ้นมากระจายข่าวนี้ไปทั่วโลก
ว่าอาการเหล่านี้คือสัญญาณบ่งบอกถึงการติดเชื้อ
ศาสตราจารย์แคลร์
ฮ็อปกินส์ ประธานสมาคมโรคจมูกแห่งอังกฤษ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์นิรมาล กุมาร
ประธานองค์กร ENT UK ซึ่งเป็นองค์การตัวแทนแพทย์หู คอ จมูก
ทั่วสหราชอาณาจักร ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน
เรียกร้องให้บุคลากรทางการแพทย์สวมชุดป้องกันตนเอง
ขณะรักษาตัวผู้ป่วยที่มีการสูญเสียประสิทธิภาพในการรับรู้กลิ่น
พร้อมทั้งไม่แนะนำให้ส่องกล้องตรวจไซนัสให้กับผู้ป่วยรายใดก็ตามที่ไม่จำเป็น
เพราะเชื้อโคโรนาไวรัส ฝังตัวอยู่ในคอและจมูก
ขั้นตอนการตรวจอาจกระตุ้นให้เกิดการไอหรือจามได้
ซึ่งจะเป็นการแพร่เชื้ออย่างมาก และทำให้หมอเสี่ยงติดเชื้อสูง
ขณะที่
สถาบันโสต ศอ นาสิก แห่งอเมริกา ก็ได้เผยแพร่รายงานลงบนเว็บไซต์ในวันที่
22 มีนาคม ระบุว่า ผลจากการซักประวัติผู้ป่วยชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า
การสูญเสียการได้กลิ่น และการสูญเสียการรับรสชาติ
เป็นอาการหลักที่มีนัยสำคัญเกี่ยวกับโรค COVID-19
นอกจากนี้แล้ว
ทีมแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายผู้ป่วยรายหลายที่มีอาการดังกล่าว
เพื่อหาเชื้อโคโรนาไวรัส และพบว่าผลตรวจเป็นบวก
แม้ว่าผู้ติดเชื้อเหล่านี้จะไม่ได้แสดงอาการป่วยอื่น ๆ เลย
ด้วยเหตุนี้
อาการดังกล่าวจึงเป็นข้อบ่งชี้ใหม่ให้แพทย์หันมาตรวจหาเชื้อในผู้ป่วยที่อยู่ดี
ๆ ก็สูญเสียการได้กลิ่น
โดยที่ไม่ได้มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้หรือไซนัสอักเสบมาก่อน
โดยแพทย์จะต้องทำการป้องกันตัวเองอย่างจริงจัง
และพิจารณาแยกกักกลุ่มผู้ป่วยเหล่านี้ด้วย
ทางสถาบันโสต ศอ นาสิก
แห่งอเมริกา
ยังได้ออกคำแนะนำให้แพทย์ทั่วประเทศเตรียมจัดตารางเวรออกฉุกเฉินเผื่อไปล่วงหน้าถึง
2-3 สัปดาห์ข้าง เพื่อเตรียมรับมือกับผู้มีอาการดังกล่าว
ที่น่าจะแห่เข้ามาตรวจร่างกายเพิ่มเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้แล้ว
จากข้อมูลเหล่านี้ แพทย์จึงได้สันนิษฐานว่า
นี่อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้อิตาลีมีการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสรุนแรงมากจนเข้าขั้นวิกฤต
เพราะประชาชนทั่วไปที่สุขภาพแข็งแรงดี
ที่มีอาการสูญเสียการได้กลิ่น ไม่รู้ว่ามันคืออาการบ่งชี้ว่าติดเชื้อ
เพราะพวกเขาไม่มีอาการป่วย ไม่มีไข้ ไม่มีไอ ไม่มีเจ็บคอ
พวกเขาเหล่านี้จึงแพร่กระจายเชื้อไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว
จนทำให้คนรอบข้างติดเชื้อไปด้วย และก็แพร่เชื้อต่อไปอีกเป็นทอด ๆ ต่อไปอีก
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่
แสดงความคิดเห็นเรื่องแพทย์ทั่วโลกพบ จมูกไม่ได้กลิ่น-ลิ้นไม่รับรส เป็นข้อบ่งชี้ใหม่ ว่าติด COVID-19