กษัตริย์จิกมี รับสั่งปิดพรมแดนภูฏาน สกัดโควิด 19 - ทรงย้ำให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

 

          สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์แห่งภูฏาน มีพระบรมราชโองการ ปิดพรมแดนทุกด้าน สกัด โควิด 19 ทรงย้ำในช่วงเวลาเช่นนี้ ขอให้ทุกคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียว

          วันที่ 22 มีนาคม 2563 สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์แห่งภูฏาน ทรงออกแถลงการณ์ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยทรงมีพระบรมราชโองการ ให้ปิดพรมแดนของประเทศทุกด้าน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2563 สืบเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส ที่เข้าใกล้ภูฏานมากขึ้นทุกวัน

          โดยในพระบรมราชโองการนี้ เป็นไปเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของพสกนิกรชาวภูฏาน ที่พระองค์ทรงให้ความสำคัญสูงสุด สำหรับชาวภูฏานที่อยู่ในต่างประเทศ และต้องการจะเดินทางกลับบ้าน ทางรัฐบาลยินดีให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงให้ความมั่นใจแก่ประชาชนที่กำลังศึกษาหรือทำงานในต่างแดนด้วยว่า ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด

          "โควิด 19 จะทำให้เกิดการหยุดชะงักครั้งใหญ่ของเศรษฐกิจโลก และภูฏานก็ไม่ได้รับการยกเว้น ผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่เพียงส่งผลต่อบางภาคส่วน แต่ส่งผลต่อเราทุกคน ในช่วงเวลาเช่นนี้ เราต้องแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งจากความเป็นหนึ่งเดียวและการสนับสนุนซึ่งกันและกัน อีกทั้งในสถานการณ์เช่นนี้ รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบการบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่ได้รับผลจากไวรัสโคโรน่า"

          ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ยังทรงให้ความสำคัญด้านการศึกษาของเด็ก ทรงระบุว่า ในขณะที่โรงเรียนทุกแห่งถูกสั่งปิดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยไม่ทราบว่าจะกลับมาเปิดทำการสอนอีกครั้งได้หรือไม่ ขอให้พ่อแม่เป็นผู้ให้คำแนะนำแก่ลูก ๆ รวมถึงเด็ก ๆ จะต้องใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และควรให้ความสำคัญด้านการศึกษามาเหนือสิ่งอื่นใด

          ในส่วนของรัฐบาลก็ได้มีแผนจัดทำสื่อการเรียนรู้ ที่นักเรียนสามารถเข้าถึงได้ในวงกว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยมอบหมายไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต โทรทัศน์ และสื่อหนังสือพิมพ์ ในการส่งผ่านสื่อการเรียนรู้นี้สู่เด็ก ๆ จึงเป็นความรับผิดชอบของเด็ก ๆ ในการใช้ประโยชน์จากช่องทางเหล่านี้


          นอกจากนี้ ยังทรงย้ำให้ดูแลใส่ใจประชาชนผู้สูงอายุ ซึ่งมีความเสี่ยงจากโควิด 19 มากที่สุด โดยทรงแนะให้ปกป้อง รวมถึงหมั่นดูแลสภาพแวดล้อมของผู้สูงอายุให้มีความสะอาดและปลอดภัย

          "ในฐานะประเทศเล็ก ๆ ที่มีประชากรจำนวนไม่มาก เราสามารถเอาชนะความท้าทายใด ๆ ที่กำลังเผชิญอยู่ได้แน่ หากประชาชนและรัฐบาลทำงานร่วมกัน"

          อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ทางรัฐบาลมุ่งมั่นจะทำให้สถานการณ์กลับสู่ความปกติโดยเร็วที่สุด แม้การระบาดของโรคไล่ตามหลังมา ขอให้ประชาชนไม่ลืมจุดมุ่งหมายของชาติ โดยทุกคนยังสามารถทำงานเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าและแข็งแกร่งกว่าแก่ภูฏานได้ ขณะที่รัฐบาลก็จะทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน ท่ามกลางสถานการณ์แห่งความท้าทายนี้