การปฏิบัติตามหลัก Social Distancing ก็เป็นสิ่งที่อยากรณรงค์ให้ทำเพื่อป้องกันการติดโรค COVID-19 ที่นอกเหนือจากการล้างมือบ่อย ๆ และสวมหน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็น
ยิ่งนานวันการระบาดของโรค COVID-19 (โควิด 19) ก็จะยิ่งขยายวงกว้างไปเรื่อย ๆ จนในที่สุด WHO ก็ประกาศให้ COVID-19 เป็นโรคระบาดทั่วโลก (Pandemic) ดังนั้นอะไรก็ตามที่ทำแล้วจะช่วยให้เรารอดจากโคโรนาไวรัสได้ก็น่าจะปฏิบัติไว้ก่อน โดยเฉพาะถ้าต้องออกไปเจอคนหมู่มาก หรือแม้แต่การออกสังคมในชีวิตประจำวัน ก็ควรมีระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เป็นการเซฟตัวเองในด่านแรก ๆ
ในความหมายตามหลักสุขภาพสาธารณะ (Public-health) Social Distancing จะหมายถึงการลดการสัมผัส ใกล้ชิด ระหว่างตนเอง และผู้อื่น รวมไปถึงคนในครอบครัว เพื่อลดการแพร่กระจายของโรคติดต่อต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด วัณโรค รวมไปถึง COVID-19 ที่กำลังระบาดในตอนนี้ด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงที่มีการระบาดของโรคใด ๆ ก็ควรทิ้งระยะห่างทางสังคมในการอยู่ร่วมกันในพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่น เช่น โรงเรียน ขนส่งสาธารณะ บริษัทขนาดใหญ่ งานอีเวนต์ หรือพื้นที่ใด ๆ ก็ตามที่มีผู้คนมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เพราะจัดเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการระบาดของโรคติดต่อได้
หลักปฏิบัติในการทิ้งระยะห่างทางสังคม ที่ควรยึดถือเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโคโรนาไวรัสมีแนวทาง ดังนี้
1. อยู่บ้านให้มากขึ้น
โดยหากสามารถทำงานที่บ้านได้ ควรทำ รวมไปถึงพยายามหลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะไปกินข้าว ไปสังสรรค์ และพยายามใช้เวลาว่างในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่บ้านไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะปกติ
2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่น
2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่น
ลดการสัมผัสโดยตรง เช่น ทักทายกันด้วยการจับมือ หรือการกอด เป็นต้น นอกจากนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสทางอ้อม โดยเฉพาะการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อน ส้อม เป็นต้น
3. หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้อื่น
3. หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้อื่น
ควรเว้นระยะห่างจากบุคคลอื่นอย่างน้อย 1 เมตร แต่ในกรณีที่เจอคนที่ดูเหมือนมีอาการป่วย ควรหลีกเลี่ยงการใกล้ชิด อย่างน้อย 2 เมตร
4. หลีกเลี่ยงสถานที่ชุมชน
4. หลีกเลี่ยงสถานที่ชุมชน
เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สนามกีฬา รวมไปถึงเลี่ยงกิจกรรมที่มีคนแออัด เช่น งานอีเวนต์ ประชุม สัมมนา หรืองานคอนเสิร์ต เป็นต้น
แต่ถ้าจำเป็นต้องไปในพื้นที่ที่มีคนแออัดจริง ๆ ก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พยายามล้างมือให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยควรพกแอลกอฮอล์เจลติดตัวไว้ ส่วนคนที่มีอาการป่วย ยิ่งควรทิ้งระยะห่างทางสังคม โดยพยายามแยกตัวเองออกจากสังคมให้ได้มากที่สุด แม้แต่คนในบ้านด้วยกันเอง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปยังคนอื่น ๆ ให้ได้มากที่สุด
ทำไม Social Distancing ถึงได้ผล ?
แต่ถ้าจำเป็นต้องไปในพื้นที่ที่มีคนแออัดจริง ๆ ก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พยายามล้างมือให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยควรพกแอลกอฮอล์เจลติดตัวไว้ ส่วนคนที่มีอาการป่วย ยิ่งควรทิ้งระยะห่างทางสังคม โดยพยายามแยกตัวเองออกจากสังคมให้ได้มากที่สุด แม้แต่คนในบ้านด้วยกันเอง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปยังคนอื่น ๆ ให้ได้มากที่สุด
ทำไม Social Distancing ถึงได้ผล ?
วิธีป้องกันโรค COVID-19 ที่ทุกคนปฏิบัติกันอยู่แล้วอย่างการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ พกเจลแอลกอฮอล์ ทุกคนก็หวังว่าวิธีเหล่านี้จะช่วยให้ห่างไกลจากเชื้อโคโรนาไวรัสได้ไม่มากก็น้อย แต่ถ้าปฏิบัติตามหลัก Social Distancing ร่วมด้วย โอกาสในการติดเชื้อ COVID-19 ก็จะลดน้อยลง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
* ลดความเสี่ยงการสัมผัสผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ
* ลดความเสี่ยงการสัมผัสการปนเปื้อนเชื้อโคโรนาไวรัส
* ลดความเสี่ยงการติดเชื้อจากละอองน้ำมูก และน้ำลาย
* ลดโอกาสติดเชื้อ COVID-19 จากสถานที่ที่มีคนแออัด
เราทุกคนมีส่วนช่วยกันหยุดยั้งการระบาดของ COVID 19 ได้ ด้วยการป้องกันตัวเองจากความเสี่ยงการติดเชื้อ เริ่มได้ง่าย ๆ ที่ตัวเราก่อน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
WHO, Centre for Health Protection, หน่วยพยาบาล ม.อ. ปัตตานี, insider, safety-security.uchicago.edu
* ลดความเสี่ยงการสัมผัสผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ
* ลดความเสี่ยงการสัมผัสการปนเปื้อนเชื้อโคโรนาไวรัส
* ลดความเสี่ยงการติดเชื้อจากละอองน้ำมูก และน้ำลาย
* ลดโอกาสติดเชื้อ COVID-19 จากสถานที่ที่มีคนแออัด
เราทุกคนมีส่วนช่วยกันหยุดยั้งการระบาดของ COVID 19 ได้ ด้วยการป้องกันตัวเองจากความเสี่ยงการติดเชื้อ เริ่มได้ง่าย ๆ ที่ตัวเราก่อน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
WHO, Centre for Health Protection, หน่วยพยาบาล ม.อ. ปัตตานี, insider, safety-security.uchicago.edu