หาคำตอบ...หิ้วหน้ากากอนามัยจากต่างประเทศมาไทย ต้องเสียภาษีไหม ?

          สำหรับหน้ากากอนามัย หากฝากหิ้วเข้ามาเพื่อใช้งานด้วยตนเอง และมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท ตรงนี้จะไม่ต้องเสียภาษี แต่หากมีมูลค่าเกิน 20,000 บาท จะต้องเสียภาษี ทั้งนี้ หากเป็นหน้ากากชนิด N95 ซึ่งกรองเชื้อโรคแบคทีเรียได้ ต้องขอใบอนุญาตรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ก่อน เนื่องจากถือเป็นเครื่องมือทางการแพทย์และเป็นของต้องกำกัด แต่หากเป็นหน้ากากชนิดทั่วไป กันฝุ่นเพียงอย่างเดียว ไม่เข้าข่ายเครื่องมือแพทย์ จึงไม่ต้องขอใบอนุญาตแต่อย่างใด

          อย่างไรก็ตาม ถ้านำหน้ากากอนามัยเข้ามา เพื่อขายต่อ สร้างรายได้ จะต้องเสียภาษี ไม่ว่าจำนวนที่มีนั้นจะมีมูลค่าเกิน 20,000 บาท หรือมีมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท ก็ตาม ดังนั้น ใครที่หัวหมอ แจ้งว่านำเข้ามาเพื่อใช้งาน แต่กลับนำมาขายต่อ หากกรมศุลกากรตรวจพบเข้า จะถูกติดตามให้ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในภายหลัง

          หากใครอยากทราบว่าเราจะต้องเสียภาษีสินค้าที่นำเข้ามาเท่าไร ก็ลองใช้สูตรนี้คำนวณภาษีง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง

          ดังนั้น ค่าภาษีทั้งหมดที่ต้องชำระ = อากรขาเข้า + ภาษีมูลค่าเพิ่ม

          เพราะความต้องการซื้อหน้ากากอนามัยมีจำนวนมาก ทำให้บรรดาร้านค้าอาจฉวยโอกาสโก่งราคาสูง ขณะที่หลายคนก็กักตุนหน้ากากอนามัยไว้ เป็นเหตุให้สินค้าขาดตลาด เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์จึงได้ออกมาตรการ โดยหากพบว่ามีการกักตุนสินค้าและฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรม จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          ทั้งนี้ หากใครพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาโดยไม่เป็นธรรม หรือพบเห็นผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย สามารถร้องเรียนได้ทางสายด่วน 1569 หรือร้องเรียนได้โดยตรง ณ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ทุกจังหวัด

          สรุปว่า การฝากหิ้วหน้ากากอนามัยจากต่างประเทศ ไม่เสียภาษี หากนำมาป้องกัน COVID 19 ไม่ได้นำเข้าเพื่อขายและจำหน่าย และมูลค่าสิ่งของที่นำเข้ามาไม่เกิน 20,000 บาท ใครที่แถวบ้านขาดแคลน หรืออยากได้หน้ากากคุณภาพดีจากต่างประเทศ ก็สามารถสั่งหิ้วได้เลย ไม่ต้องกังวล