4 ชีวิตในบ้านย่านสายไหม ติดโควิด 19 ประสานตั้งแต่ 8 เม.ย. รถพยาบาลมารับ 14 เม.ย. แค่แม่ที่อาการหนัก พ่อห่วงลูกชายเริ่มแย่ จนเกิดภาพก้มไหว้รถฉุกเฉินที่มารับในวันต่อมา
วันที่ 16 เมษายน 2564 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานเหตุการณ์ที่ นางวนิดา อายุ 40 ปี ผู้ป่วยโควิด 19 ซึ่งพักอยู่ซอยสายไหม 23 กับสมาชิกครอบครัวรวม 4 ราย ติดโควิด 19 แต่มีแค่คุณแม่คนเดียวที่ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนเธอ สามี และลูกชาย ยังไม่ได้รับการรักษา ซึ่งเธอนั้นมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง และไอเป็นเลือด เนื่องจากป่วยโรควัณโรคเป็นโรคประจำตัว
ต่อมา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส. เขตสายไหม ได้รับการขอความช่วยเหลือจากครอบครัวผู้ป่วย ทราบว่าเคยประสานเจ้าหน้าที่เข้ามารับตัวตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน แต่ไม่คืบหน้า จึงประสานไปยังเบอร์โทร 1669 เมื่อวันที่ 14 เมษายน ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามารับ แต่ได้คำตอบว่ารับได้เฉพาะนางวนิดา ที่เป็นผู้ป่วยขั้นวิกฤต ส่วนอีก 2 คนจะมารับภายหลัง
ด้าน นายสุรพล อายุ 41 ปี สามีนางวนิดา เผยว่า ตนติดเชื้อจากที่ทำงาน ตรวจเชื้อวันที่ 8 เมษายน แต่ผลยังไม่ออก พอกลับมาถึงบ้านพบว่าคนในบ้านมีอาการทุกคน จึงประสานโรงพยาบาลให้รับตัวคนในบ้านไปตรวจ แต่ทางโรงพยาบาลปฏิเสธ บอกว่าต้องมีผลยืนยันก่อนว่ามีคนในบ้านติดเชื้อจริง อย่างไรก็ดี เมื่อผลตรวจออกมาว่าตนติดเชื้อในวันที่ 12 เมษายน กลับไม่มีการแจ้งขั้นตอนว่าจะมาช่วยเหลืออย่างไร โทร. ไปที่เบอร์ 1668 และ 1669 จนเงินโทรศัพท์หมดก็ไม่มีใครรับสาย โทร. ไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งก็บอกว่าเตียงเต็มต้องรอคิว ส่วนอาการป่วยตนนั้นยังปกติดี แต่ห่วงลูกชายที่เริ่มแย่ อยากให้ลูกได้รับการรักษา
ขณะที่ ลูกชาย วัย 20 ปี ระบุว่า ตนมีอาการเจ็บหน้าอกและไอหนักมาก ไข้ขึ้น ปวดหัว หน้ามืดจะเป็นลม แน่นหน้าอก เหนื่อยหอบ เบื้องต้นกินยาแก้ไอและจิบน้ำอุ่นมา 2 วันแล้วก็ไม่หาย
ล่าสุด (15 เมษายน) เจ้าหน้าที่ศูนย์เอราวัณ นำรถฉุกเฉินมารับตัวทั้งสองพ่อลูกไปรับการรักษาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้เป็นพ่อถึงกับนั่งไหว้รถฉุกเฉินที่มารับตนและลูกชาย ไปรักษา พร้อมกล่าวว่า "ขอบคุณพระเจ้า สิ้นสุดการรอคอย ได้ไปรักษาเสียที"
ก่อนหน้านี้ ประธานหมู่บ้านเก้าแสนห้า เผยว่า เคยช่วยประสานหน่วยงานมารับตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน แต่ก็ไม่มีหน่วยไหนมารับตัว ขณะที่เพื่อนบ้านในละแวกดังกล่าวเปิดใจว่า พอไม่มีการรับไปรักษา ทำให้คนในหมู่บ้านเก็บตัวอยู่ในบ้าน ไม่มีใครกล้าเดินไปเดินมาเหมือนเมื่อก่อน
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
