พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมสั่งประชุมด่วน หลังกระทรวงต่างประเทศ ฝ่าฝืนคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปล่อยให้ผู้โดยสารเดินทางเข้าไทย ด้าน กระทรวงต่างประเทศออกมาโต้ข่าว พร้อมชี้แจง ขณะที่กรมควบคุมโรค เตรียมเอาผิด 163 ผู้โดยสาร ที่หนีการกักตัว
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 มีรายงานว่า หลังจากที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศ ชะลอการเดินทางเข้าประเทศของคนไทยและคนต่างชาติ ตั้งแต่ 2 - 15 เมษายน 2563 แต่ปรากฏว่า กระทรวงการต่างประเทศ ยังคงออกเอกสารรับรองให้คนไทย และคนต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศไทยตามปกติ
โดยเมื่อวันที่ 3 เมษายน เวลาประมาณ 20.00 น. พบว่ามีผู้โดยสารชาวไทย มากกว่า 100 คน เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และปฏิเสธเข้ารับการกักตัวเพื่อป้องกันโรคโควิด 19 ในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ให้
แต่กลุ่มผู้โดยสารดังกล่าว เรียกร้องให้รัฐบาลส่งตัวแทนมาชี้แจง และทำท่าจะลุกลามเป็นการชุมนุมต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐ จนทหารระดับพลตรีเข้ามาเจรจา ก่อนจะอนุญาตให้ทุกคนเดินทางกลับบ้านได้ โดยกำชับให้ทุกคนต้องกักตัวเอง 14 วัน แม้ว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขจะคัดค้าน แต่ไม่สามารถควบคุมตัวผู้เดินทางทั้งหมดได้
นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขว่า ในจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด พบว่ามีคนเป็นไข้ 3 คน เจ้าหน้าที่แยกกักตัวไว้แล้ว แต่คนกลุ่มนี้อาศัยจังหวะชุลมุน หลบหนีการกักตัวออกจากสนามบินไปด้วย
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุด หลังจากที่มีการละเมิดคำสั่ง ทั้งคำสั่งชะลอการเดินทางเข้าประเทศ และการไม่ยอมรับการกักตัวในสถานที่รัฐกำหนด นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นการด่วน ในวันที่ 4 เมษายน เวลา 09.00 น.
ต่อมา (4 เมษายน 2563) สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น รายงานว่า นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิเสธรายงานข่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศฝ่าฝืนคำสั่งนายกรัฐมนตรี โดยออกเอกสารให้คนเดินทางเข้าประเทศ หลังจากที่มีการประกาศการชะลอการเลื่อนการเข้าไทยไปถึง 15 เมษายน 2563 ดังนี้
1. เมื่อมีประกาศให้ชะลอการเดินทางเข้าประเทศของคนไทย เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2563 สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยได้หยุดรับลงทะเบียนออกหนังสือรับรองเพื่อเดินทางกลับทุกช่องทาง รวมทั้งปิดระบบลงทะเบียนออนไลน์ของกระทรวงการต่างประเทศ
นอกจากนี้ ได้ขอให้คนไทยเคร่งครัดในการหาใบรับรองแพทย์ Fit To Fly ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับ ตามข้อกำหนดของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
2. กลุ่มผู้โดยสารที่เดินทางกลับเข้ามา ตามรายงานข่าว
คือกลุ่มในช่วงรอยต่อ
ซึ่งเดินทางเข้ามาได้เพราะมีหนังสือรับรองและใบรับรองแพทย์ Fit To Fly อายุ
72 ชั่วโมง ที่ออกก่อนหน้าที่จะมีการประกาศให้ชะลอการเดินทาง
3. ในเรื่องกักกันเฝ้าระวังโรค (Quarantine) หลายสถานทูตได้ระบุในประกาศของสถานทูตด้วยแล้ว ว่าหากกลับมาในช่วงนี้ จะถูกกักกันตัวในทุกกรณี ในสถานที่ที่หน่วยงานของรัฐกำหนด 14 วัน
ดังนั้น รายงานข่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศฝืนคำสั่งนายกรัฐมนตรี จึงไม่เป็นความจริง
ขณะที่ จส.100 รายงานเพิ่มเติมว่า ทางเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ได้เตรียมแจ้งความดำเนินคดี 163 ผู้โดยสาร ที่หลบหนีการกักตัวจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยขณะนี้เตรียมคัดรายชื่อส่งแต่ละจังหวัดให้ทำการติดตามตัวต่อไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Praweenamai Baicloy
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จส.100
3. ในเรื่องกักกันเฝ้าระวังโรค (Quarantine) หลายสถานทูตได้ระบุในประกาศของสถานทูตด้วยแล้ว ว่าหากกลับมาในช่วงนี้ จะถูกกักกันตัวในทุกกรณี ในสถานที่ที่หน่วยงานของรัฐกำหนด 14 วัน
ดังนั้น รายงานข่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศฝืนคำสั่งนายกรัฐมนตรี จึงไม่เป็นความจริง
ขณะที่ จส.100 รายงานเพิ่มเติมว่า ทางเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ได้เตรียมแจ้งความดำเนินคดี 163 ผู้โดยสาร ที่หลบหนีการกักตัวจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยขณะนี้เตรียมคัดรายชื่อส่งแต่ละจังหวัดให้ทำการติดตามตัวต่อไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Praweenamai Baicloy
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จส.100