เปิดใจนักศึกษาสาว 1 ใน 158 คน คืนวันสุวรรณภูมิป่วน ปัดหนีกักตัว แต่รับไม่ได้ถูกยื้อนาน 6 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ไม่ชี้แจงใด ๆ ปล่อยรอจนเปื่อย ชี้บางคนมีเอกสารสำคัญและของมีค่า ไม่สบายใจกักตัวร่วมคนอื่น
จากกรณี ความวุ่นวายที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อคืนวันที่ 3 เมษายน 2563 เนื่องจากผู้โดยสาร 158 คน ที่เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ ปฏิเสธเข้ารับการกักตัวเพื่อดูอาการ COVID-19 ตามมาตรการของรัฐบาลโดยอ้างว่าไม่ทราบว่าเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงเกิดการโต้เถียงกันยืดเยื้อ และได้ออกจากสนามบินไป ไม่ยอมกักตัว ซึ่งต่อมาได้เข้ารายงานตัวครบทั้งหมด เนื่องจากรัฐบาลประกาศจะดำเนินคดีนั้น
อ่านข่าว : คนหนีกักตัวสุวรรณภูมิ รายงานตัวครบแล้ว 158 คน หลัง ตม. ขู่แพร่รายชื่อให้สังคมรู้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Praweenamai Baicloy
ล่าสุด (4 เมษายน 2563) รายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ ทีวี สัมภาษณ์ น.ส.ตูน (นามสมมติ) ผู้เดินทางมารายงานตัว เปิดใจว่า ตนเป็นนักศึกษาไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น และจบการศึกษาพอดี ประกอบกับวีซ่าหมด จึงเดินทางกลับบ้าน ตนเป็นผู้โดยสารไฟลต์แรกจาก 5 ไฟลต์ ที่เดินทางมาถึง โดยก่อนกลับ ตนดำเนินการตามกระบวนการของสถานทูต เมื่อมาถึงก็คัดกรองแล้วว่าไม่มีไข้
โดยเจ้าหน้าที่เชิญให้เข้าไปอยู่ในห้องรับรอง ยึดพาสปอร์ตไป จนเวลาประมาณ
20.00 น. เริ่มมีคนโวยวายว่าเจ้าหน้าที่จะเอาอย่างไร
ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ตอบไม่ได้ ทำให้ต้องรอโดยไม่รู้อะไรเลย ผ่านไปจนถึง 21.00
น. รวมเวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าต้องถูกกักตัวในสถานที่ที่รัฐบาลจัดไว้ให้
ซึ่งจากข้อมูลที่อ่านมาคือสามารถกลับไปกักตัวที่บ้านได้ หลายคนจึงรับไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เรายินดีที่จะกักตัว แต่ทางเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งเราก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้หนี แต่เจ้าหน้าที่ให้เรากลับไปกักตัวที่บ้านเอง นอกจากนี้ คนที่ไม่อยากกักเพราะหลายคนบินกลับมาจากต่างประเทศ มีพวกของมีค่าและเอกสารสำคัญต่าง ๆ ซึ่งการที่ต้องไปอยู่รวมกันอาจรู้สึกไม่สบายใจด้วย
อย่างไรก็ตาม เรายินดีที่จะกักตัว แต่ทางเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งเราก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้หนี แต่เจ้าหน้าที่ให้เรากลับไปกักตัวที่บ้านเอง นอกจากนี้ คนที่ไม่อยากกักเพราะหลายคนบินกลับมาจากต่างประเทศ มีพวกของมีค่าและเอกสารสำคัญต่าง ๆ ซึ่งการที่ต้องไปอยู่รวมกันอาจรู้สึกไม่สบายใจด้วย
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก