รมว.ศึกษาธิการ แจงไม่มีนโยบาย เลือกหน้ากากอนามัยให้เข้ากับชุดนักเรียน มองเป็นเรื่องไร้สาระ ชี้มีผู้ไม่หวังดีพยายามสร้างเรื่องนี้ให้เป็นประเด็น
จากกรณีโลกออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์กฎข้อบังคับการสวมหน้ากากอนามัย ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่นักเรียนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยแบบไม่มีลวดลาย และนักเรียนชายต้องสวมหน้ากากอนามัยสีเข้ม อาทิ ขาว เทา และดำ ส่วนนักเรียนหญิงให้สวมหน้ากากอนามัยสีอ่อน หรือสีขาวเท่านั้น ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของเด็กมากเกินไปนั้น
อ่านข่าว : วิจารณ์ยับรับเปิดเทอม รร. กำหนดแมสก์นักเรียน ห้ามมีลาย-ชายสีเข้ม หญิงสีอ่อน
ล่าสุด (3 มิถุนายน 2563) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้โพสต์ข้อความชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "กระแสข่าวเรื่องหน้ากากถูกระเบียบ การเลือกสีหน้ากากให้เข้ากับชุดนักเรียน เป็นเรื่องไร้สาระสำหรับผมมาก และขอยืนยันว่าไม่ใช่นโยบายที่มาจากกระทรวงศึกษาธิการอย่างแน่นอน หากพบเห็นหรือมีหลักฐานว่าโรงเรียนไหนออกนโยบายนี้ สามารถแจ้งผมตรงนี้ได้เลยครับ"
ล่าสุด (3 มิถุนายน 2563) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้โพสต์ข้อความชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "กระแสข่าวเรื่องหน้ากากถูกระเบียบ การเลือกสีหน้ากากให้เข้ากับชุดนักเรียน เป็นเรื่องไร้สาระสำหรับผมมาก และขอยืนยันว่าไม่ใช่นโยบายที่มาจากกระทรวงศึกษาธิการอย่างแน่นอน หากพบเห็นหรือมีหลักฐานว่าโรงเรียนไหนออกนโยบายนี้ สามารถแจ้งผมตรงนี้ได้เลยครับ"
ภาพจาก ไทยพีบีเอส
ทั้งนี้ นายณัฏฐพล กล่าวอีกว่า สิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญคือ จุดประสงค์ของการใช้หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันโรคโควิด 19 ทั้งจากเราสู่คนอื่น และจากคนอื่นสู่เรา การที่ผู้ไม่หวังดีพยายามสร้างเรื่องนี้ให้เป็นประเด็น นอกจากจะบ่อนทำลายวงการการศึกษาแล้ว ยังเบี่ยงประเด็นจุดประสงค์ของการใช้หน้ากากอนามัยอีกด้วย
จึงขอย้ำตรงนี้และอยากให้ช่วยเผยแพร่ออกไปว่า นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาทุกคน สามารถใช้ได้ทั้งหน้ากากผ้า และหน้ากากอนามัย ที่ถูกสุขอนามัยตามที่กรมอนามัยและกระทรวงสาธารณสุขกำหนด และเคารพในสถานศึกษา
จึงขอย้ำตรงนี้และอยากให้ช่วยเผยแพร่ออกไปว่า นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาทุกคน สามารถใช้ได้ทั้งหน้ากากผ้า และหน้ากากอนามัย ที่ถูกสุขอนามัยตามที่กรมอนามัยและกระทรวงสาธารณสุขกำหนด และเคารพในสถานศึกษา
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Nataphol Teepsuwan - ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ