หมอยง ภู่วรวรรณ ย้ำ โควิด 19 สายพันธุ์ G เป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในปัจจุบัน ติดง่าย แพร่เชื้อเร็ว แต่โรคไม่ได้รุนแรงขึ้นกว่าสายพันธุ์ก่อน ๆ วัคซีนที่ผลิตกันอยู่ สามารถป้องกันได้
จากกรณีที่ นพ.ยง ภู่วรวรรณ
หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อมูลก่อนหน้านี้
เกี่ยวกับพัฒนาการของเชื้อ Covid 19 สายพันธุ์ใหม่ เรียกว่าสายพันธุ์ G
ที่มีการแพร่กระจายง่ายง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น
เนื่องจากมีปริมาณเชื้อที่ลำคอสูงมาก หากระบาดรอบ 2
ในไทยอาจต้องเตรียมตัวป้องกันอย่างเต็มที่ นั้น
อ่านข่าว : หมอยง ชี้ หากโควิด 19 ระบาดรอบ 2 ในไทยส่อวุ่น เสี่ยงแพร่ไวกว่ารอบแรกเพราะคนละพันธุ์
อ่านข่าว : หมอยง ชี้ หากโควิด 19 ระบาดรอบ 2 ในไทยส่อวุ่น เสี่ยงแพร่ไวกว่ารอบแรกเพราะคนละพันธุ์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan
ล่าสุดวันนี้ (3 สิงหาคม 2563) หมอยง ก็ได้โพสต์ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับวิวัฒนาการของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ G ต่างจากสายพันธุ์ก่อน ๆ อย่างไร มีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน พร้อมย้ำว่า สายพันธุ์ G โรคไม่ได้รุนแรงขึ้น
โดยหมอยง เผยว่า โควิด 19 สายพันธุ์ G มีการเปลี่ยนแปลงกรดอะมิโน จากเดิมคือ Aspartate (D) ในตำแหน่งที่ 614 ของ spike โปรตีน หรือเรียกว่า D614 ไปเป็น Glycine เรียกว่า G614 คือกรดอะมิโนของ spike หรือหนามแหลมที่ยื่นออกมา ในตำแหน่งที่ 614 จากสายพันธุ์เดิม ถ้าตรวจพบว่าเป็น Glycine ก็จะเรียกว่า G type
การเปลี่ยนกรดอะมิโนตัวเดียว ไม่ได้ทำให้รูปร่างของโปรตีน spike เปลี่ยนแปลงไป แต่การเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งนี้ มีผลทำให้ปลดปล่อยไวรัส หรือแพร่กระจายไวรัสออกมาได้มากขึ้น
พบว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ โรคไม่ได้รุนแรงขึ้น แต่มีการแพร่กระจายเชื้อได้มากขึ้น ทำให้ไวรัสสายพันธุ์นี้แพร่กระจายไปได้มากกว่า ตามหลักวิวัฒนาการ จึงเป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในปัจจุบัน ดังนั้น สายพันธุ์ที่แพร่กระจายได้น้อยกว่า ก็จะถูกเบียดบังให้น้อยลงไป
ทั้งนี้ ระบบภูมิต้านทานของโปรตีนใน spike หรือหนามแหลมที่ยื่นออกมา เป็นส่วนที่กระตุ้นให้สร้างภูมิต้านทาน รูปร่างไม่ได้เปลี่ยนแปลง ภูมิต้านทานจากวัคซีนที่ผลิตกันอยู่ ก็สามารถป้องกันได้ ไม่ว่าจะเป็น type ไหนของไวรัส
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan