บีบหัวใจ ญาติผู้ป่วยโควิด 19 แบกถังเข้าคิวครึ่งวัน รอเติมออกซิเจน หวังต่อชีวิตคนที่รัก หลังออกซิเจนขาดแคลน หมอจำต้องเลือกจะให้ใครได้มีลมหายใจต่อ
ภาพจาก MARCIO JAMES / AFP
วันที่ 20 มกราคม 2564 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานภาพบีบหัวใจ ในช่วงเวลาที่ญาติของผู้ป่วยโควิด 19 ต้องหอบหิ้วถังออกซิเจนแสนหนักอึ้ง มาเข้าคิวรอเติมออกซิเจนใส่ถัง เพื่อนำกลับไปให้บุคคลที่พวกเขารักซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเวลาวิกฤต ท่ามกลางความวุ่นวายจากการแพร่ระบาดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในเมืองมาเนาส์ เมืองหลวงของรัฐอามาโซนัส ประเทศบราซิล
ญาติผู้ป่วยเหล่านี้พากันแบกถังออกซิเจนมาต่อแถวบริเวณหน้าบริษัท Carboxi ซึ่งเป็นโรงงานผลิตออกซิเจน พวกเขาเฝ้ารอด้วยความอดทนเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างหนักในวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา โดยพบว่ามีหลายสิบคนที่ต้องเข้าคิวรออยู่นานถึง 12 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ออกซิเจนอันแสนมีค่ากลับไปต่อชีวิตคนในครอบครัว
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางระบบสาธารณสุขของเมืองมาเนาส์ที่เข้าสู่ภาวะวิกฤตอีกครั้ง เมื่อรัฐอามาโซนัสได้กลายมาเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากโคโรนาไวรัสที่มีการกลายพันธุ์ จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น คนไข้ที่ล้นทะลักโรงพยาบาลและห้องไอซียู สวนทางกับอุปกรณ์การแพทย์ที่มีอยู่จำกัด ทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย นอกจากยารักษาโรคที่เริ่มขาดแคลน ออกซิเจนก็ได้กลายเป็นอีกทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด
นอกจากนี้ พบว่าโรงพยาบาลสามารถรับผู้ป่วยใหม่ได้ในจำนวนจำกัด ทำให้มีผู้ป่วยอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ที่บ้าน และบ้างก็เสียชีวิตไป
ภาพจาก MARCIO JAMES / AFP
ทาง เอดูอาร์โด ปาซูเอลโญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของบราซิล ยอมรับว่า รัฐบาลกลางได้ทราบเรื่องเมื่อวันที่ 8 มกราคม ว่าออกซิเจนอาจจะหมดลงในเมืองมาเนาส์ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยหลายรายเสียชีวิตบนเตียงไอซียู ซึ่งเขาได้สั่งการให้เร่งติดตั้งโรงงานผลิตออกซิเจนเพิ่มเติม เพื่อแจกจ่ายออกซิเจนสู่ไอซียูแห่งต่าง ๆ แล้ว
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา ที่มักถูกประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ของบราซิล วิพากษ์วิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง ตัดสินใจส่งความช่วยเหลือมายังรัฐอามาโซนัส ด้วยการส่งรถบรรทุกถังใส่ออกซิเจนมาให้ อย่างไรก็ตาม แม้รัฐอามาโซนัสจะยินดีรับความช่วยเหลือ แต่โบลโซนารูยังไม่วายวิจารณ์มาดูโร
"ถ้าคุณต้องการให้ออกซิเจน เราก็จะรับไว้โดยไม่มีปัญหา แต่เขาเองก็ควรให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ประชาชนของเขาเช่นกัน ค่าแรงขั้นต่ำที่นั่นยังซื้อข้าวแค่ครึ่งกิโลกรัมไม่ได้ด้วยซ้ำ" โบลโซนารู กล่าว
อนึ่ง ขณะนี้บราซิลมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 212,000 รายแล้ว ซึ่งนับเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเลวร้ายอย่างหนัก แต่วัคซีนโควิด 19 ตัวแรกก็ได้ถูกนำมาฉีดแก่ผู้คนในรัฐอามาโซนัสแล้ว นำความหวังมาสู่พื้นที่ดังกล่าว
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก dailymail