หนุ่มเมินคำเตือนพ่อแม่ ออกไปลั้ลลากับแก๊งเพื่อน แถมไม่ใส่หน้ากาก สุดท้ายติดโควิด-19 ทำติดโรคกันทั้งบ้าน ฝ่ายพ่ออาการหนัก ต้องเข้าไอซียู ใช้เครื่องช่วยหายใจพยุงชีพ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก John Place
วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ มีรายงานเหตุการณ์ที่ครอบครัวหนึ่งต้องเผชิญท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (COVID-19) เมื่อพ่อผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวต้องลงเอยด้วยการอยู่ในห้องไอซียู ใช้เครื่องหายใจพยุงชีวิต หลังจากที่ลูกชายเมินเฉยคำเตือนจากพ่อแม่ ออกไปรวมแก๊งเฮฮากับกลุ่มเพื่อนแทนที่จะอยู่แค่ในบ้าน แถมยังถอดหน้ากากอนามัยขณะอยู่กับคนอื่น ๆ จนทำให้ตัวเองติดไวรัส และทำให้คนในบ้านอีก 4 ชีวิตได้รับเชื้อเช่นกัน
โดย มิเชล ซีเม็ต แม่วัย 42 ปี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเธอมักจะเตือนลูกชายคนโต ซึ่งอายุ 21 ปี อยู่ตลอดว่าเขาควรจะอยู่บ้าน และพยายามห้ามเขาไม่ให้ไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ ในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา แต่เขาก็ไม่ยอมเชื่อฟัง เธอยังขอร้องเขาทุกครั้งที่เขาจะออกจากบ้าน ขอให้ใส่หน้ากากอนามัยและพกเจลล้างมือไปด้วย เธอเตือนให้เขาล้างมือบ่อย ๆ ซึ่งเขาก็ตอบกลับเพียงว่า "อย่าห่วงไปเลยน่าแม่ ผมทำทุกอย่างได้ถูกต้องแหละ ผ่อนคลายน่า ชิล ๆ"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก John Place
แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ป้องกันตัวเองอย่างรัดกุม จริงอยู่ที่เด็กหนุ่มสวมหน้ากากอนามัยตอนไปบ้านเพื่อน แต่สุดท้ายก็มีบางช่วงที่เขาถอดหน้ากากออก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก John Place
ด้าน มิเชล ซึ่งเล็กเห็นว่ายังมีคนหนุ่มสาวอีกมากที่เมินเฉยต่อคำแนะนำทางด้านสาธารณสุข ยังฝากเตือนใจไปถึงคนอื่น ๆ ด้วยว่า "คุณปล่อยให้การ์ดตกเพียงครั้งเดียวก็จบกัน คุณกลับมาบ้าน แล้วทำให้คนทั้งบ้านติดเชื้อ"
ทั้งนี้ มิเชลยังเผยว่าตอนนี้อาการของสามีเธอดีขึ้นมาก เขาเพิ่งนำเครื่องช่วยหายใจออกได้ แต่หมอก็ยังไม่วางใจนัก เพราะเขายังมีโอกาสที่อาการจะทรุดหนักจนต้องกลับมาใช้เครื่องช่วยหายใจได้ตลอดเวลา หรืออาจจะมีปัญหาอื่น ๆ เกิดขึ้น เขายังอยู่ในสภาพเปราะบางมาก ๆ โดยตอนนี้ทางครอบครัวก็ได้จัดตั้งเพจระดมทุน เพื่อหวังได้รับการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลของสามีในการเจ็บป่วยครั้งนี้
>> อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID 19 << ได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก นิวยอร์กโพสต์