ศบค. เผยเกณฑ์จัดสรรวัคซีน กรกฎาคม 2564 คาดจะเข้าไทยอย่างน้อย 10 ล้านโดส เผยแผน แต่ละจังหวัดได้ไปกี่โดส พร้อมเสนอแผนใหม่ เตรียมหาวัคซีนเพิ่มเป็น 150 ล้านโดส โดยเล็งนำเข้าซิโนแวคเพิ่มอีก 28 ล้านโดส ในปี 2565
ภาพจาก gungpri / Shutterstock.com
วันที่ 18 มิถุนายน 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.
กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. พิจารณาแผนการจัดสรรและจัดหาวัคซีนโควิด 19 ในแต่ละจังหวัดตามที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ
โดยเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนประกอบด้วย
- เป้าหมายให้บริการวัคซีน 10 ล้านโดส
- พิจารณาจัดสรรวัคซีนให้แก่ผู้ที่จองฉีดวัคซีนล่วงหน้าในระบบ หมอพร้อม (กลุ่มผู้สูงอายุ / ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง)
- กรุงเทพฯ และจังหวัดอื่น ๆ อีก 5 จังหวัดสีแดง วางแผนได้รับการจัดสรรวัคซีนอย่างน้อย 5 ล้านโดส ภายในเดือนกรกฎาคม
ภาพจาก ศูนย์ข้อมูล COVID-19
1. พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
(สีแดง) คือ
จังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดในระดับควบคุมสูงสุด เข้มงวด และจังหวัดเศรษฐกิจท่องเที่ยว 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี และภูเก็ต วางเป้าว่าจะต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อยร้อยละ 30
กรุงเทพมหานคร จะได้รับวัคซีนทั้งหมด 2.5 ล้านโดส
นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ จังหวัดละ 6 แสนโดส
ภูเก็ต ได้รับวัคซีนจำนวน 2 แสนโดส
2. พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีส้ม) คือ
จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือมีความเร่งด่วนในการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภายหลังการระบาด จำนวน 23 จังหวัด ทุกจังหวัดรวมกันจะได้รับวัคซีนร้อยละ 25
23 จังหวัดข้างต้น ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก หนองคาย สระแก้ว ระนอง นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี บุรีรัมย์ สุราษฎร์ธานี (อ.เกาะสมุย) พังงา และกระบี่ แต่ละจังหวัด 2.5 ล้านโดส เฉลี่ยจังหวัดละ 1 แสนโดส
ภาพจาก ศูนย์ข้อมูล COVID-19
กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร ตราด นครนายก นครพนม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ น่าน หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ พะเยา มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุรินทร์ อ่างทอง อุดรธานี อุทัยธานี อุตรดิตถ์ อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ได้รับวัคซีนร้อยละ 35 จำนวน 3.5 ล้านโดส เฉลี่ยจังหวัดละ 7 หมื่นโดส
4. อื่น ๆ ได้แก่หน่วยฉีดส่วนกลาง องค์กรภาครัฐ และสำรองส่วนกลางสำหรับตอบโต้การระบาด
จำนวนวัคซีนสำรองคิดเป็นร้อยละ 10
จำนวน 1 ล้านโดส
ทั้งนี้ การจัดสรรวัคซีนขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิตส่งมอบ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์การระบาดของโรค
1. เพิ่มกรอบหาวัคซีนจาก 100 ล้านโดส เป็น 150 ล้านโดส ภายในปี 2565
2. วัคซีนต้องครอบคลุมและเพิ่มกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น
เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของโรค
หรือกรณีอื่นใดที่ต้องมีการใช้วัคซีนเพิ่มเติม
- แอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส
- ซิโนแวค 19.5 ล้านโดส
- ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส
- จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน 5 ล้านโดส
4.วัคซีนที่คาดว่าจะมีการจัดหาเพิ่มเติมอีกเกือบ 5 ล้านโดส ดังนี้
- วัคซีนซิโนแวค ประมาณ 28 ล้านโดส
- วัคซีนโควิดอื่น ๆ ประมาณ 22 ล้านโดส
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีน และสถานการณ์ของเชื้อกลายพันธุ์ เพราะอาจต้องมีเข็ม 3 หรือเข็ม 1 และ 2 สลับกัน ซึ่งตอนนี้นักวิจัยกำลังคิดค้น เพื่อความมั่นคงก็ต้องเตรียมพร้อมและขยายเพดานมากขึ้น
เพจดังติง ไทยจัดหาซิโนแวคเข้ามาเยอะมาก ไม่เข้าใจทำไมไม่ซื้อ ซิโนฟาร์ม
ด้าน เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict โพสต์ภายหลังแผนจัดหาวัคซีนดังกล่าวว่า ภาพรวมถือว่าโอเค แต่ติดใจเรื่องการนำเข้าซิโนแวคเยอะมาก เข้าใจว่าวัคซีนชนิดเชื้อตาย เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับกลุ่มที่ไม่เหมาะกับการฉีดวัคซีนเวกเตอร์ไวรัส หรือ mRNA แต่ถ้าจะซื้อวัคซีนชนิดเชื้อตาย จำนวน 28 ล้านโดส ทำไมจึงไม่ไปซื้อ ซิโนฟาร์ม ที่ประสิทธิภาพดีกว่า