เพจดังให้ข้อมูล หลังมีข่าวผู้สูงอายุป่วยเส้นเลือดโป่งพองในท้อง ฉีดวัคซีนโควิด 19 แล้วเสียชีวิต ชี้ไม่น่าเกี่ยวข้อง แต่เป็นโรคที่น่ากลัวเหมือนมีระเบิดเวลาติดตัวอยู่แล้ว ขอประชาชนอย่ากลัวการฉีดวัคซีน
จากกรณีที่ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกแถลงว่า
พบคนไข้ป่วยด้วยโรคเส้นเลือดโป่งพองในท้องเสียชีวิต
ซึ่งเคยได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ด้วย
ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการพิจารณาอาการข้างเคียง
แต่คาดว่าไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน
อ่านข่าว : สธ. แถลงพบคนไข้เส้นเลือดโป่งพองในท้องเสียชีวิต ภายหลังได้รับการวัคซีนโควิด 19
ภาพจาก Drama-addict
วันที่ 25 มีนาคม 2564 แฟนเพจ Drama-addict ได้มีการกล่าวถึงกรณีนี้ว่า จากข่าวที่ว่ามีผู้สูงอายุ อายุ 60
ปี เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามข่าวระบุรายละเอียดการเสียชีวิตว่ามาจากเส้นเลือดใหญ่ในช่องท้องโป่งพองแล้วแตก
ซึ่งเจ้าตัวป่วยเป็นโรคนี้อยู่และอยู่ระหว่างการรักษา
เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องตรวจสอบกันตามระเบียบนะ ถ้ามีคนเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน
แต่เคสนี้พ่อแม่พี่น้องไม่ต้องกลัวการฉีดวัคซีน เพราะไม่น่าเกี่ยวข้องกัน
คือไอ้โรคเส้นเลือดใหญ่ในช่องท้องโป่งพองนี่ เป็นโรคที่น่ากลัว
เหมือนมีระเบิดเวลาติดตัว
สาเหตุเกิดจากเส้นเลือดแดงในช่องท้องมันโป่งพองเหมือนบอลลูน วันดีคืนดีไอ้ผนังเส้นเลือดตรงที่โป่งพองก็จะฉีกขาดแล้วเส้นเลือดที่โป่งพองก็จะแตก ทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงเฉียบพลันและเสียชีวิตในเวลาไม่นาน ที่น่ากลัวสุด ๆ คือ ไอ้โรคนี้เนี่ยประมาณ 20% ของคนที่เป็นแทบไม่เคยแสดงอาการใด ๆ เลย วันดีคืนดีก็แตกโพละออกมา น่ากลัวมาก และอีกประมาณ 75% ก็ตรวจเจอว่าเป็นเพราะความบังเอิญ คือหมอตรวจหาอย่างอื่น คลำไปคลำมา อ้าว เส้นเลือดโป่งพองนี่หว่า
ปัจจัยเสี่ยงที่คนจะเป็นโรคนี้ มีตั้งแต่มีโรคเรื้อรังที่คุมไม่อยู่ เช่น ความดันสูง การสูบบุหรี่ การติดเชื้อหรืออักเสบของเส้นเลือด เคยมีประวัติได้รับอุบัติเหตุหรือกระทบกระเทือนภายในมาก่อน ถ้าใครกลัวเป็นโรคนี้ ก็สังเกตว่ามีอาการปวดท้องแปลก ๆ หรือคลำเจอก้อนที่เต้นตุบ ๆ เหมือนชีพจรเต้นในช่องท้องไหม ถ้ามีรีบไปพบหมอให้ไวครับ
ส่วนเคสรายงานที่ต่างประเทศ ที่มีการเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนบ้าง มักเป็นเคสลิ่มเลือดอุดตัน หรือเลือดออกผิดปกติเพราะเกล็ดเลือดต่ำ แต่ไม่มีรายงานเคสที่เกี่ยวข้องกับเส้นเลือดโป่งพองในท้อง ดังนั้น พ่อแม่พี่น้องที่มีคิวฉีดวัคซีนกันอยู่แล้ว ฉีดต่อไปครับ ไม่ต้องกลัวเพราะข่าวนี้
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่